"ฉันว่ามันความจำดีทีเดียวนะ...ไอ้เจคอบน่ะ"
เจคอบเหรอ...
คล้ายกับว่าเธอได้ยินชื่อของคนที่น่าหวาดกลัวที่สุด หัวใจเต้นรัวอยู่ข้างใน ลมหายใจติดขัด แววตากลมโตมีความวูบไหวภายใต้แสงไฟในไนต์คลับ
เซเวียร์กระตุกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าที่ยังคงเรียบเฉย
โธ่...มาย แค่ได้ยินชื่อเพื่อนตัวดีของเขา ผู้หญิงคนนี้ก็เก็บอาการแปลก ๆ แทบไม่อยู่
"ฉันไม่ทราบว่าคุณหมายถึงใคร" มารีนตั้งสติแล้วเหลือบสายตามองมาเฟียหนุ่มเจ้าของไนต์คลับ
"ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวสิ" เซเวียร์แค่นหัวเราะ ในขณะที่การ์ดร่างใหญ่หลายคนขวางทางไม่ให้เธอออกไป หญิงสาวตวัดสายตามองมาที่เขาทันที
"ใจร้อนจริง ๆ เก็บอาการหน่อยมาย"
"ฉันต้องการกลับออกไปจากไนต์คลับของคุณ กรุณาบอกให้ลูกน้องคุณหลีกเดี๋ยวนี้"
ชายหนุ่มยืนล้วงกระเป๋านิ่ง ๆ ก่อนยิ้มมุมปากยียวน
"เธอยังไปไม่ได้"
"คุณเซเวียร์!"
เซเวียร์ถึงกับหลุดขำเมื่อเธอเผลออุทานชื่อเขา
"เธอรู้จักฉันนี่นา...มาย ไหนว่าฉันจำคนผิด"
"..." มารีนเม้มปากแน่นเข้า พวกเขามันร้ายกาจเหมือนกันหมด ต้อนเธอให้จนมุมเหมือนเหยื่อที่ไร้ทางไป
"ฉันจะกลับค่ะ"
"ก็บอกว่ายังกลับไม่ได้ไง"
"ทำไมคะ" มารีนกำมือแน่น จ้องหน้ามาเฟียหนุ่มที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวด้วยสายตากังวล
เธอจะอยู่ในที่แห่งนี้นานกว่านี้ไม่ได้ มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าเขาคนนั้นบังเอิญอยู่ในที่แห่งนี้ด้วยพอดี
เธอไม่อยากเจอเขา
ไม่สิ...ต้องบอกว่าไม่กล้าที่จะเจอเขามากกว่า
เซเวียร์หยักยิ้มเพียงนิด เรียกลูกน้องคนสนิทมากระซิบบางอย่าง จากนั้นลูกน้องคนสนิทก็เดินไปหาแขกที่เป็นคู่กรณีอย่างแหวนและเชน เขาพาสองคนนั้นหายไปในห้องหนึ่งของไนต์คลับตามคำสั่งของเซเวียร์
ตอนนี้เหลือแค่เธอที่โดนกักตัวอยู่ มารีนจ้องมองเขา ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร มาเฟียหนุ่มก็เอ่ยคำสั่งขึ้นก่อน
"ตามฉันมา"
"คุณคะ ปล่อยฉันกลับเถอะ" เธอพอจะรู้ว่าคนอย่างพวกเขามีอิทธิพลมากแค่ไหน
"ไม่ได้หรอก เธอยังต้องชดใช้ค่าเสียหาย"
"อะไรนะคะ!?"
"ไปคุยกันที่อื่น" เซเวียร์มองเธอด้วยสายตาที่ดุกร้าวขึ้น ทำให้มารีนไม่อยากโต้แย้งอีก เธอยอมเดินตามเขาไปในห้องรับรองห้องหนึ่งโดยมีการ์ดประกบตามหลัง
มารีนไม่มีทางเลือก...คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่เธอควรมีปัญหาด้วย การประนีประนอมคือทางออกที่ดีที่สุด
ทันทีที่เข้ามาในห้อง มาเฟียหนุ่มก็ยืนพิงผนังห้องกอดอกมองเธอด้วยท่าทีสบาย ๆ ผิดกับมารีนที่ยืนตัวแข็งด้วยความหวาดหวั่น ส่วนการ์ดรออยู่ด้านนอกไม่ได้เข้ามาวุ่นวาย
"เธอรู้ไหมมาย ไนต์คลับฉันมีมูลค่าเท่าไร รายได้ต่อคืนมากมายแค่ไหน และเธอน่าจะรู้ว่าพวกเรา..."
'พวกเรา' ที่หมายถึงเขาและกลุ่มเพื่อนมาเฟียทั้งหมด
"พวกเราเป็นบุคคลที่ทำได้ทุกอย่าง" คำพูดของเขาเรียบเรื่อย ทว่ากลับทำให้คนฟังกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกังวล
นี่เขากำลังข่มขู่เธอชัด ๆ
"เรื่องในวันนี้สร้างความเสียหายให้ไนต์คลับฉันมากเลยล่ะ" เขาทำสีหน้าเหมือนคนโดนโกงไปสักร้อยล้าน
การแสดงและเสแสร้งของมาเฟียคนนี้เข้าขั้นรับรางวัลเอกการแสดงได้เลยกระมัง มารีนได้แต่นึกหมั่นไส้ ทว่าตอนนี้เธอเป็นรองในเกมนี้
"คุณต้องการให้ฉันชดใช้เท่าไร" ตัดสินใจถามออกไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จะชดใช้ได้ไหมด้วยซ้ำ นี่คงเป็นสิ่งที่พวกคนเจ้าเล่ห์ต้องการ
เซเวียร์แย้มยิ้มเมื่อเหยื่อติดกับ...
ทว่ายังไม่ทันที่เซเวียร์จะบอกจำนวนค่าเสียหาย เสียงเย็นชาที่แฝงความแข็งกร้าวของใครบางคนก็เอ่ยขึ้นแทน
"สามล้าน"
มารีนหันไปตามต้นเสียงของคนผู้นั้น น้ำเสียงนั้นช่างคุ้นเคย แม้ไม่ได้ยินเสียงนี้มาเนิ่นนาน ทว่าเพียงครึ่งคำก็ทำให้หัวใจกระตุกวูบจนแทบหยุดหายใจ
ดวงตากลมโตค่อย ๆ ช้อนขึ้นมองหน้าเขา ร่างกายกำยำด้วยกล้ามเนื้อแกร่งแบบลูกครึ่ง รอยสักน่าเกรงขามที่ประทับอยู่บนผิวกายทั้งแขนจนถึงลำคอ และที่ทำให้เธอแทบล้มทั้งยืนก็คือดวงตาคู่นั้น
นัยน์ตาสีเทาที่แสนน่ากลัวและดึงดูดในเวลาเดียวกัน
เจคอบ
เป็นเขา...เป็นเขาจริง ๆ
มารีนนิ่งอึ้ง มือของเธอชื้นไปด้วยเหงื่อจนเย็นเฉียบ ยามที่เขาตวัดสายตาคู่นั้นมองเธอ ร่างของหญิงสาวก็คล้ายโดนสาปให้เป็นหิน แววตาคมคู่นั้นเย็นชาและน่ากลัว คล้ายกับคมมีดที่พร้อมกรีดเธอให้ขาดเป็นชิ้น ๆ
มารีนตั้งสติได้ก็รีบหลบสายตาของเขา เธอหลุบตาลงต่ำ เอามือประสานจับกันไว้แน่นปกปิดอาการสั่นของเธอ
เซเวียร์ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็ยิ้มมุมปากออกมา ไอ้เจคอบมันมาไวกว่าที่คิด เขาเดาว่ามันคงยืนดูเหตุการณ์เงียบ ๆ อยู่นานแล้ว ทันทีที่รู้ว่าเป็นมารีนมันก็คงไม่อยู่เฉยแน่ และก็เป็นไปตามคาด
นี่แหละฉากที่รอคอย...
"สามล้านตามที่มึงว่าแล้วกัน" เซเวียร์เอ่ยขึ้นส่งเสริม ก่อนหันมาทางเหยื่อตัวน้อยที่หลงเข้ามา
"เอาเป็นว่าเธอต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ไนต์คลับฉันสามล้าน"
มารีนรีบเงยหน้ามองมาทางเซเวียร์ แววตาหญิงสาวนั้นทั้งกรุ่นโกรธและมีความกังขา ก่อนจะหันมาทางคนมาใหม่ที่กำลังยืนมองเธอด้วยความเย็นชา
สามล้านบ้าอะไร เธอจะมีปัญญาหาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน ร้านเขาทำด้วยทองคำหรือไงกัน แค่เธอจิกหัวคู่กรณีแล้วเทเหล้าใส่หัว อย่างมากก็ทำโต๊ะเลอะ
แล้วมันจะสามล้านได้ยังไงกัน!
"ฉันแค่ทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นนะ สามล้านมันมากไปนะคะ" สีหน้าของเธอตอนนี้เหมือนแกะน้อยที่กำลังโดนหมาป่ารอขย้ำ
เจคอบมองเธอนิ่ง ๆ มุมปากของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อย แววตาสีเทามีประกายความพึงพอใจเมื่อเห็นความกลัวของเธอ สีหน้าท่าทางที่จนตรอกแบบนั้นเหมาะกับผู้หญิงคนนี้
"ไม่มากไปหรอก ฉันบอกแล้วว่าไนต์คลับฉันมีมูลค่าสูง" เซเวียร์ยิ้ม ๆ แล้วมองมาที่เพื่อนอย่างเจคอบ
"เอาเป็นว่ามึงจัดการแทนแล้วกัน สาขานี้มึงช่วยกูออกทุนไปไม่น้อย จะเอายังไงกูให้มึงตัดสินใจแล้วกันเพื่อน" พูดจบเซเวียร์ก็ออกจากห้องไปทันที
มารีนเบิกตากว้าง นี่เท่ากับว่าความเป็นความตายของเธอกำลังถูกโยนไปอยู่ในมือของเจคอบน่ะสิ
บ้าไปแล้ว!
ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงคนสองคน คือเจคอบและเธอ หญิงสาวไม่กล้าสบตาร่างสูง เธออยากจะรีบวิ่งออกจากห้องนี้ ทว่าเพียงก้าวขาแค่ก้าวเดียว คนร้ายกาจก็คว้าข้อมือเธอไว้ทันที
"อ๊ะ!"
เขายังไม่ทันออกแรงด้วยซ้ำ ทว่าก็เพียงพอให้เธอโดนกระชากกลับมา
ข้อมือของมารีนยามที่อยู่ในฝ่ามือของเขา มันช่างดูเปราะบางเหมือนแก้วที่พร้อมจะแตกหัก
เจคอบดันร่างของหญิงสาวจนแนบชิดติดไปกับผนัง ฝ่ามือบอบบางถูกเขาตรึงไว้ด้านข้าง เธอไม่สามารถหลุดออกมาจากพันธนาการนี้ได้เลย
"ปล่อยนะคะ" เธอเงยหน้าสบตาเขา เอ่ยออกไปแบบนั้นทั้งที่ในใจหวาดหวั่นไม่น้อย
"ปล่อยมายนะ"
"ถ้าฉันไม่ปล่อยซะอย่าง ใครจะทำไม"
"พี่เจคอบ"
ผู้อยู่เหนืออาณัติมองต่ำลงมาด้วยแววตาเหยียดหยัน รอยยิ้มมุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย ใบหน้าคมโน้มลงมาประชิดอีก ริมฝีปากหยักเคลื่อนใกล้ผิวแก้มนวล ก่อนกระซิบถ้อยค่ำต่ำพร่าแสนเยือกเย็น
"ยังจำชื่อฉันได้นี่"
"..."
"แล้วจำได้ไหมว่าฉันเคยเป็นผัวเธอด้วย"