“ถ้าเธอจะมาคุยเรื่องที่ดิน ฉันว่าฉันใจดีและให้โอกาสมามากพอแล้ว ถ้าไม่มีเงินสามแสนมากองให้ฉันตรงหน้าก็กลับไปเถอะ” พีรวัชร์เข้าใจจุดประสงค์ของผู้หญิงคนนี้ทันที เธอคงไม่มีอะไรมาก นอกจากมาเจรจาผลัดผ่อน ซึ่งเขาคงให้ไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นลูกหนี้คนอื่นๆ ก็คงจะทำเหมือนกันอย่างแน่นอน
“นายหัวคะ ได้โปรดให้โอกาสฉันด้วยนะคะ ถ้าฉันหางานทำได้ฉันจะรีบเอาเงินมาผ่อนใช้หนี้ให้นายหัวค่ะ อย่ายึดบ้านเราเลยนะคะ” น้ำมนต์รีบขอร้องพีรวัชร์
“อะไรนะ งานก็ยังไม่มีทำ นี่เธอยังกล้ามาต่อรองกับฉันอีกเหรอ” พีรวัชร์เอ่ยด้วยความขบขัน อะไรกันเด็กคนนี้รู้สึกจะเก่งเกินตัวแล้วนะ มองเผินๆ เขาว่าเธอน่าจะไม่เกินยี่สิบ แต่กล้ามาเจรจากับเขาทั้งที่ยังไม่มีงานทำนี่มันน่าทึ่งกว่าอีก
“ฉันเพิ่งเรียนจบค่ะกำลังหางานทำอยู่ นายหัวได้โปรดเมตตาครอบครัวเราด้วยนะคะ” มาถึงขั้นนี้แล้วน้ำมนต์ไม่ยอมล่าถอยไปง่ายๆ แน่นอน
“เธอไปขายฝันที่อื่นเถอะ ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอหรอก แล้วก็เตรียมตัวย้ายออกจากที่ดินผืนนั้นตามกำหนดเดิมด้วยล่ะ” พีรวัชร์รู้สึกว่าการสนทนากับแม่สาวน้อยคนนี้กำลังทำเขาเสียเวลา
“ไม่ค่ะ ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่กลับถ้านายหัวไม่ตกลง” น้ำมนต์เอ่ยอย่างดื้อรั้น ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความกล้านี้มาจากไหน แต่เธอหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอทำมันทำให้คู่สนทนาของเธอประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ได้พบหน้ากันวันนี้ เธอก็ทำให้เขาคาดไม่ถึงในหลายๆ เรื่อง
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉันให้ตกลง ออกไปซะในตอนที่ฉันยังพูดดีๆ ถ้ายังดื้อดึงอยู่ ฉันจะเรียกรปภ. มาลากตัวเธอออกไป” พีรวัชร์กล่าวจริงจัง แต่แทนที่หญิงสาวจะถอย สมองของเธอก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ มันเป็นสิ่งที่น่าอายมาก แต่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่คำว่ายางอาย
“งั้นฟังข้อเสนอนี้ก่อนได้มั้ยคะ” ลูกตื้อของน้ำมนต์ไม่มีใครแพ้อยู่แล้ว เธอถือว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
“ฉันจะฟัง ถ้าเธอสัญญาว่า ถ้าฉันไม่สนใจเงื่อนไขของเธอ เธอจะไปจากที่นี่โดยไม่ต่อรองอะไรอีก” พีรวัชร์รำคาญ แต่เขาก็ยังให้โอกาสหญิงสาว เขาอยากจะรู้ว่าสมองของเธอมันคิดเงื่อนไขอะไรได้อีก
“ตัวฉันพอจะมีราคากี่บาทคะ” น้ำมนต์เอ่ยถามเสียงสั่น
“เธอจะบ้าเหรอ อยู่ๆ จะให้ฉันมาตีราคาตัวเธอเอง ฉันไม่เอาด้วยหรอก” เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวบอก นายหัวหนุ่มถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจในความคิดของหญิงสาว
“ไม่บ้าค่ะ ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ นายหัวจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ฉันยอมแลกทุกอย่างเพื่อโฉนดผืนนั้น แต่ฉันต้องรู้ก่อนว่าตัวฉันมีราคาแค่ไหน” สิ่งที่น้ำมนต์คิดแม้มันจะสุดโต่งไปมาก แต่เธอยอมได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ
“กลับไปเถอะฉันไม่ตีราคาบ้าบออะไรทั้งนั้น” นี่เป็นการไล่ที่จริงจังที่สุดเท่าที่พีรวัชร์เคยทำมา เขาไม่อยากฉวยโอกาสกับหญิงสาว เขาไม่เข้าใจเธอคิดเงื่อนไขแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง
“งั้นนายหัวอย่าเพิ่งขายที่ดินที่บ้านฉันนะคะ ในเมื่อนายหัวไม่เอาฉันก็จะไปหาคนอื่น” เมื่อเห็นชัดว่าพีรวัชร์ไม่ยอมรับเงื่อนไขของเธอ สิ่งที่เธอต้องทำต่อไปก็คือไปหาเป้าหมายใหม่ ซึ่งเป้าหมายใหม่ที่จะมีเงินมากพอขนาดนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของนายหัวพีรวัชร์นั่นเอง
“เธอจะไปเสนอให้ใคร” พีรวัชร์กล่าวเสียงหยัน
“ก็นายหัวบดินทร์ไง ฉันมั่นใจว่านายหัวบดินทร์ต้องรับข้อเสนอแน่นอน” น้ำมนต์กล่าวด้วยความมั่นใจ เพราะนายหัวบดินทร์มีชื่อเสียงเรื่องการซื้อประเวณี จนคนทั่วบริเวณนี้รู้กันหมด
“ไม่ต้องไปหาไอ้บดินทร์แล้ว ฉันตกลงรับเงื่อนไขของเธอ” พีรวัชร์เอ่ยออกมาทันที คนอย่างเขาไม่มีทางยกที่ดินสวยๆ แบบนั้นให้บดินทร์เอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
“เงื่อนไขไหนคะ” น้ำมนต์ถามด้วยความไม่รู้แต่สำหรับพัรวัชร์มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าเธอกำลังยียวนเขาอยู่
“ก็เงื่อนไขที่ต้องใช้ตัวเธอเข้าแลกไง ฉันประเมินให้เธอเต็มที่สามแสนตามราคาหนี้ของพ่อเธอ แต่ต่อจากนี้ไป ชีวิตของเธอเป็นของฉัน” พีรวัชร์กล่าวอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“ตกลงค่ะ” น้ำมนต์ยอมตกลงทันที และไม่ได้สนใจว่าต่อจากนี้ชีวิตของเธอต้องเจออะไร