“ใช่ ฉันคงจะรู้สึกสะใจกว่านี้”
สีหราชพูดตามที่คิด ร่างกายกำยำด้านบนเปลือยเปล่าประจักษ์แก่สายตา สีหราชเดินไปประชิดโซฟาที่ลูกแก้วนั่งอยู่ เขาผลักเธอให้นอนราบก่อนคร่อมร่างเล็กไว้ใต้อาณัติตัวเอง นัยน์ตาดุดันกวาดมองใบหน้าหวานชัด ๆ และตกอยู่ในภวังค์
แม้ว่าจะเห็นน้ำตาเม็ดใสไหลออกมาจากหางตาของลูกแก้ว แต่สีหราชก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น
เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้กับใบหน้าเธอ แต่สีหราชเลือกที่จะไม่ประกบจูบริมฝีปาก แต่เปลี่ยนเป็นซุกใบหน้าไปที่ลำคอระหงแทน ความรู้สึกของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนไป อารมณ์ที่พุ่งทะยานเมื่อครู่หายไปเป็นปริดทิ้งเมื่อได้สูดดมความหอมของกายหญิง ลูกแก้วพยายามหันหน้าหนี แต่เขาก็ไล่ต้อนซุกซอกคอของเธออยู่แบบนั้น
จนกระทั่งแรงขบกัดที่ลำคอทำให้เธอสะดุ้งและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เช่นเดียวกับมือหนาทั้งสองของของเขาที่บีบเค้นไปเรื่อย ๆ จากสะโพกไปถึงบั้นเอว และเริ่มจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อของคนใต้ร่าง
ทว่าประโยคที่สีหราชได้ยินทำให้มือทั้งสองข้างและใบหน้าของเขาหยุดชะงัก
“ถ้ามันทำให้คุณสะใจและรู้สึกดีที่ได้ทำ แก้วยอมก็ได้ค่ะ”
“...”
“แต่จำเอาไว้ว่าชาตินี้ทั้งชาติ แก้วจะไม่มีวันให้อภัยคุณ และไม่ว่าชาติไหนก็อย่ามาเจอกันอีก”
ลำคอของชายหนุ่มแห้งผากเมื่อได้ยิน สีหราชผละใบหน้าออกมาและจ้องตากับลูกแก้วที่ร้องไห้จนน้ำตาอาบใบหน้าทว่าไร้เสียงสะอื้น เขาสบตากับเธอที่ฉายความหนักแน่นในคำพูดตัวเอง สีหราชบดกรามแน่น เขาหันใบหน้าหนีก่อนจะผละขึ้นมายืนเต็มความสูง หน้าอกหนากระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของตัวเอง ก่อนเขาจะกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะหน้าโซฟาจนมันหล่นพื้น หนึ่งในนั้นคือแจกันดอกไม้ที่แตกละเอียด
เพล้ง!!
ลูกแก้วหลับตาแน่นในขณะที่ร่างสูงได้เดินออกไปจากตรงนี้แล้ว สีหราชเข้าห้องนอนของตัวเอง ทำให้ลูกแก้วลุกขึ้นนั่งบนโซฟาและปาดน้ำตาบนใบหน้าของออกพลางก้มมองของที่กระจัดกระจายบนพื้น
เธอถอนหายใจออกมา และยกมือทั้งสองข้างกุมใบหน้าของตัวเอง ในอกเต็มไปด้วยความอึดอัดและวิตก เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะรอดไปได้อีกนานแค่ไหน ลูกแก้วอยากออกไปจากวังวนนี้เต็มที เธอลูบใบหน้าของตัวเองด้วยความเครียด ก่อนความคิดบางอย่างจะปรากฏขึ้น
เมื่อกี้เธอพูดออกไปตามที่ตัวเองคิด บอกเขาว่าหากอีกฝ่ายทำแบบนั้นกับเธอ ลูกแก้วจะไม่ให้อภัยเขาตลอดชีวิตนี้ และหลังจากนั้นสีหราชก็หยุดทุกการกระทำที่เขาเองก็สามารถทำได้ตั้งนานแล้ว
ทว่าอีกฝ่ายเลือกที่จะไม่ทำ ลูกแก้วไม่รู้ว่าเขาหยุดเพราะที่เธอพูด หรือหยุดเพราะอะไรกันแน่ แต่ไม่ว่าเพราะอะไรลูกแก้วก็ไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว หญิงสาวมองไปยังเศษแจกันที่แตกละเอียดอย่างเหม่อลอย...
20.00 น.
หลังจากที่ลูกแก้วเก็บกวาดบ้านและทำอาหารมื้อเย็นตั้งไว้บนโต๊ะอาหารให้สีหราช เธอก็เข้ามาเก็บตัวอยู่ในห้องของตัวเองตั้งแต่หัวค่ำ และหลังจากตอนนั้นเธอก็ไม่เจอหน้าเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะออกมากินมื้อค่ำที่เธอทำเอาไว้ให้หรือเปล่า แต่ลูกแก้วก็ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ทุก ๆ วันเธอก็ต้องทำอาหารให้อีกฝ่ายทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็น ถ้าหากวันไหนเขาออกไปทานกับลูกค้าหรือทานมาจากข้างนอก เขาจะส่งข้อความมาบอกเธอ ทว่าวันนี้เขาอยู่บ้าน ลูกแก้วก็จะต้องทำเตรียมเอาไว้เป็นเรื่องปกติ
ร่างบางนั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง ใบหน้าฉายความกังวลอย่างชัดเจน ในมือของเธอถือโทรศัพท์มือถือ ลูกแก้วลังเลที่จะโทรออกหาใครบางคน
แต่ความอัดอั้นในอก ทำให้เธอกดโทรออกในที่สุด
(ฮัลโหล)
น้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเมื่อเธอเป็นคนโทรเข้าไป ลูกแก้วรู้ดี
“คุณแม่...ได้คุยเรื่องที่ดินกับคุณตาหรือยังคะ”
ถึงแม้ว่าคุณตาที่เธอพูดถึงจะไม่ใช่ตาแท้ ๆ แต่ลูกแก้วก็เรียกอีกฝ่ายแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก บิดาของนฤดีก็มีศักดิ์เป็นตาของเธอ แม้ว่านฤดีจะเป็นเพียงแม่เลี้ยงก็ตาม
(คุยแล้ว แต่ตาแกยังไม่ยอมโอนที่ให้ฉัน)
“ทำไมละคะ”
ลูกแก้วไม่เข้าใจเลย การที่ยืดทุกอย่างเอาไว้แบบนี้ไม่มีอะไรดี เพราะสุดท้ายสีหราชก็ต้องการเงินของตัวเองคืน ยังไงเราก็ต้องหาเงินไปคืนเขาให้ได้สักวัน
(ฉันก็ไม่รู้ ฉันพยายามอยู่)
“...”
(อดทนไปก่อนลูกแก้ว คิดซะว่าเพื่อน้องสาวแกก็แล้วกัน)
“...”
(ถ้าแกไม่แต่ง ลูกหว้าก็ต้องทำแทน แกยอมเหรอ)
“...”
ลูกแก้วไม่ยอมหรอก เธออดทนมาหนึ่งปี ที่อดทนมานานขนาดนี้ก็เพื่อปกป้องน้องสาวของตัวเอง แต่หนึ่งปีที่ผ่านมามันมากเกินไปแล้ว ลูกแก้วคิดว่าตัวเองควรได้อิสระคืนได้แล้ว
เธอก็มีความฝันเหมือนกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน
“แล้วถ้าคุณตาไม่โอนที่ดินให้คุณแม่ละคะ เราจะทำยังไง จะหาเงินจากที่ไหนมาคืนคุณสิงห์”
(ยังไงก็ต้องยกให้ ฉันจะลองคุยเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหรอกนะ)
น้ำเสียงของปลายสายห่างเหินจนลูกแก้วไม่แน่ใจว่าคนที่เธอเรียกว่าแม่จะทำแบบที่พูดจริง ๆ หรือเปล่า แต่ตอนนี้เธอก็ทำได้เพียงยอมรับและวางสาย ก่อนจะถอนหายใจออกมา
สีหราชจับตามองเธอเป็นพิเศษ เขามีแอปพลิเคชันติดตามโทรศัพท์ของเธอตั้งแต่วันแรกที่เราแต่งงานกัน เหตุผลของเขาคือควรติดตั้งเอาไว้เพราะกันเธอหนี ลูกแก้วต่อต้านอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่เขาสั่ง และตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา สีหราชไม่เคยตามเธอไปอาละวาดเหมือนวันนี้ หรือด้วยเพราะที่ผ่านมาลูกแก้วไม่ค่อยออกไปไหนนอกจากซุปเปอร์มาเก็ตกับบ้านของตัวเอง วันนี้เธอไปอยู่ที่ร้านอาหารกับแผ่นดิน ราวกับสีหราชจงใจตามไปดูว่าเธออยู่กับใคร
และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะคอยหาเรื่องแกล้งเธอมากขึ้น ลูกแก้วไม่รู้ว่าต่อไปนี้ตัวเองจะต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง
นฤดีกดวางสายจากลูกสาวคนโต ทว่าลูกแก้วไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเธอ อีกฝ่ายเป็นลูกติดมากับสามี ที่ผ่านมานฤดีแสดงความรักและเลี้ยงดูลูกแก้วอย่างดีมาตลอด แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป สามีของเธอเสียชีวิตไปแล้วโดยทิ้งหนี้ก้อนใหญ่เอาไว้ให้ เธอจะทำอะไรได้นอกจากปกป้องลูกของตัวเอง และคนที่จะต้องปกป้องก่อนใครคือลูกหว้า ลูกสาวแท้ ๆ
หญิงวัยกลางคนถอนหายใจหลังจากวางสายจากลูกเลี้ยง ก่อนจะกดโทรออกหาเบอร์โทรของบิดาตัวเอง ไม่นานปลายสายก็กดรับ
“คุณพ่อ ดีมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ”
(เรื่องที่ดินอีกหรือไง)
“ดีจำเป็นต้องใช้เงินนะคะ ลูกแก้วเป็นตัวประกันอยู่ ถ้าคุณพ่อไม่โอนที่ให้ดี ดีก็จะขายไม่ได้”
(ฉันจะโอนให้ตอนไหนมันก็สิทธิ์ของฉัน นฤดี แกไม่ใช่ลูกคนเดียวของฉันนะ อย่ามาทวงเหมือนตัวเองควรจะได้ทุกอย่างของฉันจะได้ไหม!)
นิรุต ชายชรา บิดาของนฤดีตวาดอยู่ปลายสาย นฤดีกลุ้มใจเพราะบิดาตัวเองไม่ยอมโอนที่ดินมาให้สักที ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องนี้ บิดาของเธอแบ่งสัดส่วนที่ดินให้ลูกทุกคนตามเห็นชอบของตัวเอง และนฤดีก็เป็นลูกสาวคนโต บิดาสัญญาเอาไว้ว่าจะยกที่ให้จำนวนที่มีมูลค่ามากที่สุดให้ ผิดที่นฤดีเองที่ไม่ได้เร่งรัดให้อีกฝ่ายโอนมาเป็นชื่อตัวเองเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องบัดซบกับครอบครัวของเธอ
ตระกูลของนฤดีเป็นผู้ดีเก่า มีสมบัติมากมายเรียกได้ว่าร่ำรวย นฤดีตัดสินใจอยู่กินกับบิดาของลูกแก้วเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายก็มีกิจการที่มั่นคงและกำลังเติบโต ใครจะคิดว่าวันนี้จะเป็นแบบนี้
(ฉันเตือนแกแล้วว่าอย่าไปคบกับมัน เป็นยังไงล่ะ ผัวที่แกรักนักรักหนา สุดท้ายก็หนีตาย ทิ้งหนี้สินไว้ให้)
“...”
(ส่วนลูกแก้ว เด็กนั่นไม่ใช่ลูกของแก และก็ไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของฉัน ไม่จำเป็นต้องเอาเงินมากมายขนาดนี้ไปไถ่ตัวมัน)
“แต่ถ้าดีไม่หาเงินมาคืนได้ คุณสีหราชก็อาจจะมายุ่งกับลูกหว้า คุณพ่อไม่เป็นห่วงหลานเหรอคะ!”
(คุณสิงห์ไม่มีทางยุ่งกับลูกหว้าหรอก เชื่อฉันเถอะ)
“คุณพ่อรู้ได้ยังไง?”
(ฉันรู้ก็แล้วกัน แค่นี้นะ แล้วก็อย่าโทรมาพูดเรื่องนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดแกออกจากกองมรดกจริง ๆ นฤดี)
นิรุตกดวางสาย นฤดีถอนหายใจอย่างหนักและยกมือกุมหน้าผากตัวเองอย่างกลัดกลุ้ม
นอกจากที่ดินที่คิดว่าจะได้ แต่กลับไม่ได้มา นอกจากนั้นนฤดีก็ไม่มีปัญญาหาเงินยี่สิบล้านมาช่วยลูกแก้วได้อีกแล้ว
ฉันพลันสีหน้าของนฤดีก็ฉายความสงสัยเมื่อสังเกตได้ว่าเมื่อครู่บิดาของเธอเรียกสีหราชว่าคุณสิงห์
บิดาของเธอรู้จักอีกฝ่ายถึงขั้นเรียกชื่อเล่นเลยงั้นเหรอ?