จนกระทั่ง.....
วันที่คิรากรและกุลพัทธ์ต้องรู้ความจริงว่า บิดาของคิรากรกำลังจะแต่งงานใหม่กับมารดาของกุลพัทธ์ คิรากรฟิวส์ขาดขึ้นมาทันที เขาไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่มารดา เขาไม่สามารถรับคุณกุลธิดาเข้ามาแทนที่ได้ และที่ยิ่งเจ็บปวดกว่านั้นก็คือกุลพัทธ์ผู้หญิงที่เขาหลงรัก คือบุตรสาวของคนที่กำลังจะเข้ามาแทนที่มารดาของเขา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจจบความสัมพันธ์ทั้งหมดกับหญิงสาว
“เราเลิกกันเถอะเอย” คิรากรเอ่ยคำนี้ออกมาด้วยความยากลำบาก แต่เขาไม่สามารถรักบุตรสาวของคนที่กำลังจะเข้ามาแทนที่มารดาของเขาได้ ถึงแม้ว่าใครจะมองว่ามันไม่มีเหตุผล แต่ชายหนุ่มก็ไม่สามารถทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
หลังจากที่คิรากรเอ่ยคำนี้ออกมา ทำให้กุลพัทธ์น้ำตาร่วงด้วยความเสียใจ เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำเท่ากับเขาเข้ามาเหยียบในหัวใจกุลพัทธ์ ทำให้หัวใจของเธอแหลกสลายอย่างไม่มีชิ้นดี หญิงสาวนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ แต่เธอก็ไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดเพื่อจะรั้งเขาไว้ เพราะเธอทราบดีว่าเขาคงไม่สามารถรักเธอที่เป็นบุตรคุณกุลธิดาได้ ดังนั้นเธอจึงปล่อยให้เขาเดินไปจากชีวิตของเธอ ถึงแม้ว่าเรื่องราวของเธอกับเขาจะไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่ก็ดีกว่าฝืนคบกันไปแล้วต้องเจ็บปวดทั้งคู่ เสียใจวันนี้ก่อนที่ความสัมพันธ์จะมากจนไม่สามารถถอนตัวได้
คิรากรเดินออกไปจากตรงนั้น ทั้งที่เขาก็เสียใจไม่ต่างกัน เขาคิดว่าเธอคือคนที่เขารัก และพร้อมที่จะใช้ชีวิตด้วยกันไปจนแก่เฒ่า แต่วันนี้เรื่องของบิดาของเขา และมารดาของเธอกลับทำให้ทุกอย่างพังลงในพริบตา หลังจากวันนี้ทั้งคู่ก็ต้องจบความสัมพันธ์ลงอย่างเจ็บปวด และต้องใช้ระยะเวลาแสนนานกว่าที่ทั้งคู่จะกลับมาคุยกันได้อีกครั้งในฐานะเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลวาโย
เพราะคุณคณินตัดสินใจใช้ทุนคืนให้กับรัฐบาล ก่อนที่จะบังคับให้ทั้งคู่เข้ามาเป็นแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลวาโย โดยที่ทั้งคิรากรและกุลพัทธ์ไม่สามารถปฏิเสธได้
“อย่าไปว่าน้องสิกร” คุณคณินเอ่ยขึ้นมาทำให้กุลพัทธ์กลับมาสู่ปัจจุบัน
“ไม่ว่าได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อผมไม่ต้องการแต่งงานกับเอย” คิรากรเอ่ยออกมาเสียงห้วน ทำให้คุณคณินตบโซฟาเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
“ฉันให้เวลาแกหาคนที่จะมาเป็นสะใภ้ตั้งหลายปีแกก็ไม่หา ตอนนี้ฉันอยากเห็นหน้าทายาทของฉันก่อนที่ฉันจะตายแกทำให้พ่อคนนี้ไม่ได้หรือไง” คุณคณินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ถึงเวลาผมก็แต่งเองแหล่ะครับ คุณพ่อไม่จำเป็นต้องมาบังคับผม” คิรากรยังคงแรงกลับเข้าใส่คุณคณิน
“แกต้องแต่งเพราะฉันทำพินัยกรรมให้ยกสมบัติให้แกกับหนูเอย แต่หากคนใดคนหนึ่งไม่ยอมรับเงื่อนไขของพินัยกรรม สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นขององค์กรการกุศล” คุณคณินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งสิ่งที่ท่านเอ่ยออกมาทำให้คิรากรและกุลพัทธ์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะท่านกำลังมัดมือชกทั้งคู่อย่างที่ไม่อาจเลี่ยงได้เลย
“คุณลุงคะ ได้โปรดยกเลิกเงื่อนไขนี้เถอะค่ะ เอยไม่ได้อยากได้สมบัติของคุณลุงแม้แต่นิดเดียว แค่คุณลุงเมตตาเอยก็มากเกินพอแล้วนะคะ” กุลพัทธ์กล่าวด้วยความจริงจัง
“ลุงตัดสินใจแล้วหนูเอย” คุณคณินเอ่ยออกมาเสียงอ่อน