รถจี๊ปคันใหญ่แล่นเข้าในตัวเมือง มือหนาหมุนพวงมาลัยถอยจอดกลางลานกว้างในอาณาเขตรั้วโรงเรียนเอกชนชื่อดัง
“ถือมาสิ” คำสั่งข้างหูทำใจดวงน้อยเหี่ยวเฉาเพราะนอกจากสถานะเมียที่เขาไม่ปรารถนา ปุรินยังออกตัวว่ามองเธอเป็นแค่เบ้รับใช้ดีๆ ดูสิ่งที่ชายหนุ่มให้ทำแต่ละอย่างสิ มันต่างกับเธอเป็นนางทาสตรงไหน
“ค่ะๆ” หญิงสาวถอนหายใจลับหลังจอมเผด็จการสองมือกุลีกุจอหอบกระเช้ารังนกราคาแพงเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าตัวอาคาร โรงเรียนระบบสามภาษาคือหนึ่งในความภาคภูมิใจของประเวศสกุล ปุรินสร้างที่นี่เพราะอยากทำตามความฝันผู้เป็นย่าให้สำเร็จ พรรณนารายมีจิตใจเมตตา ท่านหมายมั่นปั้นมืออยากให้ลูกหลานพนักงานและเด็กในละแวกนี้ได้รับการศึกษาเทียบเท่าเมืองหลวงในราคาที่พวกเขาสามารถเอื้อมถึง
ทันทีที่ประตูเปิดออกร่างกระจิ๋วในชุดนักเรียนลายสก็อตวิ่งเข้ามาอย่างว่องไว ‘ภูหมอก’ จ้ำอ้าวหาร่างสูง เพราะเข้าใจว่าเห็นพ่อเวลานี้อาจได้กลับบ้านก่อนกำหนด
“พาคุณพี่คนสวยมารับหมอกเหรอ” เจ้าลิงแสบตาลุกวาวก่อนเบียดตัวกระเซ้าผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางตื่นเต้น
“รู้เยอะนะ เจ้าหมอก” ปุรินชำเลืองมองแก้มยุ้ยซึ่ง แดงเถือกมาแต่ไกล คงเพราะเมื่อกี้เจ้าแสบพึ่งวิ่งเล่นกับเพื่อนเสร็จถึงได้หน้าแดง ตัวแดงเช่นนี้
“พ่อมาขอโทษทีเชอร์ มีเด็กดื้อที่ไหนก็ไม่รู้จับกบเข้ามาในตอนแลกของขวัญคริสต์มาส ถ้าคุณย่าไม่บอกเราจะกล้าสารภาพกับพ่อหรือเปล่าลูกลิง”
“ก็หมอกไม่รู้นี่ว่าผิด”เด็กไวพริบดีฉลาดเกินอายุแสร้งทำตาแป๋วออดอ้อน เพราะรู้ปุรินไม่เคยใจแข็งได้นาน
“พี่กบน่ารักนะพ่อทีเชอร์บอกให้พวกเรารักน้ำ รักสัตว์ รักโรงเรียนหมอกก็รักพี่กบ หมอกดื้อตรงไหน”
“หมอก…”
“จริงไหมครับพี่คนสวย” พูดจบภูหมอกก็วิ่งหลบหลังร่างบาง ผู้เป็นพ่อถึงกับถอนหายใจใส่คนดื้อตาใส ภูหมอกเจ้าเล่ห์อย่างนี้ไม่มีใครต้านอยู่แม้ตัวเขาเอง ส่วนญดารินเพียงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ็นดูเจ้าตัวแสบได้ไม่ถึงนาทีก็ถูกค่อนขอดเสียงเข้ม
“แมลงกัดปากเหรอ” ปุรินกอดอก ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงขัดหูขัดตาปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนี้ อาจเพราะภายนอกญดารินทำใสซื่อ แต่กลับตอบรับการแต่งงานอย่างง่ายดาย เขาเลยตัดสินว่าท่าทีซื่อๆ เชื่องๆ แบบนั้นจอมปลอม
“พี่คนสวยเจ็บทำไมไม่บอก หมอกเป่าเพี้ยงให้ไหมครับ”
“เปล่าจ้ะ พี่ไม่เป็นไร”
“พี่คนสวยบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงขนาดนั้นก็ได้ หมอกไปเล่นกับเพื่อนก่อน เดี๋ยวไปกินไอติมไข่แข็งกัน”
“แต่หมอก…”
“หรือไม่อยาก”
“ก็ได้ๆ พ่อห้ามผิดสัญญานะ” ภูหมอกย่นจมูกจากนั้นก็พยักหน้ารับคำสั่งพ่อแล้วยอมจากไปแต่โดยดี เห็นแก่ไอติมไข่แข็งเจ้าเด็ดหน้าโรงเรียนหรอกนะ เด็กน้อยถึงอ่อนข้อ
คล้อยหลังลูกชายแววตาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งขั้วโลกตวัดดุหญิงสาวข้างกาย เรียวปากกระด้างแสยะยิ้มร้ายทั้งยังไม่วายเอ่ยวาจาถากถาง
“เสน่ห์แรงดีเนอะตกได้ทั้งเด็กทั้งคนแก่ ไม่ธรรมดาเลยนะกอหญ้า วันหลังฉันคงต้องพาเธอไปดีลกับลูกค้าบ้างละมั้งเผื่อมารยาปลอมๆ พวกนี้ใช้ได้ผล”
“ถ้าคุณปุนคิดว่าดีหญ้าก็ไม่มีปัญหาค่ะ” ริมฝีปากอมชมพูฝืนยิ้มบางๆ คำพูดคนพาลทำให้เสียใจได้ไม่นานหรอก ปุรินใจร้ายกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“จะให้หญ้าเอากระเช้าวางตรงไหนดีคะ”
“เชื่องเนอะ ตามมาสิ” หลังบทสนทนาจบลงร่างสง่าจึงเดินนำเบ้จำเป็นไปหาครูคนสวย หญิงสาวเมื่อเห็นชายในฝันก็ทิ้งงานบนโต๊ะทันที
หล่อนอ้อมกลับมาเผชิญหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มพลางระบายยิ้มละมุนยามสบตาทรงเสน่ห์
ครูประจำชั้นของภูหมอกมีนามว่าพีรดา หล่อนเข้ามาทำงานในโรงเรียนเอกชนแห่งนี้หลังเรียนจบทำให้มีความคุ้นชินกับปุรินพอสมควร พ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นคนยื่นโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่ได้แสดงความสามารถและนำเงินไปเลี้ยงปากท้องครอบครัว
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะคุณปุน”
“ช่วงใกล้สิ้นปีผมยุ่งๆ ขอบคุณรดานะครับ สอนเจ้าหมอกคงปวดหัวน่าดู”
“ไม่ปวดหัวเลยค่ะรดาเต็มใจดูแล น้องหมอกเองก็น่ารักแกเข้ากับเพื่อนในห้องได้ดี”
“ได้ยินแบบนี้ผมค่อยเบาใจหน่อย กลัวเจ้าหมอกซ่ามากจนไม่มีเพื่อนคบ”
“เด็กวัยนี้เรื่องแสบซนเป็นของคู่กันค่ะ แต่รดาการันตีนะคะน้องหมอกน่ารักคุณปุนไม่ต้องกังวล”
ญดารินมองทั้งคู่ก่อนค่อยๆ ถอยเท้าห่างออกมา พีรดามีใบหน้าจิ้มลิ้มพูดจาก็น่ารักแถมยังสนิทกับภูหมอก ครั้งหนึ่งหล่อนจึงเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับปุริน ดังนั้นตอนนี้เธอจึงเหมือนส่วนเกินเพราะอยู่ผิดที่ผิดทาง
“ไปไหน!” ดวงตาคมกริบพุ่งตำหนิเธอฉับไวราวลูกธนู
“หญ้าแค่จะออกไปรอข้างนอก” เสียงหวานอ้อมแอ้มตอบ
“ฉันอนุญาตแล้วเหรอ”ชายหนุ่มไม่รามือง่ายๆ เขาทำเหมือนอยากบดขยี้เมียทางนิตินัยให้จมดิน
“ถ้าฉันไม่สั่งเธอไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น”
“ค่ะมันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” หญิงสาวแค่นยิ้มหยัน หัวใจเธอร้าวรานแทบไม่เหลือพื้นให้คนพาลย่ำเหยียบ วูบหนึ่งอยากรู้เหมือนกันตัวเองทำผิดอะไรนักหนา นี่เมียนะไม่ใช่ทาสถึงไม่รักแต่ใช่ว่าจะพูดกันดีๆ ไม่ได้
“คุณปุนใจเย็นๆ สิคะ คุณหญ้าตกใจหมดแล้ว” พีรดารีบห้ามทัพแต่จริงๆ สะใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นเด็กกอหญ้าน้ำตาตกในครูคนสวยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่
คนเขารู้กันทั้งจังหวัดญดารินเป็นเมียที่ปุรินไม่ต้องการระหว่างทั้งคู่ไม่เคยมีความรัก และหญิงสาวก็เลือกเป็นหนูตกถังข้าวสารเอง ญดารินอยากยกระดับฐานะจนตัวสั่น ไม่เช่นนั้นเธอจะตอบรับสถานะคู่หมั้นที่คุณหญิงพรรณนารายเสนอให้ทำไม
“กอหญ้าต้องทำตามหน้าที่ผมพูดถูกแล้ว”
“คุณปุนดุเมียแบบนี้ ระวังคุณหญ้าจะงอนนะคะ”
“หึ… คุณรดาคิดงั้นเหรอครับ”
“ค่ะยินดีกับทั้งสองคนด้วยนะคะ รดาเห็นภาพงานเมื่อคืนยิ่งใหญ่มากจริงๆ”
เมื่อทนความเสแสร้งไม่ไหวญดารินจึงวางกระเช้าบนโต๊ะ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหญ้าขอตัวนะคะ” ใบหน้าเรียบเฉยสวนทางกับความรู้สึกข้างใน
“ไม่อยู่คุยกันก่อนเหรอคะ” พีรดาเข้ามาดึงข้อศอกพลางบิดเสียงกระเซ้าว่า
“รดาดีใจด้วยนะคะ คุณหญ้าโชคดีมาก”
“ขอบคุณนะคะ ทีนี้คุณปุนอนุญาตหญ้าได้หรือยังคะ”
“เรื่องของเธอ” ปุรินพูดจบก็เบือนหน้าหนี เสียงนุ่มชวนพีรดาคุยเรื่องภูหมอกต่ออย่างออกรสออกชาติ ชั่วขณะก่อนหันหลังญดารินชำเลืองมองครูสาวพบว่าหล่อนยิ้มเยาะ ความเฉยชาที่แสดงออกโจ่งแจ้งคงเป็นภาพที่หล่อนเห็นแล้วประทับใจและคิดว่าตนมีโอกาสแทรกกลางสถานะสามีภรรยา
คนตัวเล็กจ้ำอ้าวออกมาเมื่อไม่มีธุระต่อ เธอไม่อยากรับรู้บทสนทนาที่กรีดเฉือนหัวใจตนเอง ญดารินนั่งซึมอยู่ข้างสนามเด็กเล่นเกือบสิบนาที เสียงเจื้อยแจ้วของใครบางคนก็โพล่งเข้าหู
“พี่คนสวย” ภูหมอกจ้องคนสวยตาแป๋ว มือเล็กล้วงบางอย่างในกระเป๋ากางเกงจากนั้นก็ยื่นให้เธอ
“หมอกให้ยิ้มๆ พี่สาวจะได้ยิ้มเยอะๆ”เด็กน้อยใจดีผิดกับผู้เป็นพ่อลิบลับ ทันทีที่ลูกอมเม็ดเล็กวางบนมือญดารินคนให้ก็เอ่ยว่า
“พี่สาวยิ้มเยอะๆ นะครับ เศร้าตอนไหนก็บอกหมอกได้ ถ้าพ่อไม่น่ารักหมอกจัดการให้พี่สาวเอง คุณย่าบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว หมอกต้องดูแลพี่สาวหมอกต้องทำตัวน่ารักกับพี่สาวเยอะๆ เท่าจักรวาลเลยครับ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นมือบางจึงลูบกระหม่อมภูหมอก พรรณนารายไม่ต่างกับต้นไม้ใหญ่คอยเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน
“คุณย่าบอกหมอกแบบนั้นเหรอคะ”
“ใช่ครับย่าบอกว่าพี่สาวน่ารัก แต่พ่อไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่”ญดารินหลุดหัวเราะเสียงดัง เป็นอย่างที่ภูหมอกว่านั่นแหละปุรินไม่น่ารักกับเธอจริงๆ