ต อ น ที่ 7 เปิดเกม

2372 คำ
ต อ น ที่ 7 เปิดเกม หยดน้ำตาใสๆ ที่พยายามบีบออกมาในตอนแรกเหือดหายไปในทันที ตอนนี้หัวสมองของเธอมีแต่ความว่างเปล่า โรแซนมองลึกไปในดวงตาคมราวกับกำลังพยายามค้นหาคำตอบบางอย่าง แต่เธอก็คาดเดาอะไรในดวงตาคู่นี้ไม่ได้เลย โรแซนเบือนหน้าหนี เมื่อไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปในสถานการณ์ชวนอึดอัดนี้ วัลดัสเองก็เช่นกัน “กินข้าว” วัลดัสเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศ ก่อนจะหยิบถ้วยครีมซุปมาเตรียมป้อนคนตัวเล็กอีกครั้ง “ทำแบบนี้ทำไมคะ” โรแซนเอ่ยถามขึ้นเพื่อคลายความสงสัยในใจ “ทำอะไร” “ทำดีไงคะ” “ฉันก็ดีกับเธอมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว” “แซนเป็นคนพิเศษเหรอคะ” “เธอเป็นเลขาของฉัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ใกล้ชิดฉันมากที่สุด” “ถ้าเหตุผลแค่นั้นไม่ต้องมาทำดีกับแซนหรอกค่ะ” โรแซนตอบเสียงเรียบ “แซนไม่อยากทำแบบนี้ต่อไปแล้วจริงๆ ค่ะ” โรแซนบอก เพราะความรู้สึกแวบหนึ่งที่เธอเผลอหวั่นไหวตอนเขาสัมผัสเธออย่างอ่อนโยน ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา หากปล่อยให้ทุกอย่างถลำลึกไปมากกว่านี้เธอจะหาทางออกจากปัญหานี้ไม่ได้ “เริ่มแค่วันเดียวก็อยากเลิกแล้วเหรอ ไม่เห็นคุ้มกับเงินที่ฉันจ่ายเธอเลย อีกอย่างฉันยังไม่ได้ทำผิดข้อตกลงของเรา เพราะฉะนั้นเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น” วัลดัสบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้โรแซนยิ่งรู้สึกผิดพลาดกับการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนี้ “ก็ได้ค่ะ ถ้าแค่ร่างกายที่บอสอยากได้จากแซน” โรแซนบอกพร้อมกับหยิบถ้วยซุปในมือวัลดัสมาตักทานอย่างว่าง่าย “แล้วถ้าต้องการมากกว่านั้นต้องทำยังไง” “...” มือเรียวที่กำลังตักครีมซุปเข้าปากหยุดชะงักไป เมื่อได้ยินประโยคถัดมาของวัลดัส “บอสต้องการอะไรคะ” “เธอ” “...” เป็นอีกครั้งที่หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ โรแซนเหลือบมองวัลดัสด้วยสายตาว่างเปล่า เธอพยายามเก็บซ่อนอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองเอาไว้ ไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้หรือเปล่าที่ทำให้จิตใจเธอไม่มั่นคงได้ขนาดนี้ หรือเพราะการใกล้ชิดกับเขากันแน่ “กินเสร็จแล้วกินยาด้วย” วัลดัสบอกก่อนจะลุกเดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้โรแซนใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง วัลดัสเดินออกมาสูบบุหรี่ริมระเบียงด้วยความรู้สึกสับสน เหมือนการกระทำเมื่อครู่ไม่ใช่ตัวเขาเองยังไงยังงั้น เขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำแบบนั้นไปทำไม สองชั่วโมงผ่านไป โรแซนที่นั่งตกตะกอนความคิดของตัวเองอยู่นานพอสมควรเดินออกมาจากห้องแดง ไปหาวัลดัสที่นั่งจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ห้องครัว ทำให้เขาหันมาปรายตามองเธอเป็นเชิงคำถาม “ออกมาทำไม” “ปลดโซ่ให้แซนแล้ว แซนออกมาไม่ได้เหรอคะ หรือจะขังแซนเอาไว้ในห้องนั้นตามความต้องการของบอส” “เมื่อไหร่จะเลิกยอกย้อนฉันสักที” “ก็ตอนปากกับการกระทำของบอสมันตรงกันมั้งคะ ขอดื่มด้วยได้ไหม” โรแซนบอกพร้อมกับปีนขึ้นไปนั่งเก้าอี้บาร์ตัวสูงข้างๆ เขาพร้อมกับแย่งแก้วเครื่องดื่มในมือเขาอย่างถือวิสาสะ แต่ยังไม่ทันที่จะได้กระดกดื่มเขาก็แย่งมันกลับคืนไป “ไม่สบายอยู่” “หายแล้วค่ะ” โรแซนบอกพร้อมกับจับมือหนามาวางทาบลงบนซีกแก้มนวล เธอเอียงคอมองเขาด้วยแววตาใสซื่อราวกับเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง “หายแล้วก็ไปนอนพัก ร่างกายเธอยังไม่หายดี” วัลดัสดึงมือออก พร้อมกับกระดกแก้วเครื่องดื่มในมือลงคอรวดเดียว เมื่อจู่ๆ หัวใจแกร่งก็เผลอกระตุกวูบไปครู่หนึ่ง “สนใจด้วยเหรอคะ แซนบอกแล้วไงว่าถ้าเป็นห่วงแค่เพราะแซนเป็นเลขาของบอส บอสไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” โรแซนตอบกลับหวังยั่วยุให้อีกฝ่ายเปิดเผยความในใจออกมา “เธอไม่ใช่แค่เลขา แต่เธอเป็นผู้หญิงของฉัน พอใจแล้วใช่ไหม” วัลดัสหันกลับมาตอบหญิงสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตายังคงไร้ความรู้สึกเหมือนอย่างเคย แต่นั่นก็เป็นคำตอบที่ทำให้หญิงสาวพึงพอใจเป็นอย่างมาก “ก็ไม่ถึงกับพอใจซะทีเดียวหรอกค่ะ ถ้าแซนเป็นผู้หญิงของบอส บอสก็ควรปฏิบัติต่อแซนให้เหมือนกับแซนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นที่พึ่ง เป็นคนปกป้องและก็ต้องไม่ใช้ความรุนแรงแบบที่เคยทำด้วย” “ฉันไม่เคยปฏิบัติแบบนั้นกับผู้หญิง จะผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าขัดใจฉัน ฉันก็ปฏิบัติเหมือนกันหมด” วัลดัสตอบอย่างไม่ยี่หระ “แต่แซนเป็นผู้หญิงของบอสไม่ใช่เหรอคะ ไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น” โรแซนพยายามใช้น้ำเสียงที่นิ่งเรียบ หลอกล่อให้อีกฝ่ายเผยความรู้สึกของตัวเองออกมา “อยากเป็นผู้หญิงของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” “ก็บอสอยากได้แซนก่อนนี่คะ ถ้าอยากได้แซนก็ต้องรับแซนเป็นผู้หญิงของบอส ไม่ใช่นางบำเรอ” “ฉันชอบผู้หญิงว่านอนสอนง่าย ไม่ใช่คนหัวรั้นอย่างเธอ” วัลดัสตอบกลับด้วยแววตามีเลศนัย “ถ้าบอสใจดีกับแซน แซนจะดื้อกับบอสทำไมกันคะ มันก็วินวินกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอคะ ถึงข้อตกลงของเราจะวางเดิมพันด้วยเงินก็จริง แต่ปัจจัยเสริมอื่นๆ มันก็สำคัญไม่ใช่เหรอคะ” โรแซนพยายามต่อรองกับข้อเสนอใหม่ เพราะหลังจากนั่งทบทวนตัวเองอยู่นาน เธอก็อยากจะลองเอาชนะเขาดูสักครั้ง หากสำเร็จเธอก็จะได้ทุกอย่างที่เป็นของเขา แต่หากมันไม่สำเร็จเธอก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไรเท่าไหร่ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วและเขาก็แสดงออกมาโดยการให้ความหวังเธอ มันก็น่าที่เธอจะลองลงเล่นเกมกับเขาดูสักครั้ง “เธอเป็นผู้หญิงฉลาดนะโรแซน แต่คนที่เธอจะเล่นเกมด้วยมันไม่ใช่ฉัน” วัลดัสกระตุกยิ้มมุมปาก ใช่ว่าเขาจะรู้ไม่ทันความคิดของเธอเสียทีเดียว น้ำตาก่อนหน้านี้เขาก็รู้ว่ามันเป็นของปลอม โรแซนที่เขาเฝ้าดูมาตลอดไม่มีทางร้องไห้เพราะเรื่องแค่นั้นแน่ แต่ที่เขาจูบเธอก็เพื่อเปิดเกมให้เธอเข้ามาในเกมของเขาเท่านั้น คนอย่างโรแซนหากไม่ใช้ไม้อ่อนเข้าดัด เธอคงจะไม่มานั่งยื่นข้อต่อรองกับเขาแบบนี้ ที่กล้าทำแบบนี้เพราะคิดว่าตัวเองได้เปรียบ แต่ความจริงแล้วเธอเองต่างหากที่กำลังติดกับของเขา สามชั่วโมงต่อมา หลังจากตกลงข้อตกลงใหม่กันเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศระหว่างเขากับเธอก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง สถานะเจ้านายลูกน้องถูกตัดออกไปเมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเพียงลำพังตามข้อตกลง “พรุ่งนี้จะได้กลับไปทำงานแล้วรู้สึกไม่ชินเลยค่ะ” โรแซนเอ่ยขึ้นขณะกำลังนั่งทานมื้อกลางวันอยู่กับวัลดัสที่เอาแต่จ้องมองมาที่เธอโดยไม่ยอมทานอะไรเลย “ทำไม” “ก็อะไรๆ ระหว่างเรามันเปลี่ยนแปลงไปเยอะนี่คะ” โรแซนเงยหน้ามองใบหน้าคมคายฝั่งตรงข้าม “คุณไม่ทานเหรอคะ” “ไม่หิว” “ดื่มเหล้าแต่หัววันยังไม่ได้ทานอะไรเลยไม่ใช่เหรอคะ ทานสักหน่อยดีกว่าค่ะ” “อยากกินเธอ” “แซนเจ็บอยู่ค่ะ ขอพักวันหนึ่งได้ไหมคะ” “แล้วถ้าฉันตอบว่าไม่ได้ล่ะ” “แซนห้ามอะไรคุณไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ถ้าอยากจะเอาแต่ใจจนไม่สนใจว่าแซนจะเป็นยังไง แซนก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” โรแซนแสร้งตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “หึ” วัลดัสแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ให้กับการแสดงของหญิงสาว พร้อมกับยื่นมือไปจับมือเรียวที่กำลังจะตักเส้นสปาเกตตีเข้าปากตัวเอง มาแย่งทานแทน “พอใจรึยัง” วัลดัสตอบเสียงเรียบ ก่อนจะโน้มตัวกลับไปนั่งที่เดิม “หลอกจูบแซนเหรอคะ” “ทำไมฉันต้องหลอก ในเมื่อฉันจะจูบเธอเมื่อไหร่ก็ได้” พูดจบวัลดัสก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินอ้อมไปจูบโรแซนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาสามารถทำมันได้จริงๆ “อืม” ปลายลิ้นเล็กตวัดเกี่ยวพันปลายลิ้นหนาที่สอดแทรกเข้ามาอย่างเอาใจ มือเรียวโอบกอดลำคอหนาเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวในขณะที่วัลดัสใช้แขนค้ำยันโต๊ะอาหารกับพนักเก้าอี้เอาไว้ ริมฝีปากหนาถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง สายตาคมจ้องมองลึกไปในดวงตาคู่สวยของเลขาสาวที่เมื่อสามชั่วโมงก่อนพึ่งจะเลื่อนสถานะมาเป็นผู้หญิงของเขา ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา “มองแบบนี้กำลังหาคำตอบอะไรอยู่เหรอคะ” “อยากรู้ว่าเธอจะเล่นเกมนี้ยังไง” “บอกแล้วมันจะสนุกเหรอคะ ถ้ารู้ทันกันไปหมดจะเรียกว่าเกมได้เหรอคะ” โรแซนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ถึงวัลดัสจะจับได้ถึงการแสดงของเธอ แต่เธอก็มั่นใจว่าสิ่งที่เขาแสดงตอบกลับมามันต้องมีข้อได้เปรียบของเธออยู่ในนั้น “เล่นให้ดีแล้วกัน อย่าพลาดตกหลุมพรางตัวเองล่ะ” “บอกตัวเองเหรอคะ” โรแซนบอกพร้อมกับเลื่อนริมฝีปากอวบอิ่มขึ้นไปจูบสันกรามคมเบาๆ ด้วยสายตายั่วยวน “เล่นให้สนุกล่ะ ฉันจะเป็นคนเดินตามเกมเธอเอง” วัลดัสกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่นอกระเบียงปล่อยให้โรแซนนั่งทานอาหารกลางวันต่อเพียงลำพัง ตกเย็น “อาบน้ำกันไหมคะ” โรแซนในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเดินมาหย่อนสะโพกมนลงบนหน้าตักแกร่ง “เคลียร์งานอยู่ รอแป๊บหนึ่ง” วัลดัสบอกพร้อมกับเลื่อนดูรายงานในแท็บเล็ต โรแซนจึงนั่งเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของเขา รอไม่นานวัลดัสก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่งเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ร่างบางถูกวางลงบนพื้นภายในห้องน้ำอย่างระมัดระวัง เพราะตรงใจกลางความเป็นสาวของเธอยังไม่หายดีเท่าไหร่ มือเรียวเอื้อมไปถอดเสื้อยืดสีขาวของมาเฟียหนุ่มออกอย่างเอาใจ ก่อนจะเลื่อนลงไปถอดกางเกงวอร์มสีดำออกเป็นปราการถัดมา เธอปรายตามองลำกายใหญ่ที่ผงาดอยู่ตรงหน้าเพียงนิด จากนั้นจึงถอดชุดคลุมอาบน้ำของตัวเองออก แล้วเดินไปลงอ่างอาบน้ำจากุซซีที่เธอเตรียมน้ำและฟองสบู่เอาไว้ก่อนหน้านี้ วัลดัสเดินตามลงไปนั่งซ้อนแผ่นหลังบางภายในอ่างอาบน้ำจากุซซีขนาดใหญ่ “รู้สึกแปลกๆ ดีนะคะ” โรแซนพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับเอนหลังพิงหน้าอกแกร่งเพื่อผ่อนคลายร่างกายไปกับสายน้ำวนที่หมุนอยู่รอบๆ กายเธอ “อะไรตอนนี้มันก็ใหม่ไปหมดนั่นแหละ” “นั่นสิคะ ถ้าเก่าแล้วก็คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ คงจะถูกเฉดหัวทิ้งไปแล้วมั้งคะ” วัลดัสไม่ตอบอะไรกลับไป แต่หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายไปกับสายน้ำตามคนตัวเล็ก ทว่าหลับตาได้ไม่นานก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อลำกายใหญ่ถูกมือเรียวจับเล่นด้วยความซุกซน “ไม่ใช่ของเล่น” วัลดัสบอกเสียงต่ำ “อยากเล่นนี่คะ ขอเล่นหน่อยไม่ได้เหรอ” โรแซนบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “เล่นแล้วต้องรับผิดชอบด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเล่นแล้วจะหยุดเล่นเมื่อไหร่ ก็ได้” วัลดัสโน้มลงไปกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ จนอีกฝ่ายรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “รับผิดชอบยังไงคะ ใช่แบบนี้รึเปล่า” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงยั่วยวนขณะที่มือเรียวกำรูดลำกายใหญ่ขึ้นลงอย่างสนุกมือ ร่างบางพลิกตัวหันหน้าเข้าหาใบหน้าคมคาย พร้อมทั้งจัดแจงให้เขาขึ้นไปนั่งบนขอบจากุซซีอย่างเอาแต่ใจ ทำให้ตอนนี้ลำกายใหญ่เลื่อนตำแหน่งมาอยู่ตรงหน้าของเธอแทน โรแซนเหลือบมองใบหน้าไร้อารมณ์ของมาเฟียหนุ่มด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ในใจลึกๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงมันออกมาทางสีหน้า ปลายลิ้นเล็กตวัดเลียหัวเห็ดปลายบานที่ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำจากฝักบัวก่อนหน้านี้เบาๆ โดยไม่ลืมที่จะเหลือบมองปฏิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่าย “อืม” โรแซนคำรามในลำคอเบาๆ กับความใหญ่โตของมาเฟียหนุ่มที่คับแน่นอยู่ในโพรงปากของเธอ ใบหน้าคมคายที่นิ่งเรียบในตอนแรก แสดงอารมณ์เสียวซ่านออกมาเมื่อไม่สามารถเก็บซ่อนเอาไว้ได้อีกต่อไป ริมฝีปากเล็กเริ่มออกแรงดูดดุน หัวเห็ดปลายบานให้แรงขึ้นตามแก่นกายใหญ่ที่กระตุกเกร็งถี่ๆ อยู่ในโพรงปากเล็กอย่างรู้งาน จนกระทั่งแก่นกายใหญ่กระตุกเกร็งปลดปล่อยสายธารน้ำรักเข้าไปในโพรงปากเล็กทุกหยาดหยด “อ๊าสสสสสสสสสสส” วัลดัสกระตุกสะโพกสอบเข้าไปในโพรงปากเล็กจนสำลักหน้าแดงก่ำ “แค่ก! แค่ก!” โรแซนใช้มือปาดคราบน้ำคาวรักที่ล้นออกมาพร้อมกับตวัดปลายลิ้นเลียริมฝีปากด้วยท่าทางยั่วยวน “แก้ขัดคืนนี้ไปก่อนได้ไหมคะ” โรแซนเอ่ยถามเสียงหวาน เพราะเธอรู้ว่าวัลดัสต้องปลดปล่อยทุกคืนเพราะเมื่อก่อนเธอเป็นคนหาผู้หญิงมาสนองความต้องการของเขาด้วยตัวเธอเอง แต่ในเมื่อตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เธอไม่ต้องหาผู้หญิงพวกนั้นให้เขาแล้ว เธอก็ต้องเป็นคนจัดการมันให้เขาด้วยตัวเธอเอง เพื่อให้เขา...ไปจากเธอไม่ได้  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม