ห้างดังกลางใจเมือง
จิณห์วราเดินเหม่อลอยเคียงข้างกับเพื่อนสาวคนสนิทและแฟนหนุ่มของเพื่อน เธอตั้งใจที่จะหลบหน้าเขา แต่เธอคงหลบได้อีกไม่นาน เพราะวันจันทร์หน้าก็จะต้องเผชิญหน้าและได้พูดคุยกับเขาอีกครั้งอยู่ดี ในหัวก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิตตัวเองไว้แล้วสำหรับวันข้างหน้า
“จีน่าแกไหวหรือเปล่า เดินเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจเลยนะ” พลอยไพลินถามขึ้น ทำเอาคนที่ถูกถามต้องหันหน้ากลับมายิ้มพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนิดหน่อยน่ะพลอย ขอบคุณแกมากนะพลอยที่ชวนฉันออกมาทานข้าวเที่ยงวันนี้ด้วย”
“แกจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนี่นา ต่อไปฉันก็ไม่ได้พบเจอแกบ่อยอีกแล้ว แกแน่ใจเหรอจีน่าว่าแกจะกลับไปอยู่ที่นั่นได้จริง ๆ?”
“ฉันเกิดและเติบโตกับที่นั่นมานะ ทำไมจะอยู่ไม่ได้ล่ะ ที่บ้านนั้นก็ยังมียายอยู่อีกคน ดีซะอีกฉันจะได้กลับไปดูแลยายด้วย ปีนี้ยายฉันแก่มากแล้วนะพลอย ป่วยออด ๆ แอด ๆ แทบจะทุกเดือนเลย มันอาจจะสบายใจมากกว่าอยู่ที่นี่ก็ได้ ก็อย่างที่แกรับรู้นั่นแหละว่าฉันคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ฉันเลือกแล้วนะพลอยและเป็นสิ่งเดียวที่ฉันคิดว่าฉันเลือกได้ถูกต้องที่สุดแล้วอะแก”
ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง จับจ้องมองหน้าเพื่อนรักกับแฟนหนุ่มลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง คนที่ช่วยเธอเลือกทางเดินชีวิตใหม่ ซึ่งเธอไม่อาจรู้ได้เลยว่าอนาคตของวันพรุ่งนี้มันจะเป็นแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่เธอตัดสินใจทำลงไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับชีวิตและตัวเองแล้วจริง ๆ
พลอยไพลินยื่นมือไปกอบกุมมือของเพื่อนสาวเอาไว้อย่างให้กำลังใจ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้จักมักคุ้นมาตั้งแต่เรียนปริญญาตรีปี 1 เธอรู้ดีว่าชีวิตของจิณห์วราน่าสงสารมากแค่ไหน แม้จะเสนองานใหม่ให้เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปอยู่ต่างจังหวัดอีก แต่เพราะเพื่อนตัดสินใจแล้วก็คงต้องเคารพการตัดสินใจนั้นของเพื่อนอยู่ดี
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ติดต่อมาแล้วกันนะ แต่ห้ามลืมฉันเด็ดขาดนะจีน่า”
“ฉันไม่ลืมหรอก แฟนแกมีพระคุณกับฉันมากนะพลอย ฉันสัญญาว่าถ้าเขาคลอดออกมา แกกับพี่หมอจะได้เห็นหน้าเป็นคนแรก”
“ฉันดีใจกับแกนะจีน่า หวังว่าสิ่งที่แกเลือกแล้ว มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของแกได้มีความสุขที่แท้จริง แกอยากได้ของขวัญอะไรไหม เดี๋ยวฉันกับพี่หมอจะซื้อให้เป็นพิเศษเลย”
“แค่เลี้ยงข้าววันนี้ ฉันก็ขอบคุณมากแล้ว ไม่ได้อยากได้อะไรทั้งนั้น เพราะชีวิตของฉันตอนนี้ ฉันมีสิ่งที่มีค่าที่สุดอยู่ในนี้”
ฝ่ามือเรียวแตะสัมผัสที่หน้าท้องของตัวเองอีกครั้ง และยิ้มทั้งน้ำตาที่ล้นเอ่ออย่างอดไม่ได้ แม้ว่าในอนาคตลูกจะขาดพ่อไปคนหนึ่งก็ตาม แต่จะให้ทำร้ายสิ่งบริสุทธิ์ที่เกิดจากความพลาดพลั้งของเธอและเขา เธอก็ทำไม่ลงจริง ๆ เพราะความผิดทั้งหมดคือเธอที่สะเพร่า ลูกไม่มีความผิดและบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะทำร้ายเขาได้
พลอยไพลินโอบกอดเพื่อนสนิทเอาไว้แน่นอีกครั้ง เข้าใจความรู้สึก รับรู้ถึงความเจ็บปวดเสียใจที่เพื่อนรักบากหน้ามาร้องขอให้ช่วยเหลือเมื่อหลายวันก่อน เธอเองก็ไม่เคยคิดว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างพ่อของลูกในท้องจิณห์วราจะเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ รักสนุกแต่ไม่อยากผูกพัน โปรไฟล์ที่สร้างกับร่างที่เป็นช่างสวนทางกันมากขนาดนี้ ผู้ชายที่สาว ๆ ใฝ่ฝันอยากจะได้เป็นสามีและพ่อของลูก แต่จะมีสักกี่คนที่รับรู้ว่าเขาก็ไม่ต่างจากซาตานที่ไร้หัวใจเลย
หน้าคอนโดP
จิณห์วราเดินทางกลับถึงคอนโดที่พักตอนบ่ายสามโมงครึ่ง หญิงสาวก้าวลงจากรถแท็กซี่และกำลังจะเดินเข้าไปภายในตึกที่พัก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลภัสวัฒน์เดินออกจากลิฟต์มาด้วยใบหน้าบึ้งตึงเหมือนมีเรื่องหงุดหงิดมาก ก่อนที่คนทั้งคู่จะเผชิญหน้ากันและกันอีกครั้ง ดวงตาคมดุจ้องมองเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อเธอเลยในเวลานี้
“ไปไหนมา เวลาฉันโทรหาทำไมไม่รู้จักรับสายฮะ! ไม่รู้หรือยังไงว่าฉันยืนกดออดอยู่หน้าห้องนานนับครึ่งชั่วโมงแล้ว ไหนบอกว่าไม่สบาย!” น้ำเสียงเขาดูไม่ค่อยเป็นมิตร เหมือนจะตะคอกใส่หน้าเธอด้วยซ้ำ คนที่ถูกต่อว่ายืนนิ่งและมองจ้องหน้าเขา
“ค่ะ จีน่าไม่สบาย เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล ขอโทษที่ไม่ได้รับสายนะคะพอดีปิดเสียงไว้ โทรศัพท์ก็ไม่ได้สั่นเตือน เลยไม่รู้ว่าคุณโทรหา”
ใบหน้าสวยที่ดูซีด เธอไม่ได้ยิ้มแย้มให้กับคนตรงหน้าเหมือนทุกครั้งที่ได้พบเจอกัน ลภัสวัฒน์เข้าใจว่าหญิงสาวยังคงโกรธเขาในเรื่องวันนั้นอยู่ แต่เขาไม่ได้อยากใส่ใจสักเท่าไหร่นักกับเรื่องนั้น ซึ่งมันรบกวนใจเขาอยู่มากเช่นกัน
“ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยงั้นสิ เป็นอะไร?”
จิณห์วราไม่ตอบก่อนที่เธอจะเดินผ่านหน้าของเขาไป และตรงไปยังลิฟต์ของคอนโดที่จะนำพาตัวเองขึ้นไปยังห้องพักบนชั้น 10 ขาสูงยาวรีบก้าวเดินตามหลังของหญิงสาวไปติด ๆ เพราะที่มาหาเธอในวันนี้ก็ยังคงอยากพูดคุยเรื่องที่ชวนให้ทะเลาะกันในวันนั้นให้รู้เรื่องอีกครั้ง
“เดินหนีหน้าทำไม ฉันถามทำไมไม่ตอบฮะ?”
เสียงทุ้มถามขึ้น ขณะที่ภายในลิฟต์มีเพียงเขาและเธออยู่ด้วยกันสองต่อสอง หญิงสาวปรายหางตามองหน้าเขาเพียงครู่
“ถึงห้องพักก่อนนะคะแล้วจีน่าจะพูดคุยกับคุณลีโอ ขออยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ สัก 2-3 นาทีได้ไหม จีน่าเหนื่อย รู้สึกเพลียและยังรู้สึกไม่หายดี”
หญิงสาวขยับตัวให้หลังได้พิงกับผนังลิฟต์ พร้อมหลับตาลงช้า ๆ พยายามขับไล่ทุกความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในใจทิ้ง เพียงแค่เห็นหน้าเขา เธอก็อยากร้องไห้ แต่เธอจะไม่อ่อนแอให้เขาต้องได้เห็นในเวลานี้
ยังมีเรื่องสำคัญมากกว่าที่เธออยากจะพูดอยากจะคุยกับเขา แม้จะเร็วขึ้นกว่าแพลนที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะพูดคุยวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ สุดท้ายก็คงต้องได้พูดคุยกันอยู่ดี
ลภัสวัฒน์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีกเช่นกัน เขาหันหน้าไปมองหญิงสาวที่หลับตานิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ เธอไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนจนชวนให้รู้สึกใจหาย เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายบึ้งตึงไม่ยิ้มทัก เพราะทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเขา เธอจะยิ้มดีใจและมีความสุขที่สุดเสมอ แต่วันนี้มันกลับไม่ใช่ มีเพียงความตึงเครียด มีเพียงความอึดอัดซึ่งยากที่จะอธิบายได้เหมือนกัน...