รถแท็กซี่จอดที่หน้าหอพักเอริญาจ่ายเงินแล้วก้าวลงจากรถด้วยขาที่สั่นเทา หญิงสาวกำลังเก็บอาการเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อคืน
“อ้าว...เอริไปไหนมาน่ะทำไมใส่ชุดนี้ล่ะ” เพื่อนร่วมหอพักที่อยู่ห้องถัดไปทักทายเมื่อเห็นเอริญาใส่ชุดนักศึกษาเดินขึ้นบันไดมาทั้งที่เป็นวันเสาร์
“ไปคุยกับอาจารย์มาน่ะแล้วเนยจะไปไหน” หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มแห้งๆ
“ว่าจะไปหาอะไรกินหน่อย ฝากเอาอะไรไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบใจนะ”
เมื่อเพื่อนเดินผ่านไปแล้วเอริญาก็รีบเดินไปยังห้องของตนเองที่อยู่ริมสุดทางเดิน
หญิงสาวเคาะประตูห้องเบาๆ ก่อนจะผลักเข้าไปอย่างช้าๆ เมื่อเปิดออกก็เจอกับญาณิศาเพื่อนสนิทที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“เอริแกหายไปไหนมาทั้งคืน ฉันเป็นห่วงแกมากเลยนะ”
“ณิ....” เอริญาได้แค่เรียกชื่อเพื่อนก่อนจะร้องไห้จนญาณิศาที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตกใจกับอาการของเพื่อน เธอรีบวางโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นดึงให้เอริญานั่งลงบนเตียง
“แกเป็นอะไรเอริ”
“ฉันไม่เหลืออะไรแล้วณิ” เธอพูดแค่นั้นแล้วก็ร้องไห้ต่อ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับแกเหรอเอริพี่กันต์เขาทำอะไร เขาทำร้ายเขาใช่ไหม ไม่เป็นไรนะเอริแกไม่ต้องร้องเดี๋ยวฉันจะไปจัดการให้เอง” ญาณิศาถามด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกโกรธมากเพราะเพื่อนเคยบอกแล้วว่าเธอจะไม่นอนกับใครจนกว่าจะถึงวันที่แต่งงานแต่ก็ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เอริญาคบหามานานเกือบหนึ่งปีจะมาทำร้ายเธอแบบนี้
“ไม่ใช่เขา” เอริญาร้องไห้สะอึกสะอื้นทางส่ายหน้าปฏิเสธทำให้ญาณิศางงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนกันแน่
“ฉันจะยังไม่ถามอะไรแกตอนนี้ก็ได้นะเอริ แกร้องไห้ให้เต็มที่เลยเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฉันฟังก็ได้” ญาณิศากอดปลอบขณะที่เอริญาก็ร้องไห้อย่างหนัก หญิงสาวคิดว่าตนเองเข้มแข็งพอและคงไม่ร้องไห้อีกแล้วแต่พอกลับมาเจอเพื่อนน้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ผ่านไปนานมากกว่าเอริญาจะหยุดร้องญาณิศาเช็ดน้ำตาให้เพื่อนจับมือและลูบไปบนหลังมือเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“แกกินข้าวมาหรือยังหิวไหม”
“ฉันกินอะไรไม่ลงหรอก”
“แล้วพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังหรือยังล่ะ”
“แกสัญญากับฉันได้ไหมณิว่าเรื่องที่ฉันเล่าให้แก่ฟังแกจะต้องเก็บเป็นความลับ”
“แน่นอน แกเป็นเพื่อนรักของฉันนี่ ฉันรับปากว่าทุกอย่างที่แกเล่าในห้องนี้ฉันจะไม่บอกใครตกลงไหม”
แล้วเอริญาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับญาณิศาฟังอย่างไม่มีปิดบัง
“ทำไมพี่กันต์เขาถึงทำแบบนั้นนะ มันเหมือนหรอกแกไปขายตัวเลยนะ อย่าให้ฉันเจอหน้านะฉันจะต่อยให้ฟันร่วงเลย”
“อย่าเลยมันไม่คุ้มหรอก”
“แกยังเป็นห่วงเขาใช่ไหม”
“ฉันก็แค่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาแล้ว”
“แล้วแกจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้นั่นเหรอ คนอย่างพี่กันต์ต้องได้รับบทเรียนบ้างนะ ฉันเห็นว่าเขาคบกับแกมานานไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเขาจะทำนิสัยแบบนี้”
“ฉันเองก็ผิดที่ไว้ใจเขามากเกินไป ฉันอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองจนลืมคิดถึงความเหมาะสมไปเลยการเข้าไปคุยกับผู้ชายตามลำพังในโรงแรมแบบนั้นมันเสี่ยงมากแต่ตอนนั้นฉันไม่คิดอะไร”
“ฉันเข้าใจแกนะ ถ้าเป็นฉันมีใครมาเสนอแบบนั้นฉันก็คงจะไปเจอเขาเหมือนกัน”
“ตอนนั้นฉันคิดแค่อยากทำความฝันให้สำเร็จความฝันที่ฉันจะมีร้านเบเกอรี่เล็กๆ แต่ทุกอย่างมันก็แย่ลงกว่าเดิม สิ่งที่ฉันเสียไปมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้” ยิ่งพูดน้ำตาของหญิงสาวก็ยิ่งไหล นี่เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น
“ตอนนี้แกต้องเข้มแข็งนะเอริ แกได้ป้องกันหรือเปล่า เขาใส่ถุงยางไหม” ญาณิศาถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เลย แต่เมื่อมีป้าคนหนึ่งเอายาคุมฉุกเฉินมาให้ฉันกินแล้ว แต่ฉันกลัวโรคติดต่อ”
“เดี๋ยวฉันจะพาแกไปตรวจเลือดนะ แต่ขอหาข้อมูลก่อน”
“ขอบใจนะ”
“แล้วแกรู้มั้ยว่าผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครทำงานอยู่ที่ไหน ฉันอยากจะไปเจอหน้าเขาอยากจะถามว่าเขาจ่ายเงินให้กับพี่กันต์ไปเท่าไหร่เขาถึงยอมขายแก”
“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร เขาไม่บอกชื่อและฉันก็อายจนไม่กล้าถาม แต่เขาให้นี่ฉันมา” เอริญาหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าสะพายยื่นให้เพื่อน
“ค่าอะไร”
เอริญายังจำคำพูดของรามิลได้ดีเธอถ่ายทอดคำพูดนั้นให้กับญาณิศาฟังทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน
“ผู้ชายคนนี้โหดร้ายมากเลยนะคิดว่าทุกอย่างมันจะแลกมาด้วยเงินหรือยังไง”
“เขาก็คงซื้อผู้หญิงจนเคยชินนั่นแหละ”
“เอริแล้วแกคิดว่าจะเอายังไงต่อกับเช็คนี่ล่ะ”
“ตอนแรกฉันก็จะไม่เอามาหรอกนะไม่อยากจะเสียศักดิ์ศรีมากไปกว่านี้แต่จำนวนเงินในนั้นมันก็ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ”
“มันเท่าไหร่เหรอ” ญาณิศาที่ยังไม่ได้ดูจำนวนเงินในเช็คก็หยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
“ตั้งล้านเลยเหรอ ทำไมมันมากขนาดนี้”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ฉันว่าผู้ชายที่นอนกับแกเขาคงเป็นคนรวยมากๆ แล้วอยากจะจ่ายเงินเพื่อปิดปากเรื่องที่เกิดขึ้นแน่เลย แกคิดว่าจะทำยังไงกับเงินจำนวนนี้ล่ะ”
“ตอนแรกฉันอยากเอาไปคืนนะแต่ใจหนึ่งมันก็เกิดโลภขึ้นมาและคิดว่าไม่ยุติธรรมถ้าฉันนอนกับเขาโดยไม่ได้อะไรเลย ฉันรู้มาว่ามันฟังดูกับน่าเกลียดนะ แต่แกก็รู้นี่ว่าฉันปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กเงินพวกนี้น่าจะต่อลมหายใจของฉันได้อีกนาน แกจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะเอาเงินก้อนนี้”
“ฉันจะว่าอะไรแกได้ล่ะเอริ เงินมันมากเกินกว่าที่ฉันจะนึกถึง แกต้องทำงานอีกเท่าไหร่ถึงจะได้เงินมากมายขนาดนี้ ฉันว่าแกน่าจะมีทุนเปิดร้านเบเกอรี่แล้วแหละ
“แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าฉันขายตัวเพื่อแลกกับเงินมาเปิดร้านแกคิดว่าพวกเขาจะมองฉันยังไง ฉันไม่สบายใจเลย”
“จะสนใจอะไรล่ะ แกไม่ใช่ผู้หญิงคนที่นอนกับผู้ชายแล้วได้เงินฉันก็เห็นนักศึกษาหลายคนเขาทำแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องดีหรือเรื่องที่น่าส่งเสริมแต่แกก็ไม่ใช่เป็นคนเอาตัวไปเสนอเขานี่เอริ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดและเงินจำนวนนี้แกสมควรได้รับนะ เรื่องนี้เราจะรู้กันแค่สองคน
“แกจะไม่มองฉันเป็นผู้หญิงขายตัวใช่ไหม”
“เอริฉันกับแกคบกันมาตั้งแต่ ม. 4 นะฉันรู้ว่าแกเป็นคนนิสัยยังไงแกรักนวลสงวนตัวและรอคอยจะมอบสิ่งมีค่าให้กับผู้ชายที่แกรักในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของแกแต่กลับเอาแกไปขายให้คนอื่นแล้วแกจะสนใจอะไรล่ะ รับเงินนี้ไว้เถอะ แล้วจากนี้ฉันก็สั่งห้ามไม่ให้แกคุยกับพี่กันต์อย่างเด็ดขาด”
“ฉันไม่อยากเจอหน้าไม่อยากจะพูดถึงเขาด้วยซ้ำ”
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
“แกจะเอาไปทำอะไร”
“ก็บล็อกเขาไง”
“แกคิดว่าเขาจะกล้าติดต่อฉันมาเหรอณิในเมื่อเขาเอาฉันไปขายแบบนั้นแล้ว”
“ก็ไม่รู้สิผู้ชายนิสัยแบบนี้ฉันเดาใจไม่ถูกหรอก”
แล้วเอริญาก็หยิบโทรศัพท์ของเธอให้กับเพื่อน ญาณิศาจัดการบล็อกทุกช่องทางการติดต่ออย่างรวดเร็ว
“ท่าทางแกดูไม่ดีเลยฉันว่านอนพักหน่อยดีไหม เดี๋ยวฉันจะลงไปหาซื้ออะไรมาให้กิน”
“ขอบใจนะณิแกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ”
“เอาน่าอย่าคิดอะไรมากเลยนอนพักนะ”
เมื่อเพื่อนเดินออกจากห้องไปแล้วเอริญาก็ซุกตัวใต้ผ้าห่มแล้วร้องไห้ หญิงสาวไม่รู้ว่าน้ำตาไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะลืมเรื่องราวร้ายๆ เหล่านี้ได้