“ในเมื่อคุณพ่อเลือกแบบนี้ งั้นผมก็ไม่ต้องมีอะไรที่ต้องเกรงใจอีกต่อไป” คิรากรกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจ “ขอโทษนะครับน้าดา” คิรากรหันมากล่าวกับคุณกุลธิดา ก่อนที่เขาจะจับที่ข้อมือของกุลพัทธ์แล้วกระชากเธอเดินตามเขาออกไปทันที
“แกจะทำอะไรเจ้ากร ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ” คุณคณินเอ่ยด้วยความไม่พอใจ และตะโกนไล่หลังชายหนุ่มที่จับมือหญิงสาวเดินออกไปด้วยความรุนแรง
“ก็พาไปเข้าหอไงครับ คุณพ่ออยากให้ผมแต่งงานไม่ใช่เหรอครับ ถ้างั้นก็ลัดไปที่เข้าหอเลยแล้วกัน” คิรากรเอ่ยด้วยน้ำเสียเย้ยหยัน ในเมื่อบิดาของเขาไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเขา ถ้างั้นเขาก็คงไม่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของใครเช่นกัน
“แกอย่าทำแบบนั้นนะเจ้ากร” คุณคณินรีบตามคิรากรออกมา ในขณะที่คุณกุลธิดาก็ตามรีบตามออกมาเช่นกัน
“คุณกรคะอย่าทำอะไรน้องเลยนะน้าขอร้อง” คุณกุลธิดาเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เงียบมาตลอด
“อย่าห้ามผมเลยครับ ผมก็ยอมแต่งงานแล้วนี่นา จะผิดอะไรถ้าผมจะขอเข้าหอก่อน” คิรากรแค่นเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมาบังคับเขาเช่นนี้ แต่เมื่อไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เขาก็ขอทำอะไรเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจบ้าง
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณกร” กุลพัทธ์พยายามสะบัดมือออกด้วยความไม่พอใจ แต่ยิ่งเธอสะบัดมือของเขาก็ยิ่งบีบรัดแน่นขึ้น
“ฉันไม่ปล่อยเธอหรอก เธออยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่นนี่นา คราวนี้จะมาร้องขอให้ฉันปล่อย ฝันไปเถอะแม่ตัวดี” คิรากรเอ่ยออกมาเสียงเหี้ยม เขาคิดว่ากุลพัทธ์รู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยินยอมง่ายๆอย่างแน่นอน คราวนี้จะมาทำท่าเล่นตัวให้เขาปล่อยไม่มีทาง ในเมื่ออยากเป็นเมียเขาจนตัวสั่น ชายหนุ่มก็จะขอตอบสนองความต้องการของเธออย่างเต็มที่
“คุณจะบ้าเหรอคุณกร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณกำลังทำสิ่งที่แย่มากคุณรู้ตัวมั้ย” กุลพัทธ์ตะคอกชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
“ฉันไม่รู้หรอกว่ามันแย่มั้ย แต่คนที่รวมหัวกับพ่อฉันบีบบังคับให้ฉันต้องแต่งงานด้วยมันคือเธอไม่ใช่เหรอ แม่คนหน้าซื่อใจเสือ” คิรากรกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นที่สุด
“เลิกมโนแล้วปล่อยฉัน ทุกอย่างฉันก็เพิ่งรู้พร้อมกันกับคุณ” กุลพัทธ์สะมืออีกข้างตบเข้าไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มเพื่อเรียกสติของเขา แต่สิ่งที่เธอทำไม่ได้เรียกสติของเขาให้กลับมา แต่มันกลับเป็นการเพิ่มโทสะของเขาเป็นอย่างมาก ตอนนี้เส้นการควบคุมอารมณ์ของชายหนุ่มขาดผึงขึ้นมาทันที