สุ้มเสียงเชิงเว้าวอนกับสายตาที่แสดงความปรารถนาอย่างมากล้นออกมา เหมือนเพลิงกัลป์ที่โลมเลียให้เธอร้อนรุ่มไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
ชานชวินทร์เท้าแขนลงบนโต๊ะล็อคช่วงล่างเธอไว้ไม่ให้ขยับหนี เขาเอียงคอด้วยท่าทางเชื่องซึมเหมือนลูกหมาตัวโต ทั้งที่เป็นสัตว์ล่าเนื้อที่ตั้งท่าจะกินเหยื่ออยู่รอมร่อ
ร้ายเดียงสาจะตาย..
“แต่พี่ชานยังไม่ตอบคำถามจ้าวเลย..”
คนที่พยายามเปลี่ยนเรื่องยิ้มเจื่อน ตั้งตัวรับไม่ทันกับโหมดดุดันของชานชวินทร์ ที่โถมเข้ามาไม่ให้พักหายใจหายคอกันเลยทีเดียว
“ทำไมถึงชอบคะ”
“ถ้าพี่ตอบแล้วจะได้อะไรเหรอครับ”
เจ้าของสายตาเจ้าเล่ห์เลิกคิ้วถาม ก่อนจะใช้ความเงียบกดดันเพื่อรอคำตอบ
เขาถนัดเหลือเกินที่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็เก่งในเรื่องควบคุมอีกฝ่ายโดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังเดินอยู่ในเกมของเขา
“แล้วพี่ชาน.. อยากได้อะไรคะ” เสียงหวานพูดออกไป ทั้งที่ไม่กล้าสบตาคู่สนทนาโดยตรง
“ถ้าพี่บอกสิ่งที่อยากได้ พี่จะได้จริงเหรอ” เขาถามกลับ พลางใช้มือเกลี่ยไรผมที่ปรกหน้าออกให้
“ก็ลองบอกมาก่อนสิ”
“พี่อยากได้เธอ”
“พี่ชาน”
“พี่บอกสิ่งที่พี่ต้องการแล้ว เธอจะให้พี่มั้ย”
ประโยคที่เขาบอกว่าต้องการและอยากได้ ส่งผลให้สายตาคมคายเป็นประกายวาบหวาม ราวกับไฟแห่งความปรารถนาลุกโชนขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่ง
จันจ้าวเม้มริมฝีปากด้วยความประหม่า เธอหลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อดึงสติตัวเองกลับมา มือวางทาบบนแผงอกกำยำท่ามกลางลมหายใจที่ขาดห้วงไป
“ถ้าพี่บอกว่าตอนนี้พี่ต้องการเธอจนแทบทนไม่ไหว เธอจะว่ายังไง” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำปนแหบพร่า สายตาหลุบมองต่ำลงตรงกลางกาย ทำเอาเธอนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้ามองตาม
“คือจ้าว..”
“หือ”
“จ้าวไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”
ชานชวินทร์กระตุกยิ้มมุมปาก เขาจับแขนเธอมาพาดไว้บนบ่า มือก็โอบกระชับเอวคอดกิ่วให้เข้ามาใกล้ จนใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
“พี่สอนให้”
“แต่จ้าวกลัว”
“อยู่กับพี่ไม่ต้องกลัว”
“แล้วจ้าวก็ไม่เคย”
“ไว้ใจพี่นะครับ”
สิ้นประโยคนั้นร่างสูงก็อุ้มช้อนคนตัวเล็กจนร่างลอยหวือขึ้นมา ก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอน พร้อมกับวางเธอนอนราบลงบนเตียงอย่างเบามือ
ร่างขาวหน้าแดงอย่างซ่อนอาการไว้ไม่อยู่ สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เธอตั้งรับมือไม่ถูก
ทว่าขณะที่เธอกำลังสับสนกับตัวเอง คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็ถอดเสื้อโยนทิ้งหน้าตาเฉย เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อเชิ้ตที่เขาสวมใส่อยู่
จันจ้าวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เผลอไล่สายตาสำรวจร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว
เขาหุ่นดีเป็นบ้าเลย..
“อยากลองจับดูมั้ย”
“คะ”
“จับดูสิ”
พูดจบเขาก็โถมตัวขึ้นคร่อมร่างบาง ท่อนแขนข้างหนึ่งค้ำยันลงบนที่นอน ก่อนจะจับมือเธอให้สัมผัสหน้าท้องแล้วไล่ขึ้นสูงจนถึงแผงอกกำยำ
ในดวงตาคู่สวยสั่นไหวไปมา หัวใจเต้นล่ำไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นเต้น รู้สึกแปลกใหม่ไปหมดกับสัมผัสที่เขามอบให้
“อยากจับตรงอื่นมั้ย”
“ตรงอื่นเหรอ”
“แต่มันจะไวต่อสัมผัสหน่อยนะ”
องศาในการมองเห็นค่อนข้างขมุกขมัว เพราะมีเพียงแค่แสงไฟจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา แต่มันสว่างพอที่จะทำให้เห็นว่าบนใบหน้าหล่อเหลาในเวลานี้เปื้อนรอยยิ้ม
พอสบโอกาสชานชวินทร์ก็หยัดตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าในขณะที่คร่อมอยู่บนตัวเธอ มือปลดซิบกางเกงแล้วดึงมันลงเล็กน้อย จนเห็นขอบอันเดอร์แวร์โผล่พ้นขอบกางเกงขึ้นมา
“พี่ชานจ้าว..”
หัวใจเจ้ากรรมเต้นโครมครามอยู่ในอก วินาทีที่นิ้วมือกำลังสอดเข้าไปใต้อันเดอร์แวร์สีขาว เธอก็ขืนแรงเอาไว้ด้วยการพยายามชักมือกลับ เมื่ออุ้งมือกำลังจะแตะเข้าที่ส่วนอ่อนไหว ทำให้เขาหยุดการกระทำทุกอย่างลง
“รู้มั้ยทำไมพี่ถึงชอบจ้าว”
“ทำไมคะ”
“เพราะจ้าวเป็นเด็กดีไง ว่านอนสอนง่าย พูดไม่ยาก”
นัยน์ตาคู่สวยสบมองเขาด้วยสีหน้าตั้งใจฟัง ก่อนจะถูกชานชวินทร์ฉวยโอกาสนี้ บดขยี้รอยจูบลงบนริมฝีปากเธออีกครั้งด้วยความเอาแต่ใจ
จูบของเขาทำให้เธอล่องลอย..
จันจ้าวเชิดดวงหน้ารับสัมผัสจูบไปตามแรงอารมณ์ เธอเริ่มตามเขาทันในบางช่วงจังหวะ แต่ก็ถูกเขาพรากสติอีกครั้งด้วยสัมผัสจาบจ้างจากปลายลิ้นชื้นที่สอดแทรกเข้ามา
เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวรัดตวัดในโพรงปากหวาน หยอกล้อกับลิ้นเล็กที่พยายามตอบโต้อย่างไม่รู้ประสีประสา จนได้ยินเสียงจูบดังก้องอยู่ข้างใบหู
“พี่ชอบเด็กดี พูดง่าย ไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรมาก” เขาพูดขึ้นหลังผละริมฝีปากออก พลางจัดการรวบเรียวแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นเหนือศีรษะ
“จ้าวเป็นเด็กดีเหรอ”
“แล้วอยากเป็นเด็กดีมั้ย”
ไม่ทันได้เก็บประกอบเศษสติกลับเข้าที่ จันจ้าวก็หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามที่เขามอบให้ ทุกคำหวานที่เขาหยอดให้เธอฟัง ทำให้การตัดสินใจหรือการขัดขืนเขาถดถอยลง
เด็กดีของชานชวินทร์งั้นเหรอ..
“ถ้าอยากเป็นเด็กดีก็ฟังตามที่พี่บอก”
“แต่..”
“หลับตาสิ”
“พี่..”
ชานชวินทร์เปรยสายตามองแทนคำพูด ทำให้หญิงสาวที่นอนตัวแข็งทื่อใต้ร่างค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า
เมื่อตามองไม่เห็นการกระทำของเขา มันก็ยิ่งทำให้เธอเหมือนถูกแผดเผาร้อนเป็นไฟ ยามริมฝีปากเหนือร้ายเริ่มซุกไซ้ไปตามลำคอ มือหนาป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าอกของเธอ อีกทั้งช่วงล่างก็บดเบียดเสียดกายเข้าหาจนเสียววูบวาบไปหมด
“อือ” ร่างบางบิดเร่าไปมา ยามถูกมือหนาบีบคลึงเต้าสวยอย่างเต็มไม้เต็มมือ
“เก่งมาก เด็กดี” เขาเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำข้างใบหู เมื่ออีกฝ่ายปฏิบัติตัวตามอย่างว่าง่าย
คนตัวเล็กหอบหายใจถี่กระชั้น เชิดรั้งใบหน้าเงยขึ้นไปตามแรงสัมผัสที่รุนแรงของเขา จนมันเสียววูบวาบท้องน้อยราวกับมีผีเสื้อนับล้านบินวนอยู่ในนั้น
ทุกอย่างเริ่มเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ เมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนสอดเข้าไปใต้กางเกงตัวโปรดของเธอ เขาเข้าครอบครองพื้นที่อันตรายโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“พี่ชาน.. เดี๋ยว” เธอร้องห้ามด้วยความตื่นตระหนก หัวใจเต้นรัวเร็วจนจับจังหวะไม่ถูก
เจ้าของใบหน้าสวยเผยอปากผ่อนปรนลมหายใจที่ติดขัด เธอไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง ได้แต่ข่มตาแน่นในขณะที่ร่างกายตอบสนองเขาเป็นอย่างดี
“ตรงนี้.. แฉะหมดแล้วนะครับ”
เธอกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางหวานไว้ในลำคอ
“เดี๋ยวพี่ช่วยเธอเอง”
“อึก”
“ไม่ต้องกลัว ไม่เจ็บหรอก”
สิ้นประโยคนั้นเรียวนิ้วยาวก็แหวกว่ายในกลีบกุหลาบที่ฉ่ำแฉะไปด้วยหยาดน้ำหวาน ปลายนิ้วคลึงวนที่คลิตอริสของคนตัวเล็ก จนเธอหนีบเรียวขาเข้าหากันแน่น
เธอปรือตาขึ้นมองพร้อมกับหอบหายใจเหนื่อย หลังเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะกับสัมผัสที่ล้วงล้ำเข้ามาอย่างรุนแรง
“พี่ชานคือจ้าว..” มือบางยกขึ้นแตะหน้าอกเขาเชิงให้ใจเย็น แต่กลับถูกเขาจูบปิดปากเสียก่อน
ร่างกายของจันจ้าวเหมือนกำลังถูกหลอมละลายต่อหน้าเขา รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่จะปฏิเสธ คล้ายว่าเหล้ารสหวานยังไหลเวียนอยู่ในกระแสโลหิต
เธอต้านทานเขาไม่ไหว..
ใบหน้าคมคายผละริมฝีปากออก ก่อนจะซุกไซ้อยู่ที่ลำคอขาว ในขณะเดียวกันนิ้วเรียวก็แหวกว่ายในร่องสวาทจนร่างบางกระตุกเกร็ง
“อย่าห้ามพี่เลยนะครับ”
“พี่ชาน”
“พี่ไม่อยากทนแล้ว”
เจ้ากระต่ายตัวน้อยมีท่าทีตื่นตูมกับการกระทำของเขา มือยังคงพยายามจะผลักเขาออก หากทว่าร่างกายกลับตอบสนองเป็นอย่างดี ทั้งที่ควรจะผลักไสเขาให้ออกห่างกลับกลายเป็นยิ่งถลำลึกลงไปมากกว่าเดิม
สุดท้ายก็ตกหลุมพรางของเขาจนได้สินะ..
“เป็นเด็กดีนะครับ”