บทที่ 2 พ่อหมอ

1228 คำ
บทที่ 2 พ่อหมอ เดินมาไม่นานลลิตก็มาถึงห้องของพ่อหมอ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินมาถึงที่นี่ได้อย่างไร มารู้ตัวอีกทีมือของเธอก็จับลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไปเสียแล้ว รู้ดีว่าเป็นการกระทำที่ไร้มารยาท หากแต่เธอกลับเปิดออกไปเช่นนั้น เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างกำยำ อยู่ในชุดเปลือยท่อนบน ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก แล้วยังส่องแสงสว่างตามลายเส้นนั้นอีกด้วย ทว่าเวลาต่อมาแสงนั้นก็ดับวูบไป พร้อมกับดวงตาเรียวคม ขอบตาคล้ำเล็กน้อย ตวัดมองหญิงสาวอย่างเย็นชา “พะ พ่อหมอ...” ลลิตรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้ คือ ‘พ่อหมอ’ ที่เธอตามหาแน่นอน “พ่อหมอ ช่วยฉันด้วยค่ะ!” “ทำไมกูต้องช่วยมึง?” ลลิตอึ้ง เธอนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เนื่องจากมั่นใจว่าไม่มีทางที่พ่อหมอคนนี้จะปฏิเสธที่จะช่วยเหลือแน่นอน อีกทั้งนี่ยังเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เธอนึกขึ้นมาได้ เมื่อเจอกับสีหน้าเย็นชาของชายหนุ่มจึงรู้สึกราวกับโลกทั้งใบพังทลายลงมา “มึงไปทำอีท่าไหนถึงโดนของมาเยอะขนาดนี้?” ชายหนุ่มรับรู้ได้ทันทีถึงคุณไสยซึ่งเธอโดนทำของใส่มา มีบางสิ่งที่แรงมาก บางสิ่งก็เบาบาง หากแต่มีการทำของใส่หลายชั้น ยากที่จะแก้ อีกทั้งยังไม่ใช่ธุระกงการอะไรให้ต้องเสียเวลานั่งสมาธิอันมีค่าของตัวเอง ลลิตคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร แต่ ‘ทัตเทพ’ ก็ไม่ใช่คนใจอ่อน ขี้สงสารอีกนั่นแหละ “รัก ยม มึงมาพาอีนี่ออกไป” จบถ้อยคำนั้นคล้ายกับร่างของเธอถูกฉุดให้ลุกขึ้น ดลจิตดลใจให้เดินออกไป นี่คือวิธีการไล่แขกดื้อด้าน เมื่อเจ้าของสำนักหมอผีแห่งนี้ไม่ต้องการช่วยเหลือ ด้วยเหตุอันใดก็ตาม จึงไม่เคยมีข่าวลือเสียๆ หายๆ เกิดขึ้น กระทั่งลลิตเดินออกมาจนถึงสวนด้านหน้าก็ได้สติ พยายามจะเดินกลับเข้าไปก็หาทางไม่เจอ เดินวนเวียนอยู่เช่นนั้นซ้ำๆ จนท้ายที่สุดลลิตก็ยอมแพ้... เธอหมดหนทางแล้ว ...ไม่สิ ยังมีอีกหนทางนึง ถ้าฉันตายไป เรื่องแบบนี้ก็คงจบแล้ว ขอโทษนะคะ พ่อ แม่ หนูไม่สำนึกบุญคุณที่พ่อแม่เลี้ยงมา หนูขอชดใช้ทีหลังนะคะ... ลลิตตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เธอจึงเดินไปยังบ่อน้ำพุ แม้มันจะไม่ลึกมาก แต่ด้วยการตัดสินใจของลลิตในตอนนี้แล้ว แค่ไม่ยอมลุกขึ้นมาจนกว่าจะหมดสติ แค่นั้นเธอก็คงตายสมใจแล้ว คล้ายกับบางสิ่งรับรู้ถึงความต้องการจะทำร้ายตัวเองของเธอ ภูตผีที่ติดตามเธอมาพยายามเข้าสิงร่าง ผีบางตัวถูกส่งให้เข้ามาในอาณาเขตนี้เพื่อพาตัวลลิตกลับไปหาเจ้านายโดยที่ยังมีชีวิตอยู่! ผีสางแม้จะไร้กายหยาบ หากแต่สะสมบุญก็จะได้โอกาสไปสู่ภพภูมิอื่น ทว่าหากวิญญาณดับสลายแล้ว ไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย ตอนนั้นเองร่างของลลิตถูกครอบงำไปเกือบครึ่ง ดวงจิตของลลิตพยายามต่อต้าน จึงกลายเป็นการต่อสู้กันอยู่ภายใน “อะ ออกไปนะ ออกไป!” ลลิตล้มลงกับพื้น รอบกายเกิดไอเย็นเสียจนขนลุกชัน ร่างกายเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ เป็นสัญญาณว่าดวงจิตของเธอนั้นไม่อาจเอาชนะภูตผีได้ กระทั่ง... “พวกมึงมาทำอะไรในบ้านของกู!” เสียงของบุรุษตวาดดังกร้าว ราวกับคลื่นความรู้สึกอันน่าเกรงขามบางอย่างก่อเกิดขึ้น สอดส่องสายตากวาดไปทั่วทั้งบริเวณ สะกดให้ดวงวิญญาณทั้งหลายแข็งนิ่งอยู่กับที่ ก่อนที่ดวงตาเรียวคู่นั้นจะจดจ้องมองร่างบอบบางของลลิต หญิงสาวช้อนดวงตาขึ้นสบตากับชายหนุ่ม ดวงตาแสนเศร้าไม่มีวี่แววของความหวังหลงเหลืออยู่ ทั้งที่เมื่อครู่แทบจะกราบขอให้เขาช่วย ผ่านมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปลี่ยนไปขนาดนี้แล้ว ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ไอเย็นเมื่อครู่ถอยห่างจากร่างของลลิต เมื่อทัตเทพเดินมาหาลลิตจนระยะทางย่นลงเรื่อยๆ กระทั่งสองเท้าหยุดโดยห่างจากหญิงสาวเพียงแค่ไม่กี่คืบ ดวงตาคู่หวานช้อนขึ้นมองชายหนุ่ม… “มึงพากันเข้ามาเพราะอีนี่เหรอ?” สายตาที่มองลลิตนั้นอ่านยากเหลือเกิน ไม่อาจคาดเดาได้เลย… “พวกมึงกล้าบุกรุกอาณาเขตของกู งั้นก็ยอมรับชะตากรรมซะ” รอยยิ้มแสยะอย่างร้ายกาจ จ้องมองเหล่าดวงวิญญาณไร้ญาติ รู้ดีว่าที่นี่คือที่ใด แม้ไม่มีเขตป้องกันแต่ก็ไม่มีภูตผีวิญญาณตนใดกล้าเข้ามา เพราะรู้สึกได้ถึงพลังอันแรงกล้า หากแต่ตอนนี้ตนเองได้รับคำสั่งและถูกทรมาน หากไม่พาลลิตไปตามคำสั่งอย่างไรเสียก็คงถูกทำให้วิญญาณดับสลาย ดวงวิญญาณทั้งหลายจึงยอมเสี่ยงเช่นนี้ ทัตเทพก้มตัวลงไปช้อนร่างบอบบางขึ้นสู่อ้อมแขนแกร่ง พาเธอเดินไปยังห้องทำพิธี ชายหนุ่มรู้สึกโดนหยามเกียรติเมื่อเหล่าดวงวิญญาณพวกนั้นบังอาจเข้ามาในบ้านของเขา ลลิตถูกวางเอาไว้กลางห้องก่อนที่ทัตเทพจะทำการสวดคาถาบางอย่าง พลันเสียงกรีดร้องดังในโสตประสาทของลลิต จนต้องยกมือขึ้นมาปิดหูเอาไว้ ยิ่งทัตเทพบริกรรม[1]คาถาเร็วขึ้นก็เกิดความทรมานต่อร่างกายของลลิต ร่างบอบบางนอนดิ้นอยู่บนพื้นอย่างทุรนทุราย และในที่สุดก็สงบนิ่ง… ทว่าเวลาต่อมา… ลลิตยันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น ดวงตาคู่หวานเลื่อนลอยไร้ชีวิตจิตใจ ทัตเทพระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งมองลลิตด้วยความโหดเหี้ยม เธอก้าวเท้าเตรียมที่จะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ถูกทัตเทพกระชากกลับมาอย่างรุนแรง “ปล่อยกู!” ดวงตาเลื่อนลอยคู่นั้น พลันเบิกกว้างจนแทบถลนออกมา นี่… ไม่ใช่ตัวตนของลลิต!! “พวกมึงนี่มันเกินไปแล้ว เห็นบ้านกูเป็นสวนสาธารณะหรือไง มึงถึงเข้าออกกันตามใจชอบ?” แรงบีบที่ต้นแขนสร้างความเจ็บปวดให้กับลลิต หากแต่เจ้าของร่างนั้นไม่ได้สติ ที่ประคองร่างของเธออยู่ตอนนี้ คือดวงวิญญาณชั้นต่ำ! “นับแต่นี้ ดวงวิญญาณดวงใดเข้ามาในบ้านกู มันจะไม่มีทางได้ออกไป!” ทัตเทพลั่นประโยคนั้นพร้อมกับร่ายคาถากักดวงวิญญาณ ก่อนจะฉุดกระชากร่างของลลิตไปยังอีกห้องหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างห่างไกลกัน เมื่อเข้ามาก็โยนร่างของลลิตลงบนเตียงนุ่ม ร่างของลลิตตะเกียดตะกายลงจากเตียง หากแต่ไม่อาจก้าวลงไปได้เมื่อทัตเทพเริ่มร่ายคาถา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่ขึ้นคร่อมร่างของลลิตทันที! [1] บริกรรมคาถา = สำรวมใจสวดมนต์ภาวนา, สำรวมใจร่ายมนตร์หรือเสกคาถาซํ้า ๆ หลายคาบหลายหนเพื่อให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม