ตอนที่ 9 | ขออย่าให้มีใครรู้

1339 คำ
เช้าวันต่อมา อนาวินตื่นเช้าเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้กับหญิงสาวที่เขาคิดว่าเธอคือพิมพ์ดาวแฟนของเขา เรียกได้ว่าดูแลทุกอย่างจนอีกฝ่ายไม่ต้องทำอะไรเลย พราวฟ้าตื่นขึ้นมาเห็นชายหนุ่มนั่งมองเธออยู่ที่ปลายเตียง มือบางรีบดึงผ้าห่มผืนใหญ่มาปกคลุมตัวเองให้เรียบร้อย เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลย “พี่เตรียมชุดเอาไว้ให้แล้วนะครับ” อนาวินบอกหญิงสาว ซึ่งเธอดูมีท่าทางที่แปลกไปและดูจะเขินอายไม่เหมือนพิมพ์ดาวคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก “ค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงเบาและยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่กล้าที่จะขยับไปไหน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกนะครับ” ชายหนุ่มบอกด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ บางทีเธออาจจะรู้สึกอายจึงไม่กล้าลุกจากเตียงในตอนที่เขาอยู่ด้วยก็ได้ พราวฟ้ามองตามหลังชายหนุ่มที่เดินออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย พร้อมกับถามตัวเองในใจว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรลงไป ใช้เวลาไม่นานพราวฟ้าก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเดินออกไปหาชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ด้านนอก บรรยากาศบนเรือตอนเช้ามีแสงแดดอ่อนๆ และมีลมพัดผ่านเย็นสบายทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก “หิวไหมครับ” อนาวินเอ่ยถามอย่างเอาใจพร้อมกับมองสำรวจหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจและเกิดความสงสัยในใจ “นิดหน่อยค่ะ” พราวฟ้าก้มหน้าตอบ โดยที่เธอไม่กล้าที่จะสบสายตากับเขา “ถ้าเรือถึงฝั่งแล้วเราไปทานอาหารเช้ากันก่อนนะครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวอย่างไม่ละสายตา เขาพยายามที่จะสังเกตเธออยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะคลายความสงสัยที่อยู่ภายในใจ เมื่อมาถึงฝั่งอนาวินก็รีบพาเธอไปร้านอาหารต่อเพื่อที่จะทานอาหารเช้า ก่อนที่เขาจะพาเธอไปส่งที่บ้านตามหน้าที่ของสุภาพบุรุษที่เขาทำเป็นประจำ “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” พราวฟ้าขอบคุณชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ โชคดีที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ที่บ้านก็ยังไม่มีใครตื่น ส่วนคุณแม่กับพิมพ์ดาวน้องสาวฝาแฝดของเธอก็ตื่นตอนเที่ยง “ยินดีครับ” อนาวินยิ้มให้หญิงสาวก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้หญิงสาวได้พักผ่อนหลังจากที่เหนื่อยมาทั้งคืน พราวฟ้ามองตามหลังของชายหนุ่มที่กำลังเดินออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงต่อไปและเธอต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดี เฮ้อ~ ร่างบางเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ เผื่อว่าเธอจะหาทางออกให้กับตัวเองในเรื่องนี้ได้ “ขออย่าให้มีใครรู้เรื่องนี้เลยนะ” พราวฟ้าพูดกับตัวเองเสียงเบาและเธอตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเขาและเธอ ในใจก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีใครรู้เรื่องนี้อีก ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ทุกอย่างคงจบลงเพียงแค่นี้และพราวฟ้ายังคงภาวนาขอให้เธอกับเขาอย่าได้เจอกันอีกเลย… พราวฟ้านั่งคิดอะไรคนเดียวอยู่สักพัก ในหัวก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา แก้มขาวเนียนก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด มือบางยกขึ้นจับแก้มตัวเองเอาไว้และบอกตัวเองในใจว่าให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หลังจากที่อาบน้ำเสร็จพราวฟ้าก็มานั่งแต่งตัวที่หน้ากระจกบานใหญ่ ถึงแม้เธอจะพยายามลืมเรื่องราวตอนที่อยู่บนเรือ แต่ร่องรอยที่อยู่บนเรือนร่างของเธอยังคงชัดเจน หญิงสาวใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดร่องรอยเอาไว้พร้อมกับหาชุดที่เรียบร้อยและมิดชิดที่สุดมาใส่จะได้ไม่มีใครเห็นรอยรักที่ชายหนุ่มได้ฝากเอาไว้ รอยรักจากบทรักเมื่อคืนยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของพราวฟ้าชัดเจนมากขึ้น เธอเจอเขาครั้งแรกแต่กลับเผลอตัวเผลอใจไปกับเขาอย่างง่ายดาย จะโทษใครก็ไม่ได้นอกจากจะโทษตัวเธอเองที่ใจง่าย จนต้องเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของน้องสาวฝาแฝด พราวฟ้าหลับตาลงเพื่อตั้งสติและทำสมาธิจะได้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านไป เพราะเธอกับเขาคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างเพื่อให้กำลังใจตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ พอแต่งตัวเสร็จพราวฟ้าออกเดินออกจากห้องของตัวเองเพื่อที่จะไปทำงาน พอลงมาข้างล่างพราวฟ้าก็ต้องตกใจเมื่อเห็นดารารายเดินออกมาจากห้องครัวพอดี ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกที่จะต้องปิดบังความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น “แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอลูก” ดารารายถามลูกสาวพร้อมรอยยิ้มอย่างเอาใจ “ค่ะ” พราวฟ้าที่พยายามจะเดินออกไปเงียบๆ ก็ต้องเดินเข้าไปหาคุณแม่ที่โต๊ะอาหาร “มานั่งก่อนสิลูก วันนี้แม่ทำอาหารเช้าเอาไว้ให้ด้วยนะ” ดารารายทำตัวเป็นคุณแม่ที่แสนดีเพื่อที่จะเอาใจลูกสาวคนโตที่มีเงินมากมาย “ขอบคุณค่ะ” ร่างบางยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงที่ประจำของเธอ “ข้าวต้มร้อนๆ มาแล้วจ้ะ” คุณแม่รีบเดินไปตักข้าวต้มมาให้ลูกสาวทันทีจะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอ “น่าทานมากเลยค่ะ” พราวฟ้าชมคุณแม่ที่ช่วงหลังๆ จะชอบทำอาหารให้เธอทานอยู่บ่อยๆ “ทานเยอะๆ นะลูก” ดารารายยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาวอย่างแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู โชคดีที่พราวฟ้าอยู่กับพ่อซึ่งมีชีวิตที่ดีและมีบริษัทที่มั่นคง ต่างจากพิมพ์ดาวที่อยู่กับเธอด้วยความลำบาก จนต้องหาผู้ชายรวยๆ มาเป็นความมั่นคงให้กับชีวิต “ค่ะ” “คือวันนี้แม่อยากจะขอเงินไปซื้อของได้ไหม เอ่อ… พอดีของในครัวหมดแม่ก็เลยจะออกไปซื้อ” ดารารายรีบพูดเข้าประเด็นอย่างไม่รีรอ เพราะไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่จะทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรอก “ได้ค่ะ” พราวฟ้ารู้ทันคุณแม่ทุกอย่าง แต่เธอก็ยอมให้เงินอย่างไม่อิดออดและไม่ได้ถามอะไรต่อให้ยืดยาว หญิงสาวหยิบเงินสดในกระเป๋าทั้งหมดที่มียื่นให้ดาราราย พร้อมกับกอดคุณแม่เอาไว้แน่น เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่มีแม่อยู่ใกล้ๆ เพราะมันทำให้เธอมีความสุขมากกว่าตอนที่ไม่มีแม่เสียอีก “หนูดีใจที่ได้อยู่กับแม่นะคะ” “แม่ก็ดีใจที่ได้ดูแลลูก เย็นนี้อยากกินอะไรบอกแม่ได้เลยนะ” ดารารายยิ้มกว้างเมื่อได้รับเงินก้อนโตจากลูกสาว ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะต่อชีวิตของเธอได้ไปอีกหลายวัน “ค่ะ” พราวฟ้านั่งกินข้าวต้มที่คุณแม่เตรียมไว้ให้พร้อมรอยยิ้ม เมื่อก่อนเธอไม่เคยได้ดูแลแม่เลย แถมแม่กับน้องยังใช้ชีวิตที่ลำบาก พอตอนนี้ได้มาอยู่ด้วยกันเธอก็อยากจะตอบแทนและดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม