กึก
เก้าอี้ที่ว่างข้าง ๆ ลูกแก้วถูกเลื่อนออกจากมือหนา สีหราชหย่อนร่างกายลงนั่งข้างเธอ และคนที่ตกใจมากที่สุดคือแผ่นดิน
เขามองคนตรงข้ามที่มานั่งอย่างถือวิสาสะก็หันมองลูกแก้วอย่างไม่เข้าใจ หญิงสาวเห็นแบบนั้นก็อยากจะทึ้งเส้นผมตัวเอง เธอหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อชายหนุ่มทั้งสองคนจ้องหน้ากัน
และนัยน์ตาของสีหราชก็เอาเรื่องพอตัว ลูกแก้วไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร
“น...นี่คุณสีหราช คุณสีหราช นี่แผ่นดิน เพื่อนสนิทแก้วค่ะ”
เธอพูดอึกอัก และแผ่นดินที่ได้ยินแบบนั้นก็คลายหัวคิ้วออก ที่ผ่านมาเขาได้ยินแต่ชื่อสีหราช แต่ไม่เคยเห็นหน้า นับว่านี่คือครั้งแรก
ซีอีโอบริษัทใหญ่นั่งพิงพนักเก้าอี้และไขว่ห้างอย่างวางท่า สีหราชจ้องหน้าคนตรงข้ามที่มองมาเช่นกัน แต่เป็นแผ่นดินที่เอ่ยขึ้นก่อน
“สวัสดีครับคุณสีหราช ผมแผ่นดิน เป็นเพื่อนสนิทของลูกแก้ว”
“เพื่อนสนิทเหรอ?”
น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยออกมา สีหราชหันมองหญิงสาวข้างกายเล็กน้อย ก่อนจะหันมองคนที่แนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนอีกครั้ง
“ผมสีหราช เป็นสามีลูกแก้ว”
“...”
“...!!”
สีหน้าของแผ่นดินเรียบนิ่ง ต่างจากลูกแก้วที่เบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดแบบนี้
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเปิดตัวเธอ และไม่เคยแสดงตัวตนให้ใครรู้ว่าเราเป็นสามีภรรยากัน ทว่าครั้งนี้อีกฝ่ายพูดออกมากับปากตัวเองว่าเป็นสามีของเธอ
ลูกแก้วหันมองใบหน้าด้านข้างของเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ผมทราบครับ ลูกแก้วเคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ”
“งั้นเหรอครับ”
ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงตรงกลางระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง แผ่นดินไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายแนะนำตัวว่าเป็นสามี ผิดคาดที่สีหราชคิดเอาไว้ เขาคิดว่าจะเห็นสีหน้าตกใจของอีกคนมากกว่านี้เสียอีก
แปลว่าแผ่นดินรู้อยู่แล้วว่าลูกแก้วแต่งงานมีสามี แต่ก็ยังมานัดเจอกันสองต่อสองลับหลังเขา ส่งผลให้มุมปากหยักกระตุกยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ฉับพลันสีหราชก็เอื้อมมือไปจับมือเล็กของคนข้างกาย ก่อนจะหันมองเธอ
“ฉันมารับเธอ”
“...”
“กินเสร็จแล้วใช่ไหม งั้นกลับกันเถอะ”
ลูกแก้วหลุบสายตามองมือหนาที่กุมมือของเธอเอาไว้ ลูกแก้วทำท่าจะอ้าปากปฏิเสธเพราะเธอสะดวกใจจะกลับเองมากกว่า แต่ก็ต้องนิ่วใบหน้าเมื่อเขาบีบมือของเธอแน่น
ราวกับบอกกลาย ๆ ว่าห้ามปฏิเสธ
“...”
ลูกแก้วทำได้เพียงเงียบลง และเงยหน้ามองแผ่นดิน
“เรากลับก่อนนะดิน”
“อืม ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะ”
แผ่นดินส่งยิ้มอบอุ่นให้เพื่อนตัวเอง ลูกแก้วพยักหน้าในจังหวะที่มือของเธอถูกบีบแรงขึ้นจนรู้สึกเจ็บ สีหราชและลูกแก้วลุกขึ้นจากเก้าอี้...
สายตาคู่คมของแผ่นดินมองตามแผ่นหลังบางของเธอที่เดินไกลออกไปเรื่อย ๆ
“แก้วเจ็บ!”
เมื่อมาถึงลานจอดรถ ลูกแก้วก็สะบัดมือใหญ่ออกไปก่อนจะยกข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่ามันแดงเถือก เธออยากจะสะบัดออกตั้งนานแล้วแต่ยังไว้หน้าเขา ไม่หักหน้าอีกฝ่ายต่อหน้าแผ่นดินก็บุญแค่ไหน สีหราชยอมปล่อยข้อมือของลูกแก้ว เขาตวัดสายตาดุดันจ้องมองเธอ ก่อนจะเปิดประตูรถยนต์และดันอีกฝ่ายให้เข้าไป
หญิงสาวยอมเข้าไปนั่งในรถคันหรูของเขา ใบหน้าของเธอบึ้งตึง ก่อนชายหนุ่มจะอ้อมไปนั่งที่ฝั่งคนขับ
ลูกแก้วหันมองออกไปด้านนอกกระจกตลอดเวลา รถยังไม่เคลื่อนตัวออกไป ทำให้เธอหันมองเขาอีกรอบ ก็พบกับนัยน์ตาแข็งกร้าวจ้องมองอยู่
“ทำไมคะ?”
เธอถามขึ้น มองขวางเขาอย่างหงุดหงิด
และยิ่งนึกถึงเรื่องที่เขาแกล้งเธอก่อนหน้านี้...ลูกแก้วก็ยิ่งเกลียดอีกฝ่าย
“ระริกระรี้มาอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองลับหลังฉัน คิดจะเล่นชู้หรือไงลูกแก้ว”
และคำพูดของสีหราชก็ทำให้ลูกแก้วฉุนจัด เธอกำสองมือแน่น ดวงตากลมแข็งกร้าวไม่ต่างกัน
“พูดให้มันดี ๆ นะคะ ดินเป็นเพื่อนแก้ว”
“เพื่อนเหรอ เหอะ! ควายเท่านั้นแหละที่จะเชื่อ”
ลูกแก้วขมวดคิ้วกับคำพูดและท่าทางฟึดฟัดของสีหราช เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร
“ก็แล้วแต่คุณจะเชื่อ”
“ในสัญญา ถ้ามีชู้ปรับห้าล้านบาท”
สีหราชยกเอาสัญญาขึ้นมาเพื่อย้ำเตือนเธอ ทว่าลูกแก้วไร้ซึ่งความกลัวเพราะเธอไม่ได้มีชู้อย่างที่เขาใส่ความ
“แก้วกับดินไม่ได้เป็นอย่างที่คุณกล่าวหา!”
“ครั้งนี้ฉันจะเชื่อเธอ แต่ถ้ามีครั้งหน้า ฉันไม่เอาไว้แน่”
“...”
“ทั้งเธอ ทั้งมัน”
นัยน์ตาถลึงกว้างราวกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ เขาคาดโทษลูกแก้วอย่างคนที่อยู่เหนือกว่าทุกทาง หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองอย่างอดกลั้น
“ดินเป็นเพื่อนแก้ว ยังไงเราก็ต้องเจอหน้ากันอีก”
ที่เธอไม่ยอมเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง และลูกแก้วก็จะไม่ทำตามอีกฝ่ายอย่างไร้เหตุผล เพราะยังไงเธอและแผ่นดินก็ต้องเจอหน้ากันเพราะเราเป็นเพื่อนกัน ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น ถ้าวันนี้ลูกแก้วยอมสีหราช ก็แปลว่าเธอยอมจำนนกับคำกล่าวหาของเขา และอนาคตเธอจะไม่ได้ติดต่อแผ่นดินอีก ไม่มีเหตุผลที่ลูกแก้วต้องยอมทำตามคำสั่งไร้สาระของเขา ทว่าสีหราชที่เห็นเธอไม่ยอมก็ทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งสูงขึ้น ชายหนุ่มออกรถด้วยความเร็วทันที ลูกแก้วมองไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ
“แก้วเจ็บนะคุณสิงห์!!”
ข้อมือเล็กถูกกระชากอย่างรุนแรง สีหราชเปิดประตูเพนท์เฮ้าส์และลากเธอเข้ามา ก่อนจะเหวี่ยงลูกแก้วลงบนโซฟากลางห้องรับแขก หญิงสาวตกใจกับการกระทำของเขา
“คุณจะทำอะไร!”
เธอถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ดวงตากลมสั่นไหวจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังถอดเสื้อสูทตัวเองออก เขาโยนเสื้อสูทสีดำลงบนพื้น ก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมทีละเม็ด
“ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอไม่คิดเหรอว่าฉันจะขาดทุนแค่ไหน?”
เขาเอ่ยออกมาพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ลูกแก้วมองอีกฝ่ายอย่างหวาดกลัว สีหราชพูดเรื่องนี้อีกแล้ว เขาต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับเธอให้ได้จริง ๆ ...
“แก้วไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณคิด แก้วกับดินไม่มีอะไรกันมากกว่าเพื่อน”
“ถ้าไม่ใช่ไอ้เวรนั่น ก็เป็นคนอื่นอยู่ดี”
“...”
“ฉันยอมแต่งงานกับเธอ เอาผู้หญิงน่าเบื่อที่ไม่มีอะไรดีอย่างเธอมาอยู่ในบ้าน แล้วไหนจะเงินยี่สิบล้านที่ถูกพ่อเธอโกงไปอีก คนที่โคตรเสียเปรียบและน่าอายมันคือฉัน!”
“แล้วคุณคิดว่าการที่คุณกับแก้วมีอะไรกัน มันจะทำให้คุณเสียเปรียบน้อยลงเหรอคะ?”
ลูกแก้วพยายามเก็บก้อนสะอื้นเอาไว้ในลำคอ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาของเธอแดงก่ำและพร้อมจะปล่อยน้ำตาแห่งความอึดอัดออกมาทุกเมื่อ
“ใช่ ฉันคงจะรู้สึกสะใจกว่านี้”