Ep.2

1390 คำ
Ep.2 Janjao talk. "มีหลัวยัง ?" !! "แค่กๆๆ ถามไรของแกเนี่ยแตงโม ?!" ฉันรีบกลืนน้ำที่กำลังดูดลงคอแทบไม่ทัน เมื่อเจอคำถามของยัยแตงโมเพื่อนสนิทของฉัน มาถึงปุ๊บยังไม่ทันได้นั่งก็ยิงคำถามนี้ใส่ฉันที่นั่งรออยู่ก่อนเลยทันที ฉันรีบดึงทิชชูมาซับบริเวณริมฝีปาก พร้อมกับมองเพื่อนตัวเองด้วยสายตาเคืองๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าแตงโมจะสลดแต่อย่างใด เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังนั่งหัวเราะฉันอย่างสะใจอยู่ "ฮ่าๆๆๆ ยังไม่มีสินะ เพราะลุงคิงหวงแกหรือไม่มีใครเข้ามาจีบ เอาดีๆ" "ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละน่า" ฉันตอบพลางใช้หลอดคนแก้วชาเขียวปั่นด้วยใส่อารมณ์ขุ่นเคืองลงไปด้วย "ฉันล่ะนับถือพ่อแกจริงๆ จนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมให้แกมีแฟนอีก" "ที่ไม่มีเพราะฉันไม่ได้หามากกว่า พ่อไม่ได้หวงฉันขนาดนั้นหรอก" ซะเมื่อไหร่ล่ะ! ทุกคนในตระกูลรู้หมดว่าพ่อหวงฉันมากขนาดไหน แต่พอมาคิดๆ ดู พ่อหวงก็ส่วนพ่อหวงนะ แต่ฉันว่าที่ฉันไม่มีแฟนสักที ก็คงจะเป็นเพราะไม่มีใครเข้าหาฉันเลยมากกว่า "แล้ว...วินเซนต์ล่ะ ?" จะว่าไม่มีคนเข้าหาเลยก็ไม่ใช่สิ เพราะวินเซนต์เองก็เคยจีบฉันเหมือนกัน แต่เป็นฉันเองที่ไม่ได้คิดอะไรด้วย "เป็นเพื่อนกันแก" "ไม่พัฒนาเลยเหรอ" "ไม่ ฉันพูดไปชัดเจนแล้ว" "ใจแข็งจริงๆ แต่วินเซนต์ก็ดีนะ ฉันว่าโอเคเลยล่ะ" "แต่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนมากกว่า..." ฉันพูดเสริมออกไป จริงๆ ฉันก็แอบสงสารวินเซนต์นะ ที่ต้องอกหักเพราะฉัน แต่ฉันไม่สามารถคิดกับวินเซนต์เกินเพื่อนได้เลย ฉันพยายามแล้วแต่มันไม่ได้เลยจริงๆ "แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างล่ะ กลับมาจากไปพักใจรึยัง" แตงโมถามถึงวินเซนต์ต่อ เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว...วินเซนต์ขอฉันเป็นแฟน แต่ฉันปฏิเสธไปและบอกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า หลังจากนั้นมาวินเซนต์ก็หายไปเลย แต่ได้ยินแว่วๆ จากพี่เจ้าขุนคุยกับเพื่อนว่า วินเซนต์ไปเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ทของพี่เจ้าขุนที่ภูเก็ตได้สักพักใหญ่ๆ และพอฉันมาเล่าให้แตงโมฟัง ยัยนี่เลยคิดเอาเองว่าวินเซนต์หนีฉันไปพักใจ อ้อ! ขอเล่านิดนึงนะคะ...พี่เจ้าขุนเป็นพี่ชายของฉันค่ะ พ่อของพี่เจ้าขุนเป็นน้องชายของพ่อฉัน พูดง่ายๆ ก็คือฉันกับพี่เจ้าขุนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่เรารักและดูแลกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ จริงๆ พี่น้องฉันไม่ได้มีแค่พี่เจ้าขุนนะคะ มีเจ้าขาที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่เจ้าขุน ซิกซ์เซ้นส์ลูกชายอาแจ็คกับอาพริกแกง แล้วก็จิน เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของอาแจ็คกับอาพริกแกง สรุปเลยนะคะ...ตระกูล 'ธนไพศาลเกียรติ' ของฉัน มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมดห้าคน ก็คือ พี่เจ้าขุน ฉัน เจ้าขา ซิกซ์เซ้นส์ แล้วก็จินค่ะ ส่วนวินเซนต์เป็นรุ่นน้องของพี่เจ้าขุนที่สนิทมากๆ เราเจอกันที่ผับบ้าง ที่มหา’ ลัยบ้าง วินเซนต์เป็นฝ่ายเข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน ซึ่งฉันก็โอเค แล้วก็เห็นว่าวินเซนต์เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ถึงเขาจะชัดเจนว่าเข้ามาจีบก็เถอะ "บ้า! แกก็พูดไป วินเซนต์แค่ไปพักผ่อน" ฉันเอ็ดแตงโมไป พักจงพักใจอะไร แค่ไปพักผ่อนก็พอมั้ย "จ้ะ! แม่คนโลกสวย เพราะแบบนี้ไงแกถึงไม่มีหลัว" "ไม่เห็นเกี่ยวเลย ...ว่าแต่แกเถอะ ไปเรียนถึง LA เป็นไง มีหนุ่มๆกลับมาด้วยมั้ย" ฉันบ่นอุบและรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เพราะถ้าไม่เปลี่ยนเรื่องยัยเพื่อนคนนี้คงไม่ยอมจบเรื่องฉันง่ายๆ แน่ "ไม่อยากจะโม้เลยแกเอ๊ย" "ไม่มีสินะ" ฉันดักทางอย่างรู้ทัน ขึ้นต้นมาแบบนี้ทีไร ตอนแรกก็เหมือนจะมีอะไรแหละ แต่สุดท้ายก็นก "ฉันยังไม่ได้เล่าเลยนะ" "เอาแบบสรุปๆ มีหรือไม่มี" "ไม่มี" แตงโมยู่ปากตอบฉัน เห็นมั้ยล่ะ ต่อให้ไม่เจอกันนานแค่ไหน นิสัยยัยนี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย ไอ้ที่แบบเว่อร์ๆ ไว้ก่อนเนี่ย "จริงๆ เลย" ฉันส่ายหน้าให้กับเพื่อนรักอย่างเหนื่อยใจ "ฉันอกหักอะแก" แตงโมตีหน้าเศร้าพูดขึ้นมาอีกครั้ง "อะไร อกหักอะไร" "คนที่ฉันชอบเขามีแฟนแล้วอะดิ" ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เพื่อนฉันมันไปมีคนที่ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ฉันรู้ก็มีแค่... "...พี่เจ้าขุน ?" มีแค่พี่เจ้าขุนจริงๆ ที่แตงโมมันแอบชอบจะเป็นจะตาย แต่แค่แอบชอบนะคะ ตัวพี่เจ้าขุนน่ะไม่รู้หรอกว่ามีคนจะเป็นจะตายเพราะพี่แกอยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคน "อื้อ ฉันไปเรียนแค่สองปี พี่เจ้าขุนก็โดนแย่งไปแล้ว เศร้าว่ะ" แตงโมเนี่ยเข้าขั้นคลั่งพี่เจ้าขุนมากๆ นี่ถ้าฉันไม่รู้ว่าพี่เจ้าขุนกับพี่ฟ้าใสชอบกันมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันคงเชียร์ให้แตงโมนี่แหละ ถึงเพื่อนฉันมันจะบ้าไปหน่อย แต่มันก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลย "เอาน่า ยังมีผู้ชายอีกเยอะแยะที่รอแกอยู่" ฉันไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไงเหมือนกัน ได้แต่ตบบ่าเบาๆ และพูดให้กำลังใจ "ทำไมพี่เจ้าขุนถึงมีคนเดียวในโลกด้วยอะ มีหลายๆ คนไม่ได้เหรอ" "แกเพ้อเจ้ออีกละ" "ฮ่าๆๆ แต่ก็เอาเถอะ ฉันทำใจมาสักพักละว่ายังไงพี่เจ้าขุนก็ต้องตกเป็นของพี่ฟ้าใส ฉันถึงไม่ฟูมฟายมากไง" ไม่ฟูมฟายมาก ? เดี๋ยวนะ !? แล้วใครหน้าไหนมันโทรมาร้องไห้กับฉันตอนที่พี่เจ้าขุนเปิดตัวคบพี่ฟ้าใสจริงจัง "จ้ะ ไม่ฟูมฟายเลยเนอะ" ฉันได้แต่ส่งยิ้มเห่ยๆ ให้แตงโม อะไรคือนิยามของคำว่าไม่ฟูมฟายของมันกันนะ จากนั้นฉันกับแตงโมก็คุยกันไปเรื่อยๆ ถามสารทุกข์สุขดิบตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน ถึงเราจะคุยกันบ่อยผ่านโซเชี่ยลต่างๆ แต่มันก็ไม่หนำใจเท่าการมาเจอกันแบบตัวเป็นๆ แบบนี้ เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแตงโมสะกิดให้ฉันหันไปมองประตูทางเข้า "แกๆๆ ดูนั่นสิใครมา" ฉันทำหน้างงนิดหน่อย แต่ก็หันไปมองตามที่แตงโมบอก แล้วก็เจอกับ...วินเซนต์ ? "..!?" วินเซนต์ชะงักไปนิดนึงที่เจอฉัน ส่วนฉันที่ไม่ได้คิดอะไรก็เลยส่งยิ้มให้เป็นปกติ ซึ่งวินเซนต์เองก็ยิ้มตอบฉันกลับมา ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา "มาซื้อกาแฟเหรอ" ฉันเอ่ยถามอย่างคนอัธยาศัยดี "อื้ม พอดีต้องไปธุระน่ะ เราเลยแวะซื้อกาแฟ" วินเซนต์ตอบฉันเสียงเรียบ และหันไปยิ้มทักทายแตงโมบ้าง "แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ" ฉันถามต่อ "เปล่า มากับเพื่อน แต่เพื่อนมันเอารถไปจอด เดี๋ยวมันตามเข้ามา..." ทันทีที่วินเซนต์พูดจบ เพื่อนเขาคนที่ว่าก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับเอ่ยถามเสียงดัง ก่อนจะเดินเข้ามายังโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ "เฮ้ยเพื่อน มึงสั่งยังวะ" "...ยัง มึงไปสั่งที" วินเซนต์ตอบเพื่อนเขา ส่วนเพื่อนเขาก็บ่นนิดหน่อย แล้วหันมามองฉันกับแตงโมที่นั่งอยู่ ก่อนที่สายตาของเขาจะมาสะดุดอยู่ที่ฉัน ที่มองเขาอยู่ก่อน ...หล่อ! นี่คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวฉัน ทันทีที่เห็นเขา เขาดูดีจริงๆ สูง ขาว ดูหน้าหวานๆ แต่สายตาดูมีเสน่ห์แปลกๆ เราทั้งคู่สบตากันได้ไม่นาน เขาก็ฉีกยิ้มให้ฉัน ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว "สวัสดีครับ ผมไทม์ครับ" "เอ่อ...จันทร์เจ้าค่ะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม