ความลับของคุณแม่แตกแล้ว
มยุรีเป็นเด็กสาวที่ถูกเก็บมาเลี้ยง บ้านของเธออยู่ในป่าลึก แม่มีอาชีพทำสวน พ่อมีอาชีพล่าสัตว์ พี่ชายทำอาชีพขนของป่าไปขายในเมือง
เด็กสาวกับพี่ชายไม่ใช้ลูกแท้ๆของพ่อและแม่ เพราะทั้งคู่ต่างถูกเก็บมาเลี้ยงจากคนละหมู่บ้าน
พอโตเป็นสาวมักมีเรื่องประหลาดเกิดกับเธอ ทั้งมีคนมาลูบมาคลำตอนหลับ มีคนแอบดูเธออาบน้ำ และมากกว่านั้นคือถึงเนื้อถึงตัว
ในที่สุดก็เกิดเรื่องผิดบาปขึ้นจนได้ ทว่าเรื่องบาปที่ว่านั้นเกิดจากผู้ชายที่มากกว่าหนึ่งคน
...................................................................................................................................................
แนะนำตัวละคร
มยุรี ลูกเลี้ยง เป็นนางเอก อายุสิบแปดปี
มยุรา แม่เลี้ยง
มนัส พ่อเลี้ยง
มนูญลูกชาย (ลูกเลี้ยง)
..........................................................................................................................
ลำนำไพรไฟสวรรค์
ตอน ความลับของคุณแม่แตกแล้ว
จิ๊บ! ๆ ๆ เสียงนกโห่ร้องแต่เช้าตรู่
ณ.ป่าลึกแห่งหนึ่ง
มองไปโดยรอบเห็นแต่ต้นไม้เขียวขจี มีบ้านเล็กๆ ในป่าใหญ่หลายหมู่บ้าน
ตัวเรือนแต่ละเรือนห่างกันลิบตา บ้านทำด้วยไม้และหลังคามุงจากทุกหลัง
ถนนยังเป็นดิน ไร้รถราและยานพาหนะใด สองข้างทางเดินมีหญ้ารกสูงท่วมหัว
บ้านหลังนึงมีควันฟืนลอยฟุ้งออกมาตลบอบอวล
ปรากฏร่างเด็กสาววัยสิบเก้าปีกำลังนั่งยองๆ ถือหม้อดิน
ฟู่ว! ๆ ๆ เธอก้มเป่าฟืนในเตาถ่านจนไฟลุกโชน
ผมยาวสีดำขลับมัดจุกไว้หลางหลัง ใบหน้าเล็กเรียวสะอาดสะอ้าน ริมฝีปากสีชมพูเรียวบางพ่นลมใส่เตา
กรุบ! ๆ มือน้อยกำถ่านดำๆ โยนลงไปกองทับฟืน
จ๊อก! ๆ ๆ น้ำในกระบอกไม้ไผ่รินลงหม้อดิน ตั้งอังไว้บนเตาถ่านแล้วหันไปหยิบหม้อข้าวสาร
กร่อก! ๆ ๆ เด็กสาวกรอกข้าวลงในหม้อ ใช้นิ้วชี้จุ่มวัดแล้วเติมน้ำเข้าไปจนท่วมข้อนิ้วมือ
"มยุรี เสร็จรึยังลูก" เสียงมนัส พรานหนุ่มวัยสี่สิบเรียกหาลูกสาว
"ค่ะ" เด็กสาวตอบพ่อแล้ววิ่งลงบานไม้ไต้ถุนสูง
เธอวิ่งมายืนข้างพรานหนุ่มที่ร่างกายกำยำคล้ายนักมวย เค้านุ่งเพียงกางเกงตัวเดียว เปลือยท่อนบนที่มีกล้ามลีนๆ อาบสายลมยามเช้า
"ไหนดูซิ แก้มดำหมดเลย" พรานหนุ่มก้มจับแก้มลูกสาว ใช้หลังมือหยาบใหญ่ปาดถ่านที่ติดแก้มสีชมพู
ฮิ! ๆ เด็กสาวยิ้มมุมปาก รู้สึกจั๊กกะจี๋ทันทีที่มือสากๆ บาดแก้มอันนวลนุ่ม
"ต้มไก่ใช่ไหมคะ" ลูกสาวก้มมองเนื้อไก่ป่าที่คุณพ่อหั่นใส่ไว้ในจานสังกะสี
"อื่ม รีบไปทำกับข้าวไป เดี๋ยวพี่กับแม่มาจากสวนจะหิวแย่" พรานหนุ่มกล่าวแล้วหยีผมสีดำขลับบนหัวลูก
"ฮิ ๆ ค่ะ" มยุรียิ้มแป้นก่อนจะถือจานวิ่งขึ้นเรือน เธอรู้สึกโชคดีที่เกิดเป็นลูกคนเล็ก เพราะทั้งพ่อและแม่ต่างก็เอ็นดูมากกว่าใคร
"เอาเผ็ดๆ นะ" เสียงพ่อตะโกนตามหลัง
"เผ็ด ตายแล้ว ลืมเก็บพริกขี้หนูมา" เด็กสาวพึมพำอยู่บนบ้าน
รองเท้าแตะที่ทำจากยางรถสีดำสวมพันถึงเท้าเล็กขาวอมชมพู แปะ! ๆ ๆ มยุรีวิ่งไปทางสวนริมลำธาร
แฮ่ก! ๆ ๆ เด็กสาวหอบเหนื่อยด้วยว่าสวนผักของแม่อยู่ห่างจากบ้านถึงครึ่งกิโลเมตร
ซู่ม! ๆ ๆ พอใกล้ถึงสวนเด็กสาวกลับได้ยินเสียงคลื่นน้ำในลำธาร
"แอ๊ะ กวางลงเล่นน้ำรึเปล่า" เด็กสาวพึมพำขณะก้มย่องผ่านสวนผักลงมาทางเนินดินริมน้ำ
โอ๊ย! ๆ ๆ เสียงผู้หญิงร้องโหยหวนราวกับเจ็บปวดทุรนทุราย
ภาพที่เห็นทำเด็กสาวถึงกับหน้าชา ร่างขาวโพลนของคุณแม่ที่เคารพกำลังยืนหันโก่งตูดหลังให้พี่ชาย สองมือหล่อนก้มยันตลิ่งริมน้ำ สองเต้าขาวโพลนห้อยหย่อนลงมา
ตัวพี่ชายก็ยืนในน้ำที่ลึกเสมอขา เค้าโยกเอวกระแทกลำเอ็นเข้าใส่จากด้านหลัง หน้าขาฟาดตูดงอนใหญ่จนแดงเป็นปื้นๆ
ป่าบ! ๆ ๆ หนุ่มวัยยี่สองจับสะโพกคุณแม่รั้งขึ้นแล้วโยกเอวกระแทกลำเอ็นแดงๆ เข้าใส่ร่องสวาทของหล่อนอย่างไม่บันยะบันยัง
กร่อด! ๆ ๆ เค้าขบกัดฟันอย่างเมามันส์
อร๊า! ๆ โอ๊ย! คุณแม่เอนหลังพิงอกล่ำๆ ส่ายสะโพกไปมาในสภาพร้องเสียงหลง
อื้อ! ๆ ๆ ๆ หล่อนเงยหน้ามองขึ้นฟ้าแล้วใช้สองมือขยำเต้าของตัวเองจนเหลวล้นง่ามนิ้ว
ป๊าบ! ๆ ๆ พี่ชายกัดฟันซอยยิกๆ น้ำเสียวคุณแม่ไหลออกมาอาบลำเอ็นแดงๆ เป็นมันวับ ก่อนจะล้นแท่งเอ็นแล้วหยาดลงลำธารติ๋งๆ
ตุ๊บ! มยุรีทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นดิน สองมือกำหมัดแน่น
คับแค้นในอกเหมือนร่างจะแตก ทว่ากลับรู้สึกร้อนรุ่มเช่นกัน
ใจนึงอยากจะกรี๊ดให้คนที่เธอรักทั้งคู่หยุดกิจกรรมอันเลวทรามนี้ อีกใจนึงอยากจะวิ่งกลับบ้านไปบอกคุณพ่อ
ทว่าแขนขาเล็กเรียวอ่อนระทวยจนไร้เรี่ยวแรงแม้จะลุกยืน
แฮ่ก! ๆ ๆ เด็กสาวเหงื่อตกจากปลายจมูกลงพื้นดิน หอบหายใจระทวยเมื่อเห็นแท่งเอ็นยาวโง้งของพี่ชายวิ่งรูดเข้ารูดออกรูสาวคุณแม่ที่เคารพนับถือ