บทที่ 5 ขอชิมหน่อย

1372 คำ
“ขอฉันชิมหน่อยนะลิลลี่คนดี” ลีอันโดรไม่รอช้าจุมพิตคนที่นอนอย่างระทดระทวยอยู่บนเตียงพร้อมกับแววตาตื่นตระหนกว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ รสจูบของเขาช่างช่างเย้ายวนพร้อมกับมัวเมาคนใต้ร่าง มือหนาลูกไล้ไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาว แล้วค่อย ๆ รูดเสื้อผ้าตัวจิ๋วที่ยังปกปิดส่วนบนให้ออกจากร่างกายสาว แต่ว่าแรงที่กระชากนั้นมันแรงจนเสื้อผ้าของเธอที่เขาเป็นคนสั่งซื้อมาเองฉีกขาดติดมือ แล้วร่างกายเล็กเปล่าเปลือยเหมือนเขายามนี้ ริมฝีปากหนาถอดออกชั่วครู่มองจดจ้องดวงหน้าหวานจิ้มลิ้มกับแก้มที่แดงก่ำพลางยิ้มยั่ว “ขอชิมตรงนี้ด้วยนะ” เขาใช้นิ้วกรีดตั้งแต่ริมฝีปากระเรื่อยลงมาจนถึงทรวงอกอุ่น ความนุ่นหยุ่นราวกับเยลลี่ทำให้เขาอยากบีบเคล้นเคล้าคลึงพร้อมกลืนกินมัน เนินเนื้อขาวนวลที่เคยซ่อนตัวใต้บราเซียจนเขาจ้องมองมันยามล้นทะลักเวลาเธอก้ม ๆ เงย ๆ สองเต้าอวบอิ่มที่ปรากฏให้เห็นเต็มตาครั้งแรกเอาก็วันนี้ด้วยความหลงใหล ปลายถันชมพูระเรื่อทำให้เขาอยากเอาลิ้นไปแตะมันอย่างแผ่วเบาตรงส่วนที่แข็งเป็นไตชูชันรอเขามาดูดกลืน ลินลดาขนกายสาวลุกชันทั่วร่างกาย เมื่อเรียวลิ้นของเขาปัดป่ายลงบนยอดอกสีหวาน เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่กำลังมัวเมาในรสสวาทจนลืมการต่อต้านของเขาไปแล้วสิ้น และก้มลงไปลิ้มรสปลายยอดถันอีกครั้ง “อื้ม...!” เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อเขาดูดดื่มเนินเนื้อของเธออย่างหื่นกระหาย สองเข่าชันเข้าหาระหว่างขา บดเบียดลำท่อนใหญ่พาดไปตามความยาวของร่องสวาท เหมือนครั้งแรกที่เธอขยับอยู่บนร่างของเขา แค่ครั้งนี้เป็นเขาที่เป็นฝ่ายขยับเข้าหา “ลิลลี่ของอันโดรน่ารักที่สุด” เขาเอ่ยเสียงพร่า แม้เขาจะอายุ 32 แล้วเธอจะอายุเพียงแค่ 18 เขาก็อยากเรียกแค่ชื่อกับเธอเท่านั้น ใครอื่นอาจจะมองว่าเขาเป็นโคแก่พร้อมเคี้ยวหญ้าอ่อนและกลืนลงท้องก็ไม่สนใจ แต่เด็กคนนี้เขาจองมาตั้งนานแล้ว ท่อนเนื้อบดบี้เม็ดทับทิมกลางกายสาวขณะเคลื่อนขึ้นลง จนสาวดิ้นพล่าน เขาย่อมรู้ดีว่าตรงไหนของร่างกายผู้หญิงที่ทำให้เสียวลึกสุดใจ และเน้นในตำแหน่งเดิมซ้ำ เพราะอยากให้เธอและเขาเสร็จพร้อม ๆ กันอีกครั้ง “ลีอันโดร...อื้ม...” เธอลืมสรรพนามที่เรียกชื่อเขาไปแล้ว ยามนี้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงพวกนั้นที่ต้องการร่างกายของเขาไม่มีผิด ร่างกายของเธอไม่อาจจะควบคุมได้ มือไม้อ่อนระทวยทั้งยังยินยอมพร้อมช่วยเหลือให้เขาเคลื่อนเข้ามาอย่างถนัดถนี่ ทั้งที่มันไม่ได้เข้ามาภายในร่างกายก็ตาม สองมือเล็กโอบรอบลำคอของเขาไว้ เมื่อเขาเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้น “เรียกชื่อฉัน...เรียกซื่อฉัน” ชายหนุ่มอยากได้ยินเสียงครางหวานเป็นชื่อของเขา เพื่อจะทำให้ร่างกายอันใหญ่โตปลดปล่อยบนร่างของเธอ “อื้ม...ลีอันโดร...อื้ม...ฉัน...ฉัน” แค่เพียงเขาร้องขอขณะเคลื่อนกายบนสองกลีบสวยของเธอ ไม่ว่าเขาจะร้องขออะไรเธอก็ยินยอมพร้อมทำ นี่เหรอหรือเปล่าที่เรียกว่าอาการหลง...! เสียงเตียงนอนที่เคลื่อนไปตามแรงโยกถี่ขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกครางชื่อเป็นชายหนุ่มอย่างเร่าร้อนทำให้เขาและเธอไปถึงจุดหมายปลายทางอีกครั้ง น้ำขาวขุ่นที่แม้ปลดปล่อยไปกับการที่มีนางแบบสาวมาปรนเปรอไปเมื่อรุ่งสางแล้ว แต่ยามนี้มันก็ยังเยอะจนรดเต็มหน้าท้องของเธอ ชายหนุ่มมองมันอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับรอยยิ้มหวานส่งไปให้ร่างเล็กที่มองเขามาอย่างเอาเรื่อง “เสร็จตั้งสองรอบไม่พอใจฉันอีกเหรอ” ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะเบา ๆ กับคนที่เพิ่งสุขสมเป็นครั้งแรก เธอไม่พูดอะไรแต่ขยับขึ้นใช้แขนเท้ากับที่นอนดันร่างที่มันเคยเป็นความลับมาก่อนกับเขา แม้ว่าอาจจะมีนุ่งน้อยห่มน้อย แต่บัดนี้เขาเห็นของเธอหมดแล้ว และไม่ใช่คนที่เธอจะแต่งงานด้วย ทำให้เธอเหมือนโดนข่มขืนแม้ว่าจะไม่ได้สอดใส่ก็ตามที “มักมาก!” เธอว่าเสียงเจือความโกรธอย่างเห็นได้ชัด “ก็เธอทับฉัน” “เพราะคุณต่างหาก” “ก็ถ้าเธอไม่ขย่มจนน้องชายของฉันขัดไปทั้งลำ ก็ไม่ต้องกินเธอเร็วขนาดนี้” “นี่คุณ!” เธอโกรธที่เถียงเขาไม่ชนะ แต่เมื่อคิดทบทวนตามคำพูดที่ว่าไม่กินเร็วขนาดนี้หมายความว่ายังไง ไม่ว่าช้าหรือเร็วเธอก็จะโดนเขากินงั้นเหรอ หญิงสาวเบิกตากว้าง พร้อมกับลุกขึ้นดึงเอาผ้าขนหนูขึ้นมาปิดพันร่างกาย แล้วเดินกระแทกเท้าออกไป ‘หนี!’ คำนี้ผุดขึ้นในหัว เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว หาไม่อาจจะโดนเขาปล้ำเข้าสักวัน “แล้วจะไปไหน” เสียงแหบต่ำตะโกนถามเธอออกไปทั้งที่อยากนอนกอดสักหน่อย แต่กลับทำให้เจ้าหล่อนไม่พอใจออกไปจากห้องของเขา ‘ทำไมเธอไม่ชอบ ทั้งที่คนอื่นติดใจลีลาของเขา’ เขาคิดทบทวนอยู่นานแล้วก็ตัดใจอาบน้ำแต่งตัวนอนพัก เพราะคืนนี้มีงานต้องทำต่อ ลิลลี่เข้าไปในห้อง เก็บของใส่กระเป๋าเป้ เอาแต่ที่จำเป็น เธอต้องหาทางออกจากบ้านนี้ให้ได้ และไม่อยู่ให้มาเฟียบ้านั่นจับกินเด็ดขาด “พ่อไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูก ที่ฝากแมวไว้กับปลาย่างแบบเธอ รู้ทั้งรู้ว่าลูกสาวน่ะสวย ยังไงแมวไร้สัจจะต้องกลืนปลาย่างอยู่แล้ว” ใช่เธอนะปลาย่างแสนอร่อย! เธอบ่นกระปอดกระแปดแล้วก็อาบน้ำหลังเก็บของเสร็จ หลังจากออกจากห้องเขาเธอก็ไม่ย่างกายออกจากห้องอีกเลย รอให้เขาออกไปก่อนเธอถึงจะออกไปจากห้อง ตอนนี้ไม่ต้องถามสู้หน้ายังทำไม่ได้เลย เธอเปิดหาสมุดบัญชีในลิ้นชัก แล้วก็ต้องถอนหายใจ “เงินเท่าจิ๋มมดจะปีกกล้าอยู่ข้างนอกได้เกินครึ่งวันหรือเปล่า” คิดแล้วก็เสียใจ เขาจัดการทุกอย่างทั้งให้คนขับไปรับไปส่ง และค่าขนมแค่พอกินแค่มื้อเที่ยง ค่าใช้จ่ายเบิกตามจริง ไม่มีเงินส่วนอื่นทำให้เธอไม่เหลือเงินเก็บมากนัก “หนียังไงดีวะ!” เวลาหนึ่งทุ่มมาเฟียร้ายอย่างลีอันโดรออกไปทำงาน แล้วหนุ่มธุรกิจหล่ออย่างเฟลิเปกลับเข้ามาในบ้าน เธอแต่งตัวมิดชิด เป็นเสื้อไหมพรมคอเต่าปิดไปทั้งต้นคอ เพราะว่าไอ้บ้าลีอันโดรทำรอยไว้เต็มคอ แล้วจะให้เฟลิเปรู้ไม่ได้ แต่วันนี้เขาไม่หิ้วใครเข้าบ้านทำให้เธอต้องเอ่ยถาม “ไม่ใช้ห้องเชือด?” “ไม่มีอารมณ์” เขาบอกพร้อมกับนั่งที่บาร์น้ำหยิบเหล้าสีอำพันเทใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่ม พร้อมกับมองท่าทีแปลก ๆ ของเด็กในปกครองของลีอันโดรที่วันนี้แต่งตัวพิลึกพิลั่นชอบกล “ยูไม่ร้อนเหรอลิลลี่” “มะไม่...หนาว...สงสัยเป็นไข้” เธอโกหกเฟลิเป เพราะไม่อยากให้ซักมาก แล้วก็มีบางอย่างอยากเจรจากับเขาอีกด้วย “คุณเฟลิเป” เสียงหวานของลิลลี่เอ่ยขึ้นพร้อมนั่งที่เก้าอี้สตูลบาร์ตรงข้ามกับเขา “หืม...!” เฟลิเปเลิกคิ้วสูงกับท่าทีแปลกประหลาดนี้ ปกติไม่เคยส่งยิ้มหวานให้เขา วันนี้นึกครึ้มอะไร “มีอะไรว่ามาอย่าลีลา”เขาถามสั้น “ยืมเงินหน่อยสิแค่หนึ่งแสน” พรวด!!! น้ำสีอำพันพรวดเต็มหน้าลิลลีจนต้องเอามือปาดออก และมองเขาอย่างขุ่นเคือง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม