“นี่ถ้าฉันจำไม่ได้นี่ฉันไม่มีสิทธิ์ถามเลยใช่มั้ย” น้ำมนต์บ่นพึมพำเพียงคนเดียว ในขณะที่สายตาก็มองตามชายหนุ่มไปด้วยอาการกระเง้ากระงอด
หลังจากที่พีรวัชร์ออกไปทำงาน น้ำมนต์ก็เดินสำรวจบ้านของเขา น่าแปลกที่เศรษฐีอย่างเขากลับเลือกพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังขนาดกลางที่ไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่มันดูอบอุ่น ถ้าให้เธอทำงานบ้าน แค่ครึ่งวันเช้าก็คงจะเสร็จแล้ว แบบนี้เธอคงต้องหางานอดิเรกทำ ว่าไปแล้วการอยู่แบบนี้ก็เป็นโชคดีสำหรับลูกหนี้แบบเธอ ถ้าไม่ติดว่าต้องมาเป็นผู้หญิงของเขา เธอก็คงจะดีใจได้เต็มที่กว่านี้
หลังจากสำรวจทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว น้ำมนต์ก็เริ่มจากการจัดของที่ห้องตนเองให้เรียบร้อยก่อน ก่อนที่เธอจะเดินมาสำรวจที่ห้องครัว เธอพบว่าของสดมีอยู่แทบทุกอย่าง เธอจึงเลือกของพวกนั้นออกมา ก่อนที่จะคิดหาเมนูสำหรับนายหัวหนุ่ม เมื่อคิดได้เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงเริ่มจัดการทำทุกอย่างให้เสร็จภายในหกโมงเย็น เพราะเธอไม่รู้ว่านายหัวหนุ่มจะกลับมาเมื่อใด
เมื่อทำอาหารเสร็จแล้ว น้ำมนต์ก็ไปจัดการอาบน้ำแต่งตัว และเมื่อเธอออกมาจากห้องของตนเอง เธอก็พบว่าพีรวัชร์กลับมาถึงที่บ้านแล้ว
“ทานข้าวเลยมั้ยคะนายหัว” น้ำมนต์เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เขายังนั่งมองที่หน้าจอมือของตนเองอยู่
“อืม...จัดโต๊ะได้เลย” พีรวัชร์เอ่ยก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่น้ำมนต์ก็รีบเดินไปที่โต๊ะ ก่อนที่เธอจะตักข้าวให้เขา
“แล้วจานเธอล่ะ” พีรวัชร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะสำรับนี้มีเพียงจานของเขาจานเดียว
“เดี๋ยวฉันทานทีหลังค่ะ” น้ำมนต์เอ่ยอย่างเกรงใจ เธอไม่กล้าตีตัวเสมอชายหนุ่ม
“ไม่ต้อง มาทานด้วยกันแหล่ะ ทีหลังก็จัดจานของเธอด้วยแล้วกัน ไม่ต้องมาเกรงใจ” พีรวัชร์เอ่ยอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก
“มันจะดูไม่ดีนะคะ” น้ำมนต์ยังทำท่าทางบ่ายเบี่ยง ด้วยเพราะความเกร็งผสมกับความเกรงใจ
“หรือว่าเธอวางยาพิษในอาหาร เธอต้องการปลดหนี้ทางลัดใช่มั้ย เธอถึงไม่ยอมทานข้าวพร้อมฉัน” พีรวัชร์พอจะมองออก เขาต้องพูดแบบนี้ รับรองหญิงสาวต้องรีบนั่งลงรับประทานอาหารพร้อมเขาอย่างแน่นอน และเขาก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ เขาเชื่อว่าตนเองมองคนไม่ผิด
“นี่นายหัวอย่ามาใส่ร้ายกันแบบนี้นะคะ ฉันไม่ได้อยากปลดหนี้ทางลัดหรอก กินก็กินสิ ถ้ากินแล้วไม่ตายจะลดเวลาที่ฉันต้องอยู่ที่นี่กับนายหัวลงมั้ย” น้ำมนต์ฉุนกับคำพูดของเขาเป็นอย่างมาก มีอย่างที่ไหนมาดูถูกเธอแบบนี้ เธอไม่เคยอยากปลดหนี้ด้วยวิธีสกปรกแบบนี้ หญิงสาวถึงกับหน้ามุ่ยรีบคว้าจานข้าวมาตักข้าวใส่จาน ในขณะที่นายหัวหนุ่มได้แต่ลอบยิ้มด้วยความพอใจที่สามารถยั่วยุอารมณ์ของหญิงสาวได้
“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ฉันไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอของเธอมาก่อน อย่าลืมนะเราเพิ่งมาอยู่ด้วยกันวันนี้เป็นวันแรก เธอจะไม่ให้ฉันระวังตัวไว้ก่อนเหรอ” พีรวัชร์รีบหาข้ออ้างมาตอบกลับหญิงสาว
“ค่ะ พอดีฉันลืมไปว่าฉันกำลังอาศัยอยู่ที่บ้านนักธุรกิจพันล้าน” น้ำมนต์เอ่ยเชิงประชด
“รู้ตัวก็ดีแล้ว ว่าแต่จะทานได้รึเปล่าเถอะ อาหารฝีมือเธอ” พีรวัชร์สบปรมาท ก่อนที่จะตักแกงมัสมั่นขึ้นมาทาน และเขาก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่มันอร่อยจนแทบไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวเป็นคนทำ
“ไงคะ อร่อยล่ะสิ” เมื่อเห็นท่าทางของพีรวัชร์ หญิงสาวก็รู้ว่าแกงมันมั่นของตนเองนั้นอร่อยอย่างแน่นอน
“ก็งั้นๆ แหล่ะ” นายหัวหนุ่มตอบอย่างไว้เชิง ก่อนที่จะรับประทานต่อไปด้วยความเอร็ดอร่อย ในขณะที่น้ำมนต์ก็แอบมอบชายหนุ่มด้วยความขบขัน นับว่าเป็นการเริ่มต้นวันแรกที่ดี อย่างน้อยเธอก็เริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ที่นี่ มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ตอนนี้น้ำมนต์เหลือปัญหาเดียวที่เธอยังต้องกังวล นั่นก็คือเรื่องบนเตียง...