ย้อนไปก่อนหน้านั้นหนึ่งวันที่โชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
กันต์ธีร์ชายหนุ่มวัย 28 ปีกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องน้ำเขาจ้องมองตัวเลขในแอปพลิเคชันธนาคารซึ่งตอนนี้จำนวนเงินในนั้นหรือแค่เพียงหลักพันในขณะที่ชายหนุ่มจะต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นให้กับเสี่ยสมานเจ้าหนี้เงินกู้รายใหญ่ซึ่งเข้าค้างจ่ายมาสองเดือนแล้ว
“แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายวะเนี่ย” เขาบ่นกับตัวเองพลางถอนหายใจอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้กันต์ธีร์เอาเงินจากลูกค้าที่มาซื้อรถไปเล่นการพนันและพอถึงเวลาสิ้นเดือนจะต้องเอาเงินเข้าบริษัทเงินจำนวนนั้นก็ไม่เหลืออยู่แล้วชายหนุ่มไม่รู้จะทำยังไงถ้าหากบริษัทรู้เรื่องที่เขาแอบยักยอกเงินจากลูกค้าก็คงต้องถูกไล่ออก
แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็แนะนำให้เขาไปกู้เงินจากเสี่ยสมานเพื่อเอามาใช้หนี้ให้กับบริษัทจากเงินที่เป็นหนี้อยู่หนึ่งแสนแต่พอได้คุยกับเสี่ยแล้วความโลภบังตา ชายหนุ่มกู้เงินมาหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทเมื่อใช้หนี้ให้บริษัทไปแล้วก็ยังเหลือเงินอีกห้าหมื่น เขาจึงเอาเงินนี้ไปเล่นพนันออนไลน์หวังเอาไปใช้หนี้
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยก็ยิ่งเสีย จนถึงเวลาที่ชำระดอกเบี้ยเขาก็ผัดผ่อนมาเรื่อยๆ แต่วันนี้มันเป็นวันสุดท้ายที่เสี่ยเจ้าของเงินกู้ยื่นคำขาดว่าเขาจะต้องเอาเงินไปใช้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ยืมมาซึ่งตอนนี้ทั้งต้นทั้งดอกมันเพิ่มจากหนึ่งแสนห้าหมื่นเป็นสองแสนแล้ว
ขณะที่กำลังหาเครียดอยู่นั้นเสียงพนักงานคนหนึ่งก็เรียกเขาจากทางด้านนอก
“พี่กันต์อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”
“อือ มีอะไรด่วนหรือไงถึงมาตามฉันถึงในห้องน้ำ” กันต์ธีร์พูดอย่างหัวเสีย
“มีคนมาหาพี่ที่หน้าโชว์รูม เขาบอกว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับพี่ผมเลยรีบมาตาม”
“เออๆ เดี๋ยวฉันออกไป”
กันต์ธีร์ไม่ได้นัดใครไว้แต่คิดว่าบางทีคนที่มาหาอาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาขอดูรถก็ได้ ชายหนุ่มรีบออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปด้านหน้าโชว์รูม เขาชะงักเมื่อเห็นผู้ชายสองยืนอยู่ข้างรถบิ๊กไบค์อยู่บริเวณด้านหน้าโชว์รูม เขารีบหันหลังกลับไปมันก็ช้าเกินไปเสียแล้ว
“เดี๋ยวสิจะรีบไปไหน”
“ฉันยังไม่อยากคุยกับพวกนายตอนนี้ เอาไว้เลิกงานแล้วค่อยคุยกันได้ไหม”
“เสี่ยต้องการคำตอบตอนนี้”
“อีกแค่ชั่วโมงเดียวก็จะถึงเวลาเลิกงานแล้วค่อยคุยตอนนั้นเถอะ ฉันไม่อยากให้ใครที่นี่รู้”
“ถ้าไม่อยากให้คนที่นี่รู้ก็รีบคุยสิเสร็จแล้วจะได้รีบกลับไปทำงานหรือจะให้ฉันนั่งรออยู่ตรงนี้แล้วให้คนในโชว์รูมเขาสงสัยล่ะ” หนึ่งในผู้ชายพูดขึ้นทำให้เขายอมเดินออกมาคุยด้วย
“มีอะไรว่ามา”
“นี่นายยังจะกล้าพูดแบบนี้กับฉันอีกนะ นายก็น่าจะรู้นะกันต์ว่าฉันสองคนมาที่นี่เพื่ออะไร”
“ฉันรู้แต่ตอนนี้ฉันไม่มี”
“ใครๆ ก็พูดแบบนั้นมีหรือไม่มีฉันไม่รู้หรอกนะ แต่ยังไงภายในเที่ยงคืนนี้เสี่ยต้องได้เงินจากนาย”
“ฉันจะหาจากไหนเงินตั้งแสนหนึ่งเลยนะ แล้วมีเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง”
“เสี่ยก็ไม่ได้ให้นายหาเงินแค่วันนี้วันเดียวนี่ ที่ผ่านมานายไม่ยอมเอาเงินไปใช้หนี้เองอย่าคิดจะชักดาบนะ นายรู้จักคนอย่างเสี่ยสมานน้อยเกินไปแล้ว” หนึ่งในนั้นขู่เสียงเข้ม
“ฉันไม่คิดจะชักดาบ แต่ฉันไม่มีจริงๆ เอาไว้เย็นนี้ฉันจะเข้าไปคุยกับเสี่ยเอง”
“นายจะคุยอะไรเสี่ยเขาไม่ฟังเหตุผลหรอกนะ ถ้านายยังไม่ยอมใช้หนี้เห็นทีรถยนต์ของนาย พวกฉันสองคนคงต้องยืมเอาไปขับสักหน่อย”
“ไม่ได้นะถ้านายสองคนเอารถฉันไปคนเขาก็รู้กันหมดสิว่าฉันไม่มีเงิน”
“ดูท่าทางนายจะหมดหนทางจริงๆ นะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ขอเวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม อีกไม่กี่วันเงินเดือนฉันจะออกแล้ว”
“เงินเดือนออกมันก็ไม่พอใช้หรอกนะ ฉันจะไม่อ้อมค้อมก็แล้วกันนะ เสี่ยเขามีอะไรมาเสนอนาย”
“อะไรล่ะ”
“วันก่อนนายไปกินข้าวกับใคร”
“นี่พวกนายสะกดรอยตามฉันเหรอ”
“มันก็แค่บังเอิญว่าฉันกับเสี่ยไปทำธุระที่ร้านอาหารนั้น แล้วเสี่ยก็เกิดสนใจผู้หญิงคนนั้น”
“ไม่ได้นะนั่นแฟนฉัน”
“ถ้านายไม่เอาเงินมาใช้หนี้ ฉันสองคนจะตามไปทวงกับแฟนนาย”
“ไม่นะ ฉันไม่อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่มีเงินแล้วเธอก็ยังเรียนอยู่ด้วยคงไม่มีเงินให้พวกนายหรอก”
“เรียนอยู่ก็ยิ่งดีสิ แบบนี้เสี่ยชอบ”
“พวกนายหมายความว่ายังไง”
“ถ้านายพาเธอไปนอนกับเสี่ยได้หนี้ทั้งหมดก็จะหายกัน”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะฉันเป็นหนี้พวกนายแค่สองแสนเองนะ แต่แฟนของฉันมีค่ามากกว่านั้น”
“งั้นพวกฉันขอเอารถนายไปก่อนนะ พอดีว่าพวกฉันเอากุญแจมาด้วย” เขาพูดพร้อมชูกุญแจรถที่กันต์ธีร์ให้ไว้ในวันที่ไปกู้เงิน
“ฉันขอเวลา”
“นายมีเวลาถึงเที่ยงคืนนะกันต์ ลองคิดดูดีๆ พวกฉันไปก่อนถ้าเที่ยงคืนนายไม่มีเงินให้เสีย นายก็ต้องเลือกว่าจะเสียอะไร รถหรือแฟน”
เมื่อชายสองคนขี่รถออกไปแล้วกันต์ธีร์ก็เดินกลับเข้ามาในโชว์รูมด้วยสีหน้าที่เครียดจัด เขาไม่รู้เลยว่าเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเอาที่ไหนไปให้เสีย เงินในบริษัทเขาก็ส่งมอบให้ฝ่ายบัญชีไปหมดแล้ว
“พี่กันต์เป็นอะไรหรือเปล่า ผู้ชายสองคนนั้นทำอะไรพี่เหรอ” พนักงานขายรุ่นน้องถามขึ้น
“เปล่า” กันต์ธีร์ปฏิเสธ เขาจะให้คนที่นี่รู้ไม่ได้ว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องเงิน
“ทำไมดูพี่หน้าตาไม่ดีเลย”
“พวกเขามาแจ้งข่าวเรื่องญาติที่ต่างจังหวัดน่ะ พี่เลยเครียดนิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอก ลูกค้าเข้ามาแล้วพี่ขอตัวไปรับลูกค้าก่อนนะ” เขารีบปรับสีหน้าก่อนจะเดินเข้าไปทักทายกับลูกค้า
เขาพูดคุยกับลูกค้า อธิบายถึงสิ่งที่จะได้จากการซื้อรถที่นี่จนลูกค้าตัดสินใจจองรถกับเขาหนึ่งคันแต่กันต์ธีร์กลับไม่ดีใจเท่าไหร่เพราะเงินค่าคอมมิชชั่นกว่าจะได้ก็เดือนหน้าและมันก็ไม่พอที่จะเอาไปใช้หนี้เสี่ยสมาน