"แล้วจำได้ไหมว่าฉันเคยเป็นผัวเธอด้วย"
ตัวเธอชาวาบเมื่อได้ยินคำถามนั้น
น้ำเสียงที่เขาพูดออกมาออกจะติดเย็นชา ทว่ามันแฝงอารมณ์เคืองขุ่นบางอย่างด้วยเช่นกัน
มารีนรู้ดีว่าสิ่งนั้นคืออะไร...มันคือความแค้นและโกรธเกลียด เขาต้องเกลียดเธออยู่แล้ว
เห็นเธอไม่กล้าตอบ เจคอบก็หัวเราะลึกในลำคอก่อนจะเอ่ยต่อ
"ไม่คิดว่าจะเจอผู้หญิงอย่างเธอที่นี่นะ...มาย"
แววตาของเธอสั่นไหวและแดงก่ำเมื่อเขาจ้องมองมา เจคอบไม่เหมือนคนเก่าที่เธอรู้จัก เธอเองก็เช่นกัน เธอคงไม่ใช่ผู้หญิงคนเก่าที่เขารักและไว้ใจ
ชายหนุ่มไล่สายตาคมกริบมองเธอตั้งแต่ใบหน้าหวานลงมาจนถึงเนินอก เขามองเธอนิ่ง ๆ คล้ายพิจารณา
มารีนในวันนี้ต่างออกไปจากอดีต
เขาจำได้...ในตอนนั้นเธอเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสา ดั่งดอกไม้แรกแย้มที่บริสุทธิ์ที่ไม่เคยแปดเปื้อนราคีสิ่งใด
เป็นเขา...ที่สอนให้เธอรู้จักรสชาติความหวานแห่งความใคร่ปรารถนา เขาเป็นคนแรกของเธอ
ทว่าในวันนี้เธอสวยสะพรั่งยิ่งกว่าเดิม เหมือนดอกไม้งามที่เบ่งบานเต็มที่ จากความไร้เดียงสาแปรเปลี่ยนเป็นความเย้ายวนที่ดึงดูดใจคนมากมาย
ผู้ชายคนอื่นก็คงอยากสัมผัสดอมดม อย่างเช่นเหตุการณ์ในคืนนี้ที่เขาเฝ้ามอง
คิดได้เพียงเท่านั้นความรู้สึกบางอย่างก็ปะทุอยู่ในใจ
"เจ็บค่ะ!" มารีนขมวดคิ้วนิ่วหน้าเมื่อข้อมือของเธอถูกเขาออกแรงบีบกำแน่นขึ้น แววตาของเจคอบอึมครึมมากกว่าเดิม
"ยังไม่เลิกนิสัยจับผู้ชายไปทั่วอีกเหรอ"
"คุณพูดอะไร" เธอโต้แย้งเขาและแทนสรรพนามใหม่ที่รักษาระยะห่างระหว่างกัน เป็นการย้ำเตือนตัวเองด้วยไม่ให้ล้ำเส้นเข้าไปอีก
"ก็อย่างเมื่อคืนไง ที่เธอกับไอ้หมอนั่นก่อเรื่อง ขนาดมันมีเจ้าของแล้วเธอก็ไม่เว้น"
"..." คำพูดเสียดสีนั้นทำให้หญิงสาวกัดฟันแน่น จ้องมองเขาไม่หลบตา
เจคอบเหยียดยิ้มเล็กน้อย ในแววตาสีเทามีรอยหยัน และมีวูบหนึ่งที่หญิงสาวมองเห็นความผิดหวังในดวงตาของเขา แต่ว่าไม่นานมันก็หายไปแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา
"ที่ไม่ตอบก็เพราะมันเป็นนิสัยที่แท้จริงของเธอล่ะสิ"
"ค่ะ นิสัยมายมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ"
"..."
"คุณ...น่าจะรู้ดีที่สุด" แม้ว่าความจริงตัวเธอเองไม่เคยทำตัวเลวร้ายแบบนั้น แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอไม่มีทางเลือก ให้เขาเข้าใจแบบนั้นคงดีที่สุดแล้ว
คำพูดประชดของเธอทำให้นัยน์ตาของมาเฟียหนุ่มดำมืดลง พายุอารมณ์ค่อย ๆ ก่อขึ้นในใจ
ภาพเหตุการณ์ในอดีตวกวนกลับมา เจคอบขบกรามเข้าหากันแน่น เขาเลื่อนมือหนึ่งมาบีบกรอบหน้าเรียวไว้ จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยคล้ายต้องการค้นหาความรู้สึกที่แท้จริง
"ปากเก่งขึ้นเยอะนะ" มุมปากกระตุกยิ้มทว่าแววตากลับเต็มไปด้วยแรงโทสะบางอย่าง
"ทวนความหลังกันหน่อยดีไหม เผื่อเธอจะลืมว่าสันดานผัวเก่าแบบฉันมันเป็นยังไง"
"คุณเจคอบ" หัวใจของมารีนเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น
สันดานของเขาน่ะหรือ...ทำไมเธอจะไม่รู้
เขามันคนดิบเถื่อนและเจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งกว่าอะไร ยิ่งคนที่หักหลังเขา เจคอบไม่เคยปรานี ซึ่งนั่นคงรวมถึงเธอด้วย
หญิงสาวพยายามแกะมือแกร่งที่จับกรอบหน้าเธอออก ทว่าเรี่ยวแรงของเธอมันช่างน้อยนิดถ้าเทียบกับเขา
"ปล่อยมายนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้"
ไม่มีสิทธิ์เหรอ...
คำพูดของเธอยิ่งกระตุ้นอารมณ์ที่โกรธกรุ่นของเขา มารีนจ้องหน้าเขา พยายามเก็บอารมณ์อ่อนไหวแล้วใช้ความแข็งกร้าวแสดงออกไปแทน
"เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มายจะทำอะไร จะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับคุณ มายจะคบใครจะชอบใครก็ไม่เกี่ยวกับคุณ"
"มาย!"
"อื๊อ!" เพียงเสี้ยววินาทีริมฝีปากของเธอก็ถูกคนตรงหน้าทาบทับจูบร้อนเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
คนร้ายกาจที่กำลังโมโหกดจูบแนบแน่นไม่ยอมผละออก ดูดขบเม้มริมฝีปากหวานที่ห่างหายไปนานอย่างเอาแต่ใจ คนตัวเล็กถูกเขากดไว้กับผนังกักขังให้รองรับจูบนั้น เธอเกือบจะอ่อนระทวยตามความรู้สึกก้นบึ้งของจิตใจ
ทว่าพอตั้งสติได้มารีนก็พยายามดันเขาออก พอเขาผละเรียวปากออกเพียงนิดหญิงสาวก็ฟาดมือไปที่ใบหน้าหล่อแรง ๆ
ใบหน้าของชายหนุ่มหันไปอีกทาง เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนนี้กล้าตบเขา
"คุณทำบ้าอะไร"
เจคอบหันกลับมาตวัดสายตามองคนที่พยายามใจกล้า ทั้ง ๆ ที่แววตาเธอมันสั่นกลัวเหมือนกระต่ายที่กำลังจะโดนเสือกิน แม้เธอจะพยายามทำตัวเก่งเข้มแข็งแค่ไหน
แต่เขาดูออก... เขาคือคนที่รู้จักเธอดีที่สุด
"ทำไม? แค่จูบกับผัวเก่ามันจะตายหรือไง เธอก็รู้ดีว่าคนมันเคย ๆ กัน"
"..."
"มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว"
ได้ยินประโยคนั้นมารีนก็หน้าเห่อร้อน ความรู้สึกมากมายวิ่งอยู่ในใจ เธอยกมือเตรียมฟาดคนร้ายกาจอีกครั้ง ทว่ารอบนี้เขากลับคว้าข้อมือเธอไว้ได้ทันอย่างง่ายดาย
"คุณ...อื๊อ..." เสียงของเธอถูกกลืนหายไปอีกครั้ง
เจคอบรวบข้อมือบอบบางสองข้างของเธอ ตรึงไว้เหนือหัวด้วยฝ่ามือเดียวของเขา กักขังร่างเธอแนบชิดผนังจนแทบขยับไม่ได้ บดจูบร้อนรุนแรงเข้าไปอีกครั้ง ไม่ปล่อยพื้นที่ว่างให้เธอได้เปล่งเสียงใด เรียวลิ้นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากอีกฝ่าย ควานหารสหวานโดยสัญชาตญาณและความเคยชิน
ลมหายใจของคนทั้งคู่สอดประสานสลับกัน
มารีนแทบขาดอากาศหายใจ หัวใจข้างในเต้นกระหน่ำ อุณหภูมิในร่างกายของเธอเพิ่มสูงขึ้น สติกำลังพร่าเลือน
ในขณะเดียวกันฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของเขาก็ค่อย ๆ เลื่อนมากอบกุมอกสวย ขยำคลึงเคล้นผ่านผิวผ้าด้วยอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน
เธอกำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เคยคุ้น ยิ่งมันขาดหายไปนาน ความต้องการภายในยิ่งถูกเขาปลุกเร้าได้โดยง่าย
แต่เธอจะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้...เธอต้องหยุด
"อา!" เจคอบสะดุ้งเล็กน้อยก่อนผละริมฝีปากออก ร่างบางหลุดออกจากพันธนาการชั่วขณะ
เขาใช้นิ้วมือเช็ดเลือดที่เรียวปากและตวัดสายตามองหน้าเธอ
"มาย..." เธอกัดเขา
มารีนต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่เขาเองก็เห็นได้ชัดว่าเธอ...หวั่นไหว
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ร่างบางยกมือเช็ดเรียวปากของตนที่เปียกชื้น เธอหลบตาเขาอยู่สักพักก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมอง
ดวงตาคู่สวยสั่นวูบไหวและแดงก่ำเล็กน้อย ทว่าเธอก็พยายามปรับมันให้เยือกเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอใด ๆ
"คุณไม่ควรทำแบบนี้"
"..."
"ถ้าคุณเกลียดมายคุณก็ไม่ควรทำแบบนี้"
เจคอบจ้องเธอนิ่ง เธอพูดถูก เขาเกลียดเธอ เขาต้องเกลียดเธออยู่แล้ว
"ฉันจะทำอะไรก็ได้ เธอก็รู้"
มารีนกะพริบตาถี่ ๆ พยายามข่มกลั้นอารมณ์ต่าง ๆ
เขาแค่อาจจะอยากให้เธอเจ็บปวดก็ได้ถึงได้ทำแบบนี้ หญิงสาวหลบสายตาเขาแล้วผละตัวออกมาจากการเกาะกุม รอบนี้คนใจร้ายไม่ได้กักขังเธอไว้อีก เขาเพียงยืนนิ่งและยอมปล่อยเธอออกไป
ไม่ใช่ว่าเขาใจดีหรือรู้สึกผิด แต่เป็นเพราะเขารู้ว่าเธอจะต้องกลับมา ชีวิตของเธอในตอนนี้อยู่ในกำมือเขา อีกไม่นานเธอจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาและขอร้องเขา
"อย่าลืมว่าเธอติดหนี้ของเซเวียร์"
"..."
"คนที่จะช่วยเธอได้มีแค่ฉัน" เขายิ้มมุมปากขณะเธอเดินออกไปที่ประตู
"ฉันจะรอฟังคำขอร้องของเธอ"
มารีนหันมามองเขา แววตาสีเทาของเจคอบทำให้เธอเม้มปากแน่นขึ้น เธอจะไม่มีวันขอร้องเขาแน่
หญิงสาวหันหลังแล้วเปิดประตูออกไป การ์ดที่ยืนเฝ้าด้านนอกทำท่าจะขวางไว้ ทว่าเจคอบส่งสายตาเป็นคำสั่งให้ปล่อยเธอ ลูกน้องทุกคนจึงถอยออกไป ไม่นานมารีนก็เดินหายไปจนลับสายตา
เจคอบแค่นหัวเราะเบา ๆ ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มข้างหนึ่ง ก่อนจะแตะนิ้วตรงรอยขบกัดที่เธอฝากไว้บนเรียวปาก รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้น
ผู้หญิงที่ไร้เดียงสาในวันนั้น ตอนนี้เธอดื้อรั้นขึ้นไม่น้อย
แต่ไม่ว่าจะดื้อรั้นขนาดไหน เธอก็หนีไม่พ้นเขา เจคอบไม่จำเป็นต้องขังเธอไว้ เพราะเธอจะต้องกลับมาด้วยตนเอง
อีกไม่นานมารีนจะต้องขอร้องอ้อนวอนเขา
"เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกมาย"