“ฉันท้อง... ท้องกับแทน เราสองคนกำลังจะมีลูกด้วยกัน”
ทันทีที่น้ำเสียงยินดีสิ้นสุดพร้อมกับสายตาเยาะเย้ยที่มองเธออย่างผู้ชนะ แสนคะนึงก็ได้ยินเสียงหัวใจที่ถูกฉีกกระชากจนแตกสลายดังลั่นอยู่ในหู ตัวเธอเกร็งกระตุกเฮือก สติสัมปชัญญะขาดผึงจนไม่รู้สึกตัว สายตาดุร้ายของเธอเหลือบเห็นมีดปอกผลไม้ มือคว้าไปหยิบมันขึ้นมากำแน่นโดยอัตโนมัติ
เธอพยายามส่งเสียงร้องห้ามปรามตัวเองที่กำลังวู่วาม ตะโกนจนคอหอยแทบแตก แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง มันพุ่งตัวไปข้างหน้าจุดหมายคือร่างกายที่มีเลือดเนื้อของผู้หญิงที่จงใจยั่วยุอารมณ์ของเธอ เธอจะเสียบมันให้มิดด้ามเลย ให้สมกับความเจ็บปวดและความริษยาที่คลั่งแค้นอยู่ในใจ
แสนคะนึงแสยะยิ้มเหี้ยม เมื่อปลายมีดคมกริบกำลังจะเจาะเข้าเนื้อหนังมังสาของคนที่เธอเกลียดแสนเกลียดสมดังใจ แต่แล้วตัวเธอก็ถูกอะไรบางอย่างคว้าหมับเหวี่ยงออกไปเต็มแรง ร่างบอบบางกระแทกกับราวบันไดเหล็กเข้าจังๆ จนตัวงอ น้ำตาไหลทะลักอาบหน้าจนมองไม่เห็นใบหน้าของคนที่ทำร้ายเธอ แต่ร่างสูงโปร่งของเขาช่างทำให้เธอคุ้นตาคุ้นใจเปี่ยมไปด้วยความคิดถึงโหยหาเหลือเกิน
“คุณเป็นบ้าอะไรห๊า!!!” เสียงห้าวทุ้มตวาดลั่นดุจสายฟ้าฟาดกัมปนาทใส่หน้าเธอ มองผู้หญิงที่เคยอ่อนโยนกลายร่างเป็นผีร้ายไล่แทงคนอนย่างไม่อยากจะเชื่อ
แสนคะนึงตัวแข็งทื่อเป็นหิน ลมหายใจสะดุดห้วงแน่นหน้าอก ความปวดร้าวพุ่งพรวดจู่โจมเข้าใส่เธอให้ยิ่งทุรนทุราย แทบแดดิ้นอยู่ต่อหน้าพวกเขา
ภาพนี้อีกแล้ว...
ภาพที่เขาเอาตัวเข้ามาขวางปกป้องผู้หญิงคนอื่น ท่าทีเกรี้ยวกราดด่าทอเธออย่างรุนแรงโดยไม่ฟังต้นสายปลายเหตุ แววตาดุดันที่โกรธสุดขีดมองเธอด้วยความผิดหวัง ก่อนจะกลายเป็นความชิงชังรังเกียจ
รังเกียจงั้นหรือ?
แสนคะนึงยิ้มขื่น ก็เพราะใครล่ะที่บีบให้เธอต้องกลายเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่ใช่แววตาแบบนี้รึไงที่เขาใช้มองเธอแล้วทำให้เจ็บเจียนคลั่ง ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ซ่อนรอยยิ้มเยาะและสีหน้าเป็นต่อซุกอยู่ในอกอุ่นที่เคยเป็นที่ของเธอ
เขาจะรู้บ้างไหมว่าทำเธอเจ็บมากแค่ไหน?
“คุณปกป้องมัน คุณรักมันใช่มั้ย?” เธอยกมีดชี้หน้า แผดเสียงสู้ไม่ยอมแพ้ จ้องหน้าเขาเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ที่กล้ายืนโอบกอดผู้หญิงแพศยาแนบแน่นอย่างห่วงใยทะนุถนอมต่อหน้าต่อตาเธอ
“อีนี่มันตอแหล ทำทุกอย่างให้เราผิดใจกัน มันอยากให้เราเลิกกัน คุณโง่จนตาบอดมองไม่เห็นรึไง”
“เลิกบ้าสักที” เขาข่มใจเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ริมฝีปากเม้มแน่นเผยให้เห็นว่าหมดความอดทนอดกลั้นถึงขีดสุด มันเกินกว่าความขึ้งโกรธของเขาที่จะเธอจินตนาการได้ ฟ้องชัดว่าเขาแสนจะเบื่อหน่ายเธอเต็มที
“ใช่สิ...ฉันมันบ้า ฉันเป็นนางมารร้ายในสายตาคุณ วันๆ เอาแต่เที่ยวอาละวาด ตามระรานผู้หญิงของคุณเพราะความหึงหวง ทำให้คุณอับอายขายขี้หน้าคนไปทั่ว ชื่อเสียงของครอบครัวคุณต้องมามัวหมองก็เพราะผู้หญิงจนๆ เป็นแค่ลูกชาวสวนอย่างฉัน ฉันมันไม่เจียมตัวริอ่านมารักกับคนรวยๆ อย่างคุณ คุณคงเบื่อฉันมากใช่มั้ย รำคาญฉันมากใช่มั้ย อยากจะหย่ากับฉันใจจะขาดแล้วใช่มั้ย!”
“ใช่!!!” เขาโพล่งออกมาเสียงดัง พลางกัดฟันกรอดๆ
แสนคะนึงสะอึกนิ่งอึ้งเหมือนถูกสาป น้ำตาร่วงเผาะ เนื้อตัวชาดิกจนไร้ความรู้สึก ยกเว้นหัวใจที่ยังเต้นตุบๆ ด้วยความรวดร้าวเจ็บปวดที่ยิ่งทวีมากขึ้น เพราะฝีมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกับชู้รักของเขา คำพูดของเขาไม่เพียงบีบรัดหัวใจเธอ แต่สีหน้าเบื่อหน่ายและแววตาเย็นชาที่มองกันยังดับลมหายใจของเธอตามไปด้วย ผลักดันทำให้เธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“จะหย่ากับฉันเหรอคะ?” แสนคะนึงคลี่ยิ้มอ่อนหวานปะปนไปด้วยความขื่นขม “งั้นรอให้ฉันตายก่อนก็แล้วกัน”
พูดจบมือที่จับราวบันไดเอาไว้แน่นก็คลายออก ร่างอรชรบอบบางโอนเอนเอียงไปด้านหลัง ก่อนจะหงายตกลงไปตามขั้นบันไดที่สูงชันกระทบพื้นหินอ่อนขั้นแล้วขั้นเล่า ศีรษะกระแทกกับขอบแง่งจังๆ จนแตก ร่างกายพลิกกลับไปมาอยู่หลายตลบ กระทั่งหยุดนิ่งนอนหายใจอ่อนระรวยอยู่ที่พื้นเชิงบันได
เธอกำลังจะตายแล้วใช่ไหม?
แสนคะนึงยิ้มเยาะตัวเองที่เกิดจะมากลัวตายเอาตอนนี้ ทั้งที่ตอนทำเมื่อกี้กลับไม่ยั้งคิด คงเป็นเพราะเธอรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งเนื้อทั้งตัวละมั้ง
ความรู้สึกของคนใกล้ตายมันเป็นแบบนี้เองสินะ...
เจ็บปวด สูญเสีย หวาดกลัวและสิ้นหวัง!
แต่เอาเถอะ...อีกเดี๋ยวเธอก็ไปสบายแล้ว ตายก็ตาย เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องปวด ไม่รู้สึกรู้สาหรือทนทุกข์ทรมานอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว
รอยยิ้มขื่นๆ พลันงดงามสดใสผิดกับดวงตาสุกสกาวที่ค่อยๆ หม่นแสงไร้ประกายแววาวเหมือนคนตาย ภาพทุกภาพในหัวถูกความมืดมิดกลืนกินอีกครั้ง ดวงตาของเธอทั้งคู่มืดบอดสนิท แต่ประสาทหูกลับดีเยี่ยมได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่รอบๆ แต่จับใจความอะไรไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียว
แสนคะนึงนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น จิตใจของเธอสงบมากจนไม่รู้ว่ากำลังเสียใจหรือเฉยๆ กันแน่ มีเพียงหยดน้ำตาร่วงหล่นจากหางตาหยดหนึ่ง พร้อมกับคำคิดคำนึงที่แรงกล้าว่า
ลืมเขาซะ...
ลืมให้หมด! ลบให้สิ้น!
จากกันตลอดกาล อย่าได้พานพบกันอีกเลย
ลาก่อน...