แสนคะนึงเดินเข้าห้องขังแล้วทรุดตัวลงนั่งที่มุมหนึ่งของห้องด้วยท่าทีนิ่งสงบ กวาดตามองไปรอบๆ พื้นที่สี่เหลี่ยมคับแคบที่ล้อมด้วยลูกกรงก็ถอนหายใจยอมรับสภาพ
รู้แหละว่าตัวเองหุนหันเกินไป...
ถ้าเธอยอมทำตาม ทุกอย่างก็คงจบ สามีห่วยๆ คงช่วยให้เธอรอดคุกได้ไม่ยาก แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรจู่ๆ ความรู้สึกก็ตีรวนจนเธอเกิดน้อยใจที่เห็นสองคนอยู่เคียงข้างกัน เห็นเขาปกปักห่วงใยผู้หญิงคนนั้น แต่กลับมองเธอเหมือนเป็นคนร้าย ดูคล้ายกับภาพเดจาวูที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งหลายหน ในอกของเธอเต็มไปด้วยไฟริษยาที่แผดเผาให้ปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ในหัวมีกรีดร้องอยากจะวิ่งเข้าไปกระชากตัวหล่อนให้ออกห่างจากเขาเสียเดี๋ยวนั้น
หรือว่าเธอจะเป็นคนร้ายอย่างที่ถูกพวกเขากล่าวหาจริงๆ ...!?
เพราะรักมากหวงมาก เธอจึงทำใจที่จะปล่อยให้สามีไปมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ เมื่อไฟริษยาบังตาความอิจฉาครอบงำหัวใจ บางทีคนเราอาจจะทำเรื่องโง่ๆ ลงไปโดยไม่รู้ตัว เธออาจจะเผลอทำร้ายชู้รักของสามีด้วยอารมณ์ชั่ววูบก็เป็นได้
เฮ้อออ...โง่ชะมัด!
โทษผู้หญิงด้วยกันจะมีประโยชน์อะไร ตบมือข้างเดีวดังเสียที่ไหน ในเมื่อผู้ชายหมดใจกับเราแล้ว ถึงไม่มีหล่อน เขาก็เที่ยววิ่งแรดไปหาผู้หญิงคนใหม่ได้อยู่ดี ก็มีแต่ตัวเราเองนี่แหละที่จมปลักอยู่กับความเจ็บปวด ชีวิตพังยับเพราะผู้ชายชั่วๆ แค่คนเดียว
ไม่คุ้มกันซะเลย!
เฮอะ...เธอเดาไม่ผิดหรอก ก็ขนาดเธอนอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ห้องก็ไม่ไกลกันกับคนรักใหม่ของเขาแท้ๆ คนเป็นสามียังไม่คิดจะมาเยี่ยมกันเลย มัวแต่คอยดูแลประคบประหงมเอาใจชู้รักอยู่ไม่ห่าง ตอนที่แม่ของผู้หญิงคนนั้นพาตำรวจมาจับเธอ เขาก็ไม่คิดจะออกหน้าช่วยเหลือ เอาแต่ยืนนิ่งไม่มีปากไม่มีเสียง ไม่เหลียวแลกันเลยสักนิด
แค่นี้ก็พิสูจน์หัวใจของเขาที่มีต่อเธอได้แล้ว...
ผู้ชายคนนี้ไม่รักเธออีกแล้ว ถึงขั้นสิ้นเยื่อใยต่อกันด้วยซ้ำ เธอคิดถูกแล้วที่ไม่ยอมก้มหัวขอร้องอ้อนวอนเขา ถึงย้อนกลับไปเลือกใหม่ได้ เธอก็คงทำเหมือนเดิมอยู่ดี แสนคะนึงไม่ต้องการความสงสารเห็นใจจากเขา ยิ่งพอเห็นสีหน้ายิ้มเยาะของผู้หญิงคนนั้น ความรู้สึกในใจของเธอก็ยิ่งต่อต้านรุนแรง หัวใจสั่งว่าต่อให้ต้องติดคุกจริงๆ เธอก็จะไม่มีวันร้องขอหรือยอมก้มหัวให้หล่อนเป็นอันขาด
เชอะ...ผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ
มักมาก ไม่รู้จักพอ!
ต่อให้หล่อ รวย เพอร์เฟกต์ แล้วมันยังไง ถ้าใจเขาไม่ได้รักเราคนเดียวมีเราคนเดียว ผู้ชายแบบนี้น่ารังเกียจที่สุดในสายตาเธอ ถ้าเลือกได้เธอขออยู่ห่างให้ไกลสุดขอบจักรวาลไปเลย ไม่สิ...สาบานเลยว่าถ้าเธอออกจากห้องขังไปได้ ไม่ต้องรอให้เขาเป็นคนเอ่ยปากขอหย่าหรอก เธอนี่แหละจะบุกออฟฟิศลากตัวเขาไปหย่าที่สำนักงานเขตให้ดู
หญิงสาวพ่นลมหายใจแรงๆ ฮึดฮัดขัดใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทอดถอนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมัวโมโหไอ้ผัวชั่วคนนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องคิดอย่างเร่งด่วนคือเธอจะหาทางออกจากที่นี่ไปได้อย่างไร ตอนถูกตำรวจจับมาเธอไม่มีเงินและโทรศัพท์มือถือติดตัวมาเลย จะโทร. ไปขอความช่วยเหลือใครก็ไม่ได้ จะให้พ่อแม่ที่อยู่ทางภาคอีสานมาประกันตัวก็ดูจะลำบากลำบน เธอไม่อยากให้พวกท่านพลอยตกอกตกใจเพราะอายุอานามก็มากแล้ว จะโทร. หาเพื่อนก็เหมือนมีอยู่คนเดียวที่ยอมคบเธอ แถมตอนนี้หล่อนน่าจะกำลังทำหน้าที่อยู่บนเครื่องบินจนหัวหมุน
เฮ้อออออ....เอาไงดีล่ะ?
แสนคะนึงนั่งกอดเข่าอย่างหนักอก สมองตื้อตันคิดอะไรไม่ออก ยังมองไม่เห็นหนทางรอดของตัวเอง แถมตอนนี้หัวก็ยังมาปวดตุบๆ ไม่ยอมหยุดอีก คงเป็นเพราะเจอเรื่องเครียดกระหน่ำเข้ามาชุดใหญ่ แล้วไหนจะบาดแผลที่ดันมาระบมเอาตอนนี้อีกล่ะ...
แสนคะนึงหลับตาแน่น ยกมือกุมศรีษะ นั่งซบหน้าลงกับเข่า ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อลดความทรมานของอาการปวด ใช้มือที่เหลือสวมกอดให้ไออุ่นตัวเอง ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว ย้ำซ้ำๆ คล้ายกำลังสะกิดจิตตัวเองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผล็อยหลับไป