พอออกมาได้สักพักโจก็เจอความผิดปกติ
บางอย่าง
เขากดโทรศัพท์หาภาคินทันที
[นายครับมีรถตามเรามาครับ มอเตอร์ไซค์สอง รถยนต์หนึ่งครับ]
[แน่ใจนะ]
[แน่ใจครับและน่าจะหวังผล]
[ตอนนี้ถึงไหนแล้ว]
[อีกยี่สิบห้ากิโลถึงบ้านครับ]
[ขับวนอยู่ในเมืองก่อน อย่าพึ่งเข้าบ้านมันน่าจะดักรออยู่แน่เดียวฉันจะรีบตามไป]
[ครับนาย]
"เกิดอะไรขึ้นหรอคะพี่โจ"
พิมรดาได้ยินเขาโทรคุยกับภาคิน
"มีรถตามเรามาครับ"
"แล้วเราจะทำไงดีคะ"
"นายกำลังมาคับ และอีกอย่างรถคันนี้กันกระสุนคุณพรีมไม่ต้องห่วงนะครับ"
โจกดโทรศัพท์หารถที่นำอยู่ข้างหน้าให้ ชะลอและประกบหลังแทน
โจยกปืนขึ้นมาเช็กกระสุน
"ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นคุณพรีมห้ามลงจากรถเด็ดขาดนะครับ"
โจสั่งแต่สายตาเขามองออกไปด้านนอกรถอย่างระแวดระวัง
[ปั๊งงๆๆๆ]
"กรี๊ดดด.."
เสียงปืนดังขึ้นข้างพิมรดา เธอกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับเอามือขึ้นอุดหูไว้
"เอาไงดีพี่โจ"
คนขับหันมาถามลูกพี่
"แกตั้งใจขับไป ที่เหลือฉันจัดการเอง"
[บู๊นนน..เอี๊ยดด]
เสียงรถคุ้มกันข้างหลังเร่งเครื่องไล่บี้ประกบข้างขึ้นมา
โจกดโทรศัพท์หาภาคินอีกรอบ
"นายครับมันลงมือแล้ว....[ปั๊งๆ...กรี๊ดด.]"
เสียงปืนกับเสียงกรี๊ดอย่างเสียขวัญของพิมรดามันช่างบีบหัวใจเขาหรือเกิน
"โธ่..โว้ย เร็วกว่านี้ได้ไหมว่ะไอ้ชัย"
ภาคินตะโกนบอกชัยที่เป็นคนขับรถ
"ครับนาย"
"ไอ้โจขับต่อไปอย่าหยุด"
เขาสั้งลูกน้องผ่านโทรศัพท์
"คับนายตอนนี้มันตอนเราออกมานอกเมืองแล้วครับ"
"ฉันอยู่ใกล้ๆแล้ว ถ่วงเวลาไว้ก่อน"
"ครับนาย"
[ปั๊งงงๆๆๆ]
"ว๊ายยยๆๆ..ฮื้อๆๆ"
สิ้นเสียงปืนรถก็ส่ายไปมา
"มันยิงยางเราแล้ว"
ลูกน้องคนขับบอกลูกพี่
"ไม่เปนไรหาที่จอดเหมาะๆ ล็อกรถไว้คุ้มกันคุณพรีมให้ปลอดภัย"
"ครับพี่"
พิมรดานั้งกอดเข่าอยู่บนเบาะเธอไม่เคยกลัวแบบนี้มาก่อนในชีวิต เธอใช้มือปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้มีเสียงร้องออกมาเธอไม่อย่ากให้พวกเขาเสียสมาธิ
[ก๊อกๆ]
เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นข้างที่โจนั้ง
"พี่โจ เอาไงดีครับพี่"
ลูกน้องจากรถอีกคันวิ่งมาหาเขา
"แกขึ้นมาอยู่กับคุณพรีม ฉันจะลงไปดักพวกมันเอง"
"ครับพี่"
โจกระโดดลงรถไป พร้อมกับเสียง มอเตอร์ไซค์ดังมาแต่ไกล
"ไปหาที่หลบ"
โจบอก พร้อมกับวิ้งเข้าป่าข้างทาง
[ปั๊งๆๆ]
เสียงปืนดังขึ้นติดกัน มันพยายามยิงเข้าไปในรถที่พิมรดานั้งอยู่
[บู๊ดดด...เอี๊ยดด]
ภาคินกระโดดลงรถทันทีในมือถือปืนคู่กาย พอดีกับเสียงมอเตอร์ไซค์ดังเข้ามาเลื่อยๆ
"นายระวัง"
โจตะโกนพร้อมกับวิ่งออกมาหาภาคิน ภาคินวิ่งไปหลบหน้ารถ ยกปืนเล็งไว้รอ
[ปั๊งๆๆ]
"โอ้ยย..."
[โครมมม..]
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ตามมาด้วยเสียงมอเตอร์ไซค์ล้มลงกลางถนน
ลูกน้องภาคินวิ่งกรูกันเข้าไป ล็อคตัวไว้ได้สองคน
ส่วนภาคินรีบเปิดประตูรถที่พิมรดานั้งอยู่ออก เธอนั้งกอดเข่าก้มหน้าเอามือปิดหูไว้
"พรีม"
ดังเสียงสวรรค์ดังขึ้น เสียงนี้เธอจำได้
พิมรดาหันไปมอง
"คุณภาคิน"
พิมรดารีบโดดไปกอดเขาไว้แน่นตัวเธอสั่นไปทั้งตัว
ภาคินอ้าแขนรอรับคนตัวเล็กที่กำลังขวัญเสีย
ทันไดนั้นมีเสียงมอเตอร์ไซค์กำลังวิ่งมาอีกคัน
"นายครับระวัง"
โจรีบตะโกนบอกส่วนพวกที่เหลือหาที่หลบกระสุนกันพัลวัน
ภาคินกอดพิมรดาไว้เขาดึงเธอมายืนพิงข้างรถที่อยู่ช่วงท้าย แขนหนึ่งเขากอดเธอไว้ อีกแขนเขายกปืน เล็งไปที่มอเตอร์ไซค์ที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว
[ปั๊งๆๆ]
เขาลั่นไกออกไปสามนัด
[โครมมม]
มอเตอร์ไซร์เสียหลักล้มลงอีกคัน
พิมรดายืนกอดเขาไว้ตัวสั่นเป็นลูกนก
"โจโทรแจ้งตำรวจ"
"ครับนาย"
ภาคินพาพิมรดาไปนั้งอยู่รถอีกคัน เพราะคันที่เธอนั้งมาถึงจะเป็นรถกันกระสุนแต่ก็มีรอยกระสุนเต็มไปหมด
"พรีมนั้งรออยู่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมมา"
พิมรดาดึงแขนเขมไว้
"รีบมานะคะ"
"ครับผมจะรีบมา ชัยเฝ้าคุณพรีมไว้"
ท้ายประโยคเยาหันไปสั่งลูกน้อง
"ครับนาย"
ภาคินรีบวิ่งไปดูคนร้ายที่ลูกน้อง
รากมากองอยู่ริมถนน
"เป็นไง"
ภาคินถาม
"เเค่บาดเจ็บไม่ถึงกับตายครับนาย"
"ดี..พวกมึงเล่นผิดคนแล้ว"
ก่อนที่เขาจะเดินไปหาพิมรดา
"เป็นไงบ้างค่ะ มีใครได้รับ บาดเจ็บหรือเปล่า"
พิมรดาถามหลังจากที่ภาคินขึ้นมานั้ง
บนรถแล้ว
"พวกเราไม่มีใครเป็นอะไรครับ ตอนนี้ตำรวจกำลังมา"
พิมรดาพยักหน้า เธอนั้งบีบมือตัวเองไว้
แน่นเพื่อข่มความกลัวของตัวเอง
ภาคินเห็นแบบนั้นเขาลุกจากเบาะหนึ่งไปนั้งกับเธออีกเบาะหนึ่งที่มีความกว้างสำหรับนั้งสองคนได้ เขานั้งลงข้างๆเธอใช้มือโอบไหล่บางแล้วดึงเธอให้เข้ามาซบอกเขาไว้ พิมรดาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอรู้สึกดีและรู้สึกปลอดภัยที่สุดที่ได้อยู่ใกล้เขา
"ขอบคุณนะคะที่มาช่วยพรีม"
"เป็นเพราะผม ประเมินพวกมันต่ำไปหน่อยแต่ต่อไปนี้ผมจะล่าพวกมันเอง"
ภาคินพูดด้วยแววตาโกรธแค้น เพราะครั้งนี้พวกมันหวังจะเก็บพิมรดาให้ได้ โชคดีที่เขาให้เธอนั้งรถกันกระสุนออกมา
และดูจากมือปืนที่มันจ้างมาระดับมืออาชีพไม่เหมือนทุกครั้งที่ใช้แต่ นักเลงกระจอก
ไม่นานตำรวจก็มาถึง กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็มืดพอดี
"คุณพ่อคุณแม่ครับผมต้องพาพิมรดาไปอยุ่กับผมก่อน จนกว่าเรื่องนี้จะคลี่คลาย"
ภาคินกล่าวกับคุณเทวัญและคุณภาวิณี เขาจำเป็นต้องพาพิมรดาไปอยู่กับเขา
ก่อนเพราะงานนี้ พลาดไม่ได้ถ้าพลาดนั้นหมายถึงชีวิตของพิมรดา
"ลูกว่ายังไงก็เอาแบบนั้นแหละพ่อกับแม่ก็เป็นห่วงหนูพรีมเหมือนกัน"
"แล้วจะไปกันตอนไหนละ"
คุณภาวิณีถามลูกชายเพราะตอนนี้มันก็มืดแล้ว
"ตอนนี้เลยครับ"
"ตอนนี้เลยหรอลูก งั้นหนูพรีมไปเก็บของเถอะจ้ะเดี๋ยวป้าให้คนขึ้นไปช่วย"
"ค่ะ คุณป้า"
ส่วนภาคินกับเทวัญก็นั้งปรึกษากันระหว่างรอ
"พรีมขอบคุณคุษลุงคุณป้ามากนะคะ"
พิมรดายกมือไหว้ลา ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน
"ไม่เป็นไรจ้ะลูก หนูไปอยู่กับพี่เขาก่อนนะเพื่อความปลอดภัยของหนู"
"ค่ะคุณป้า"
"ไปกันเถอะลูกเดี๋ยวจะดึก พ่อฝากน้องด้วยนะภาคิน"
"ครับคุณพ่อ"
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงอาณาจักรของ
ภาคิน ขับรถมาถึงจะเจอ รั้วที่เป็นกำแพงสูงท่วมหัว ยาวไปจนถึงทางเข้า ที่มีรปภยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า ทำหน้าที่เปิดปิด เช็คคนเข้าออก ตลอด24 ชั่วโมง พอรถเลี้ยวเข้ามาด้านในจะพบเป็น ลักษณะบ้านพัก แบบเป็นหลังและเป็นห้องติดกัน หลายห้อง มีสำนักงานขนาดสองชั้น เลยเข้าไปด้านในก็จะพบกับบ้านชั้นเดียวขนาดใหญ่ สไตล์โมเดิร์นที่เปิดไฟไว้ให้เห็นถึงความสวยที่ออกแบบได้อย่างทันสมัย
"สวยจังเลยค่ะ"
พิมรดาพูดขึ้นในขณะที่รถ เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้าน
"นายออกแบบเองเลยนะครับคุณพรีม"
โจพูดขึ้นอย่างภูมิใจในตัวเจ้านาย
"จริงหรอค่ะ"
พิมรดาหันมาหาภาคินด้วยตาเป็นประกาย นี้มันบ้านในฝันชัดๆ
"ไปเถอะจะได้พักผ่อนนี้ก็ดึกมากแล้ว"
ภาคินก็รู้สึกเขินๆกับท่าทีของเธอเหมือนกัน ปกติคนชมเขาก็เยอะ แต่ไม่เคยเสียอาการแบบนี้เลย
"เดี๋ยวเอาของคุณพรีมไปไว้ในห้อง"
"ครับนาย"
โจและลูกน้องช่วยกันขนของเข้าไปในห้องที่เขาสั่งให้แม่บ้านมาจัดการทำความสะอาดไว้