หลงรักแม่ป้าห้องตรงข้าม
เข้ามาถึงเซเว่นนะโมก็เดินไปยังโซนอาหารแช่แข็งก่อนเป็นอันดับแรก เธอก้มๆ เงยๆ เลือกอยู่นานสุดท้ายก็หยิบสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าขึ้นมาหนึ่งกล่อง ตามด้วยขนมปังเนยนมอีกหนึ่งห่อ ปิดท้ายด้วยน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง
“เธอไม่กลัวอ้วนเหรอ”
“แล้วฉันอ้วนไหมล่ะ”
โยธาไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะหยิบของกินตามนะโมจนถูกเธอมอง
“พี่แค่อยากรู้ว่าของที่เธอชอบกินมันอร่อยเหรอ”
“ประสาท!”
ด่าจบคนตัวเล็กก็เดินไปหยิบขนมกรุบกรอบอีกสองสามห่อไว้ทานเล่นตอนอ่านหนังสือกลางคืน เลือกเสร็จก็วางของที่เคาท์เตอร์คิดเงิน แต่ยังไม่ทันจ่ายเงินของแบบเดียวกันอีกหนึ่งชุดก็วางทับของเธอ
“คิดเงินรวมเลยครับ” โยธาหันบอกพนักงานก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสแกนจ่าย
“ฉันมีเงินจ่ายเองได้”
“แต่พี่อยากเลี้ยง”
“ถามจริงนะ เด็กปีสามคณะวิศวะเขาว่างกันเหรอ?”
“ก็ว่างพอมีเวลาจีบรุ่นน้องคณะนิตินะ”
นะโมได้ยินดังนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง เธอมองหน้าโยธาด้วยแววตาอ่านยากที่โยธาเองก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ กระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบวินาทีร่างบางก็เดินกลับไปที่ชั้นวางขนมอีกครั้ง มือเล็กหยิบขนมที่ไม่รู้จักอีกหลายห่อใส่ตะกร้าอย่างไม่คิดก่อนจะเดินกลับมาให้พนักงานคิดเงิน
“จ่ายด้วยนะ”
เธอเอ่ยบอกโยธาก่อนจะหยิบถุงขนมชุดแรกเดินออกมารอที่หน้าร้าน คนพี่มองความแก่นแสบของหญิงสาวก็หลุดยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
‘แสบนักนะยัยเด็กดื้อ แต่รู้สึกเหมือนจะหลงรักเข้าแล้วสิ’
ร่างสูงโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ไม่มีความเคลื่อนไหวมานานหลายเดือนจนสร้างปรากฏการณ์คอมเมนต์ถล่มกดไลค์กระจายภายในเวลาไม่ถึงสองนาที
‘เขื่อน : เด็กดื้อที่ไหนวะ!’
‘เดย์ : เหยด เพื่อนกูออกจากถ้ำเรียนมาเข้าถ้ำรักแล้วเว้ย!’
‘ชาวบ้านหนึ่ง : กรี๊ดดด พี่โยธาโพสต์แล้ว แต่ใครคือเด็กดื้อคะพี่ หนูจะไปตามหา’
‘ชาวบ้านสอง : สามีฉันกลับมาแล้วแต่จะมาพร้อมกับแฟนไม่ได้นะ หนูไม่ยอมฮือออ’
‘ชาวบ้านสาม : อยากเป็นเด็กดื้อจ้า!’
ข้อความต่างๆ เด้งขึ้นระรัวอย่างรวดเร็วจนโยธาต้องปิดการแจ้งเตือนไว้ ซึ่งเล่นโทรศัพท์รอได้ไม่นานอาหารแช่แข็งของเขาและนะโมก็เวฟเสร็จพอดี
“อ้อ เดี๋ยวเอาอันนี้เพิ่มอีกอันครับ”
โยธาหยิบยาลดรอยแผลเป็นวางหน้าเคาท์เตอร์คิดเงินก่อนจะหยิบใส่ถุงขนมของนะโม
“ให้พี่จ่ายเงินให้แล้วยังจะให้หิ้วออกมาให้อีกเหรอ”
“เสนอตัวเองมีสิทธิ์บ่นเหรอ?”
“หึ! ไม่บ่นก็ได้กลับกันเถอะ”
ร่างสูงเดินหิ้วของพะรุงพะรังเต็มสองมือจนนะโมขัดหูขัดตาทนไม่ไหวจึงยื่นมือช่วยถือ
“มีน้ำใจเหมือนกันนะ”
“ฉันแค่หิ้วของตัวเอง”
“ถามจริงว่าตั้งแง่อะไรกับพี่นักหนา พี่ดูไม่เหมือนคนดีเหรอ”
“คนดีเขาไม่ทำอะไรคนเมาหรอกนะ”
“แล้วพี่ทำอะไร?”
“ก็…!! ช่างเถอะ ฉันไม่ได้แคร์อยู่แล้ว”
แม้คนปากจะแข็งกล่าวเช่นนั้น แต่มาถึงวันนี้เธอก็ยังเอาเรื่องที่เกิดขึ้นออกจากหัวไม่ได้ ทั้งช่วงนี้ยังเห็นโยธาแว๊บมาอยู่ข้างกายบ่อยๆ ยิ่งทำให้นะโมรู้สึกไม่สงบ
“ระวัง!”
นะโมเหม่อคิดแต่เรื่องคืนนั้นไม่ทันมองทางจนเกือบจะถูกรถชน แต่ดีที่มือใหญ่ของโยธาคว้าแขนเธอไว้ทัน
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ อยู่นิ่งๆ แล้วเดินตามพี่มา”
คนตัวเล็กกว่าพยายามขัดขืนไม่อยากให้โยธาแตะต้องตัวเอง แต่สู้แรงไม่ไหวจึงยอมปล่อยให้ร่างสูงจับต้นแขนเธอแล้วพาข้ามถนน
กลับมาถึงห้องนะโมก็เพิ่งรู้ว่าโยธาอยู่ห้องตรงข้ามเธอ หญิงสาวเดินเข้าห้องด้วยความสิ้นหวัง สำหรับเธอตอนนี้ชีวิตอันแสนสงบได้จบลงแล้ว
ครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์มือถือไอโฟนสีดำเคสสีขาวที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งสั่นครืดจนเกิดเสียงเรียกให้นะโมที่กำลังแกะอาหารออกมาทานหันมาสนใจ
“ฮัลโหลค่ะ”
(อยู่คอนโดไหม)
“อยู่”
(เดี๋ยวไปหา)
“จะมาทำไม”
(อยากเจอหน้าน้องสาว)
หลังจากถูกตัดสายนะโมก็มองรายชื่อคนที่เพิ่งโทรเข้ามาด้วยความไม่เข้าใจ ร้อยวันพันปีไม่ยักจะสนใจน้องสาว แต่มาวันนี้กลับนึกถึง
ปกติ น้ำมนต์ พี่ชายนะโมมักจะยุ่งกับงานไม่ค่อยมีเวลา ทำให้ช่วงหลังๆ พวกเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกัน น้ำมนต์เป็นทนายความเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง และต้องเดินทางไปว่าความต่างจังหวัดบ่อยครั้ง เขาจึงไม่ค่อยได้แวะมาหาน้องสาว สบโอกาสที่เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดพอดีจึงอยากเอาของฝากมาให้นะโม
ก็อกๆ ก็อกๆ ก็อกๆ
หญิงสาวเดินออกมาเปิดประตูก่อนจะผงะเล็กน้อยที่คนหน้าประตูไม่ใช่พี่ชายเธอ
ก็ว่าทำไมมาเร็ว..
“มีอะไร?”
“ขนมของเธอติดถุงของพี่มาเลยเอามาคืน”
“ขอบใจ”
“เดี๋ยว!”
โยธาร้องห้ามไว้หลังจากเห็นนะโมทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าเขา ร่างสูงหยิบพวงกุญแจรูปแมวน้อยออกจากกระเป๋ายื่นให้นะโม
“เห็นเธอมองเหมือนอยากได้ ก็เลยซื้อให้เอาไปสิ”
“ฉันไม่ได้อยากได้สักหน่อย”
“งั้นแปลว่าไม่เอา?”
“ให้แล้วให้เลย”
นะโมรีบคว้าพวงกุญแจดังกล่าวมาไว้กับตัวพร้อมกับอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว แต่รอยยิ้มนั้นกลับหนีไม่พ้นสายตาของโยธาที่จ้องมองเธอตลอดเวลา
“ล็อกประตูดีๆ ล่ะ มีอะไรก็เคาะห้องพี่ได้ตลอดนะพี่อยู่คนเดียว”
ฟังโยธาพูดจบนะโมก็ปิดประตูใส่หน้าเขา ก่อนจะเดินหิ้วถุงขนมมาตั้งบนเคาท์เตอร์ครัว
เขาอยู่คนเดียวงั้นเหรอ?
นะโมไม่ค่อยเชื่อคำพูดของโยธาเลยสักนิด สำหรับเธอเขาเป็นแค่พวกหน้าหล่อที่ชอบล่าแต้มสาวๆ เท่านั้น ครั้งล่าสุดที่เธอเดินสวนกับเขา ข้างกายก็มีหญิงสาวอยู่เห็นๆ
ก็อกๆ ก็อกๆ
“มีอะไรอี…” หญิงสาวผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนหน้าประตูไม่ใช่โยธาทว่ากลับเป็นพี่ชายของเธอ “เอ้าพี่น้ำมนต์?”
“เออสิ ให้เข้าไปหน่อยเร็วเมื่อยจะตายละ”
น้ำมนต์อวดครวญพร้อมกับถือของฝากเข้ามาในห้องน้องสาว วางถุงขนมของฝากไว้บนเคาท์เตอร์ครัวก่อนจะย้ายร่างไปเอนหลังนอนบนโซฟาอย่างสบายใจ
“ได้นอนบ้างไหมเนี่ย ขอบตาอย่างกับหมีแพนด้า”
น้องสาวหลุดหัวเราะทันทีที่เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่ชายมีรอยคล้ำอย่างหนักใต้ดวงตา
“มีแต่คดีน่าปวดหัว จะเอาเวลาไหนไปนอนล่ะ”
“จะทำงานแต่งเมียหรือไง พักบ้างก็ได้ไม่อยากให้พี่ชายตายก่อนวัยอันควร”
“ปากแกเนี่ยนะ! น่าโดนนัก ว่าแต่แกเถอะเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นแม่ป้าสักที หัดแต่งตัวดีๆ สวยๆ บ้าง หน้าตาก็ออกจะสวยไม่รู้จักใช้งาน”
“ถ้าหนูสวยขึ้นมาพี่ไม่กลัวหนูมีแฟนหรือไง”
“ด้วยพื้นฐานนิสัยแกพี่ไม่ต้องห่วงหรอก มาตรฐานผู้ชายที่สูงกว่ากำแพงเมืองจีนแบบนั้นไม่มีใครกล้าปีนขึ้นมาได้หรอก”
น้ำมนต์ประชดประชันขบขันน้องสาวตัวเองที่ตั้งมาตรฐานผู้ชายไว้สูงจนเขาเองยังยอม ทุกวันนี้เขาถึงไม่เคยเห็นน้องสาวมีแฟนเสียที
“รีบหาแฟนก่อนทำงานนะพี่ขอเตือน ไม่งั้นแกจะได้ขึ้นคานยาวๆ”
“หนูไม่สนใจผู้ชาย”
“แกชอบผู้หญิงเหรอ?”
นะโมมองพี่ชายด้วยสายตาหน่ายใจเป็นคำตอบ
“ถ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงพี่แนะนำเพื่อนให้เอาไหม หล่อ รวย เก่ง แถมยังทำงานสายเดียวกัน”
“หนูเพิ่งจะอายุยี่สิบจะรีบมีแฟนไปทำไม”
คนพี่ขี้เกียจเถียงด้วยจึงหยิบขนมของน้องสาวมาขบเคี้ยวปิดปากตัวเอง แต่พอเห็นขนมมากมายวางเรียงกันก็อดถามไม่ได้
“นี่แกไปปล้นร้านสะดวกซื้อมาหรือไง ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“มีคนเลี้ยง”
“ใครอ่ะ ผู้ชายเหรอ?”
“อืม”
“เชรด! ไม่เบานี่หว่าขนาดมีสภาพเป็นแม่ป้าไม่อาบน้ำแบบนี้ยังมีคนตาดีเห็นร่างทองของแกอีก คารวะสายตาผู้ชายคนนั้นเลย”
นะโมส่ายหัวอีกครั้งกับคำพูดไร้สาระของพี่ชาย
“นะโมขอข้าวกินหน่อย”
“ไม่มี”
“ออกไปซื้อให้หน่อยสิ”
“มีขาก็เดินไปเองสิ”
“เมื่อยอ่า วันนี้เดินเข้าออกศาลทั้งวันไม่ได้หยุดพักเลยแถมพี่ยังต้องเดินทางไกลขับรถจากต่างจังหวัดกลับมากรุงเทพอีก ถ้าขืนให้เดินต่ออีกนิดพี่ต้องพิการแน่หรือแกอยากให้พี่พิการล่ะ”
“เฮ้อ เอาเงินมา”
“โอเคน้องรักเดี๋ยวพี่โอนเงินให้นะ”
เบื่อฟังลูกอ้อนแกล้งสำออยของพี่ชายสุดท้ายนะโมก็ยอมใส่อีแตะช้างดาวเดินลงไปหน้าคอนโดอีกครั้ง แถวนี้มีร้านข้าวอยู่หลายร้าน แต่เธอไม่ค่อยได้ลงมากินจึงไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย
“สุ่มเลือกเอาละกัน”