“แน่ใจเหรอว่าให้พี่ลองบอกก่อน”
“อะ.. อื้อ”
“ที่จริงก็มีสิ่งที่อยากได้อยู่นะ”
ใบหน้าหล่อเหลาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนมุมปากสวย ยามสายตาไล่มองเครื่องหน้าสวยรับกับริมฝีปากกระจับของหญิงสาว
ระยะห่างระหว่างกันถือว่าอันตรายต่อหัวใจพอสมควร เพราะงั้นคนที่หวั่นไหวง่ายเลยเลือกที่จะผละตัวออกเล็กน้อย พลางเม้มริมฝีปากแก้เขินกลบเกลื่อน
“มองจากตรงห้องพี่ชาน วิวน่าจะสวยมากเลยนะคะ” เธอรีบหาเรื่องชวนคุยเพื่อเบี่ยงประเด็นอาการหน้าแดงของตัวเอง พลางคลี่ยิ้มบางเบาส่งไปให้คนตรงหน้า
“สวยสิ ตอนกลางคืนนี่ยิ่งสวยเลย” เขายิ้มรับแล้วเน้นคำว่าสวยด้วยแววตาที่เป็นประกายวาบหวาม
“ถ้างั้นขอจ้าวไปดูหน่อยนะ”
“ได้สิ ตามสบายเลย”
สิ้นประโยคนั้นร่างบางก็ลุกขึ้นไปยืนชมวิวผ่านกระจกใส รู้สึกร่างกายร้อนผ่าวราวกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กำลังแทรกซึมไปตามร่างกาย
คนไม่เคยแตะต้องของมึนเมาเริ่มเดินเซ แต่ทว่าก็ได้คนมือไวอย่างชานชวินทร์คว้าตัวเอาไว้ได้ทัน
“ไหวมั้ย”
“ไหวค่ะ”
เธอจับแขนเขาที่โอบเอวบางให้ผละออก ก่อนจะขยับฝีเท้าเข้าไปยืนมองใกล้ ๆ กระจกกั้นตรงหน้า เพื่อชมวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนที่มองเห็นตึกราบ้านช่องไปรอบตัวเมือง
“สวยจริงด้วย” เธอพูดขึ้นกับตัวเอง พร้อมกับคลี่ยิ้มหวานออกมา
เจ้าของร่างสูงเดินเข้าไปประกบเธอจากทางด้านหลัง พลางสอดฝ่ามือโอบกอดจนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“พี่ชาน..” เธอเอี่ยวใบหน้าหันมองเขาที่ซบลงบนลาดไหล่ ปลายจมูกถูไถอยู่ที่ช่วงต้นคอจนไม่กล้าขยับตัวไปไหน
“ชอบเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบอยู่ข้างใบหู ชวนให้คนตัวเล็กขนลุกเกรียวกราวอย่างบอกไม่ถูก
“พี่ชานมากอดจ้าวทำไมคะ”
“หรือว่าไม่ชอบ จะผลักพี่ออกก็ได้นะ”
จันจ้าวไม่ได้ตอบคำถามของเขา แล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของอีกฝ่ายแต่อย่างใด นอกจากยืนหน้าแดงก่ำด้วยความรู้สึกดีจนใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
ลมหายใจของเขาร้อนมาก..
เธอปล่อยให้อีกคนกอดอยู่อย่างนั้นสักพัก จนกระทั่งชานชวินทร์จับไหล่เธอให้หมุนตัวหันมาประจันหน้ากับเขา มือข้างหนึ่งก็โอบรั้งแผ่นหลังคนตรงหน้าให้เข้ามาประชิดกาย
“พี่ชาน”
“เรียกพี่ทำไม”
“จะทำอะไรคะ”
“แล้วคิดว่าพี่จะทำอะไรล่ะ”
ชานชวินทร์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ คล้ายว่าจะไล่ต้อนให้คนที่ยืนก้มหน้าก้มตาเงยหน้าขึ้นมอง จนปลายจมูกโด่งสันทัดชนเข้ากับหน้าผากคนตัวเล็ก
“พี่ชานอย่าแกล้งจ้าวสิคะ” เธอว่าแล้วงุดหน้าหนี ส่ายตาหาหนทางที่จะหลุดออกจากพันธนาการ แต่ก็เหมือนจะถูกเขาต้านแรงไว้ไม่ยอมปล่อย
“พี่ไม่ได้แกล้ง พี่เอาจริง”
“พี่ชาน”
มือหนาจับปลายคางคนตัวเล็กให้เชิดขึ้น ส่งผลให้เธอสบสายตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในห้วงวินาทีที่เผลอมองเข้าไปในนัยน์ตาสีดำขลับ ร่างบางก็นิ่งงันไปอย่างไร้ทีท่าต่อต้านเขา
ทุกอย่างรอบกายเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ฝ่ามืออุ่นสัมผัสข้างแก้มร้อนฉ่าอย่างแผ่วเบา ก่อนวินาทีต่อมาใบหน้าหล่อเหลาจะขยับเข้าไปใกล้ จนปลายจมูกฝังลงบนผิวแก้มนิ่มเข้าอย่างจัง
จันจ้าวยืนตัวแข็งทื่อด้วยความทำอะไรไม่ถูก มือที่ยกขึ้นจะผลักเขาออกเปลี่ยนเป็นกำชายเสื้ออีกฝ่ายแทน
ชานชวินทร์เลื่อนริมฝีปากหมายจะเข้าไปจุมพิตบนกลีบปากสีสวย แต่ถูกเธอหันใบหน้าหนีไปทางอื่นเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนค่ะพี่ชาน”
“หือ”
“อย่าเพิ่งค่ะ”
เธอหดเกร็งลำคอหนีริมฝีปากร้ายกาจ ที่ห่างเพียงนิดเดียวก็จะแตะลงมาแล้วเชียว ส่งผลให้เจ้าของใบหน้าคมคายชะงักค้างไว้กลางอากาศ
“คือจ้าว..” น้ำเมาอาจมีส่วนก็เป็นได้ ตอนนี้ตัวเธอร้อนรุ่มไปหมดเลย
หากทว่าเหมือนคำขอของเธอจะไม่เป็นผล เมื่อชานชวินทร์ยื่นหน้าเข้าไปกดจูบบนเรียวปากสีระเรื่ออย่างเอาแต่ใจ ก่อนผละออกแล้วมองใบหน้าสวยหวานด้วยสายตาที่แสดงความปรารถนาในใจ
มันเขินจนอยากมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“พะ.. พี่ชาน” จันจ้าวเบิกตาโตเพราะไม่คิดว่าเขาจะจูบเธอ
“ต้องโทษเธอแล้วล่ะ”
“จ้าวเหรอ”
“เธอทำให้พี่ห้ามใจไม่ไหว”
คนที่ถูกป้ายความผิดสบตาคนตรงหน้าด้วยความเขินขั้นสุด หัวใจกระตุกวูบในเสี้ยววินาทีที่เขายิ้มให้ จนร่างกายไม่สามารถย้ายหนีเขาไปไหนได้ตามที่ใจต้องการ
“จูบได้ไหม”
“.....”
“ขอจูบนะครับ”
สิ้นประโยคเชิงขออนุญาต มือหนาก็สอดประคองเข้าที่แก้มเธออย่างนุ่มนวล สบสายตาคู่สวยเพียงครู่เดียว ริมฝีปากก็ทาบทามลงบนกลีบปากสีระเรื่อ พร้อมกับโอบกระชับร่างบางเข้ามาประชิดกายให้แนบแน่นขึ้น
สัมผัสจากเขาทำให้ร่างกายรุ่มร้อน..
ทั้งน้ำเสียงและสายตาทำให้เธอไม่เป็นตัวเองไปชั่วขณะ
สติที่เหลืออยู่น้อยนิดแทบจะปลิวหายไปในอากาศ เมื่อชานชวินทร์เริ่มขยับริมฝีปากขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างอ้อยอิ่ง
เขาขบเม้มริมฝีปากของเธอราวกับฉกชิมขนมรสหวาน บดคลึงความนุ่มนิ่มตามอำเภอใจ แม้อีกฝ่ายจะตอบรับสัมผัสจูบเขาอย่างไม่รู้ประสีประสาก็ตาม
“อือ”
มือบางยกขึ้นตีอกคนตัวสูงกว่าให้ผละออก เธอผ่อนลมหายใจตามเขาไม่ทันจนมันเริ่มติดขัด เมื่อเขาแทบจะดูดกลืนร่างและวิญญาณเธอด้วยรอยจูบที่แสนซาบซ่าน
“อึก”
“หายใจก่อน”
จันจ้าวเผยอปากผ่อนปรนลมหายใจหอบหนัก เธอยอมรับเลยว่าจูบไม่ได้เรื่องเลยสักนิด คงไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่สำหรับครั้งแรกของเธอเอง
“พี่ชานคงไม่ชอบ” เธอเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่นอย่างไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก
“ไม่ชอบ” เขาเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับทวนซ้ำประโยคท้ายด้วยความสงสัย
“ไม่ชอบจ้าว”
“ทำไมจะไม่ชอบ”
“เพราะจ้าวจูบไม่เก่ง”
พูดจบคนตัวเล็กก็งุดหน้าลงด้วยความเขินอาย จนชานชวินทร์หลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู
“แล้วใครบอกว่าพี่ไม่ชอบ” เขาพูดพร้อมกับเชยปลายคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง
เจ้าของพวงแก้มใสพองลมใส่เชิงแง่งอน รู้สึกเหมือนถูกสายตาเขาโลมเลียไปทั่วผิวกายอย่างบอกไม่ถูก
“พี่คิดว่าพี่ชอบ”
“คะ”
“ชอบจ้าว..”
ไม่พูดเปล่าเขายังจับมือเธอไปทาบที่อกข้างซ้าย ใช้สายตาหลอกล่อเหยื่อตัวน้อยให้ติดหลุมพรางที่สร้างไว้ แล้วก็เหมือนจะเป็นไปตามที่ใจเขาคิดเอาไว้เสียด้วย
ทว่าขณะเดียวกันเสี้ยวความรู้สึกที่แท้จริงในใจก็เผยออกมาทางแววตาชายหนุ่ม โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำ ว่าท่าทางออดอ้อนที่เขาแสดงให้เห็น แอบซ่อนความชั่วร้ายไว้ภายใต้รอยยิ้มนั่นเอาไว้อย่างปิดไม่มิด
เขามันเทพบุตรในร่างซาตาน
“พี่ชานพูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย”
“คิดว่าพี่เมาจนพูดไม่รู้เรื่องเหรอ”
“จ้าวไม่คิดว่า..”
“ไม่คิดว่าพี่จะชอบเธอเหรอ”
เธอพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า ในดวงตาดูสับสนกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้น
“แล้วคิดว่าที่พี่ติวให้ฟรี คอยรับส่ง คอยเอาใจเพราะอะไร”
“พี่..”
“ของพวกนี้เขาก็ทำกับคนที่ชอบทั้งนั้นแหละ หือ”
คำสารภาพความในใจที่พูดออกไปเมื่อครู่ ยิ่งทำให้สติของจันจ้าวเตลิดไปไกลมากกว่าเดิม สายตาและน้ำเสียงของเขาที่พร่ำกรอกอยู่ข้างหู เป็นเหมือนตัวกระตุ้นให้เธอถูกดึงเข้าไปในโลกที่เขาสร้างขึ้น
โลกสีหวานที่เคลือบด้วยน้ำผึ้งอาบยาพิษ..
“แล้วทำไมพี่ชานถึงชอบจ้าวคะ” เธอถามออกไปด้วยสีหน้าไร้เดียงสา นั่นยิ่งทำให้ชานชวินทร์เปรยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“อยากรู้เหรอ”
“อื้อ”
“ให้จูบอีกรอบสิครับ”
คราวนี้ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากอนุญาต ชานชวินทร์ก็คว้าใบหน้าสวยเข้ามาประกบจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะดันร่างบางให้เดินถอยหลังจนตัวชิดติดกับโต๊ะอาหารด้านหลัง
ร่างสูงตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากเธอทุกหยาดหยด ดูดกลืนกลีบริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมันเริ่มบวมเจ่อ พร้อมกับอุ้มช้อนเธอให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแทน
“พี่ชาน อึก เดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอเอ่ยปากร้องขอเมื่อริมฝีปากผละออกจากกันครู่หนึ่ง
ทว่าเหมือนคำขอของเธอจะไม่เป็นผล เมื่อชานชวินทร์จัดการปิดริมฝีปากเธออีกครั้ง ฝ่ามือโอบรั้งแผ่นหลังบางพร้อมกับโถมตัวเบียดเสียดเข้าหาเธอ
“อือ” คนตัวเล็กหลุดครางเสียงหวานในลำคอ เรียวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเริ่มคลายออก จนกลายเป็นว่าเธอเริ่มเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขาแทน
มือบางเกาะเกี่ยวบ่าแกร่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว เรือนร่างร้อนเป็นไฟยามมือหนาตะปบไล่ผ่านแผ่นหลัง จนกระทั่งคว้าหมับเข้าที่หน้าอกของเธอ
“พี่ชาน” จันจ้าวผละใบหน้าออกเมื่อได้จังหวะ พลางผ่อนปรนลมหายใจถี่กระชั้น
เธอยันอกเขาที่ทำท่าจะกดจูบลงมาอีกรอบ รู้สึกหน้ามืดตามัวไปหมดกับภาพของเขาที่มองมาคล้ายว่าต้องการเธอจนไม่เป็นตัวเอง
“พี่ต้องการเธอ”
“.....”
“ให้พี่ได้มั้ยคนดี”