ชอบกลิ่นของริน

1142 คำ
ตอนที่ 8 ชอบกลิ่นของริน “อีกอย่าง....คืนนี้ต้องใช้พลังงานเยอะทั้งคืน” หน้าหล่อเหลาเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่รินลดา ก็อดที่จะหน้าแดงก่ำไม่ได้ “ทำไมนายพูดอะไรแบบนี้ได้หน้าตาเฉย” “เราพูดจริงนิ ..อีกอย่างเราชอบเวลาเห็นรินหน้าแดงแบบนี้ ดูแล้วน่ารักดี” กัณย์ยิ้มละไม ...วันนี้เขามีความสุข เมื่อมองหน้าเนียนใสของคนตรงหน้า ทั้งสองใช้เวลาทานมื้อเย็นกันอย่างเพลิดเพลิน ในโต๊ะอาหารริมน้ำ รินลดา เองก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นและยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข ทำให้ กัณย์ เองรู้สึกสบายกับสถานการณ์บนโต๊ะอาหารยิ่งนัก เป็นมื้อแรกในรอบหลายปีของเขา กับเพื่อนสาว “เอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย” กัณย์เอ่ยถาม เมื่อเหมือนเริ่มจะอิ่มกันแล้วทั้งคู่ “ไม่แล้วอะ อิ่มมากแล้ว” “งั้นเราเช็คบิลเลยนะ” “เค เราไปห้องน้ำแปปนะ” รินลดา พยักหน้าและเดินออกจากโต๊ะเพื่อไปห้องน้ำ จะได้เดินกลับมาที่รถของเพื่อนหนุ่ม หญิงสาวใช้เวลาไม่นานนักในห้องน้ำ ทั้งทำธุระส่วนตัวและแต่งเติมสีสันใบหน้าเพิ่มเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ “ใจร้ายจัง มากรุงเทพก็ไม่บอกเชอรี่เลย” เสียงหวานจากร่างสวยในชุดเดรสสีทองสง่าที่ยืนเบียดอยู่ข้าง กัณย์ เพื่อนหนุ่มขณะลุกออกจากโต๊ะ ทำให้คิ้วเรียวสวยของ รินลดา ขมวดขึ้นเล็กน้อย ...อีกแล้วเหรอ ยังไม่ทันไรเลยนะ กัณย์ “พอดีเรามาทำงานมีธุระนะเชอรี่” หน้าหล่อเหลาเอ่ยเสียงราบเรียบ และรีบแกะมือนิ่มออก เมื่อมองเห็น รินลดา เดินมาแต่ไกล ...กำลังจะไปได้ดี ทำไมชอบมีมารมาขัดจังวะ “แล้วมาทานกับใครเหรอ ไปต่อกับเชอรี่ได้มั้ย” สาวเจ้าเอ่ยเสียงออดอ้อนต่อ “คงไม่ได้วันนี้ ผมไม่สะดวก” กัณย์ เอ่ยเสียงเข้ม รีบเดินมาหาเพื่อนสาวที่เหมือนจะเตรียมเดินปรี่ออกไปนอกร้าน “ทำไมละกัณย์! อุตส่าห์ได้เจอกัน” เชอรี่ตะโกนไล่หลังและเดินตามมา จน รินลดา ต้องหันกลับไปมองและยักคิ้วเหมือนจะตั้งคำถามกับหน้าหล่อเหลาตรงหน้า “ไม่ทำไม ..วันนี้เรามากับแฟน” “วะ..ว่าไงนะ” สาวสวยเชอรี่เหมือนจะตระหนกเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างสวยข้างๆ กัณย์ ที่ยืนนิ่งและมองมาด้วยสายตาเรียบเฉย “นี่แฟนเราเอง ขอตัวนะ” กัณย์รีบตัดบท ดึงแขนรินลดาให้ขึ้นรถ ก่อนจะรีบเข้านั่งประจำตำแหน่งคนชับและเคลื่อนรถออกมาอย่างรวดเร็ว โดยแทบไม่สนใจ สาวเชอรี่ ที่มองตาจนกระทั่งลับตา “เดินไปไหนก็มีแต่สาวๆของกัณย์ เต็มบ้านเต็มเมืองเลยเนาะ” รินลดา อดที่จะแซวคนข้างๆไม่ได้ “ก็แค่เคยรู้จักกันน่ะ” “เหรอ” “อืม” “อึดอัดมั้ยอะกัณย์ ที่ต้องมาคอยปฎิเสธสาวๆแบบนี้เวลามากับเรา” หน้าสวยอดที่จะสงสัยไม่ได้ ...นี่มันไม่ใช่ วิถีของเสือผู้หญิงเลยนี่นา “ไม่อึดอัด บอกแล้วไงว่าที่ผ่านมาเราแค่เล่นๆ” กัณย์เอ่ยเสียงราบเรียบ รีบบึ่งรถกลับเพนท์เฮ้าส์ ไม่อยากจะแวะไหนให้หงุดหงิดหัวใจอีกแล้ว เพนท์เฮ้าส์หรูของ กัณย์ อยู่ชั้น 19 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห้นวิวท้องฟ้าและเมืองหลวงได้มุมกว้าง และห้องที่พักค่อนช้างแยกเป็นสัดส่วนกว้างขวางพอสมควร “ดื่มอะไรมั้ย” แค่ถามพอเป็นพิธีเท่านั้น แต่เบียร์เย็นเป็นวุ้นก็ถูกรินใส่แก้วและวางให้เพื่อนสาวตรงหน้า “จะมอมเราเหรอไง” “ก็ไม่เชิง” หน้าหล่อเหลายักไหล่เล็กน้อย ย่อกายลงนั่งข้างร่างสวย ยกมือโอบเอวบางไว้หลวมๆ “ถึงไม่มอม วันนี้เราก็ตั้งใจจะกินรินอยู่ดี แต่ถ้าดื่มนิดหน่อยก็ดี” “เพิ่งรู้ว่า กัณย์มีเพนท์เฮ้าส์อยู่แถวนี้” “อืม ซื้อไว้นานแล้วละไว้มาพักเวลามาติดต่องานที่นี่ แต่ต่อไปคงจะได้มาพักบ่อยแล้วละ ถ้ารินชอบๆก็มาพักที่นี่เลยก็ได้นะ” “ไม่อะ ห้องเราก็มี” หน้าสวยปฎิเสธ ยกแก้วเบียร์ที่เย็นเป็นวุ้นขึ้นจิบ เมื่อร่างกำยำที่แน่นเครียดด้วยมวลเนื้อของคนข้างเริ่มเบียดชิดใกล้ จนขนอ่อนในกายสาวเริ่มลุกชูชัน “ไม่พักถาวร ก็มาบ่อยๆได้นิ” “เคยพาสาวมาที่นี่บ่อยมั้ย” “ไม่เคย รินคนแรกเลย” กัณย์ส่ายหน้าปฎิเสธ แม้เขาจะเคยคั่วหญิงอยู่หลายคน แต่ความจริงเขาชอบความเป็นส่วนตัวมาก ส่วนใหญ่เขามักจะพาสาวๆไปเริงรักที่อื่นและกลับมานอนคนเดียวที่ห้อง “ไม่เห็นต้องโกหกเลย เราไม่ได้ว่าไรสักหน่อย” “เราพูดจริง” หน้าหล่อเหลาซุกลงมาใกล้ซอกคอขาว สูดดมกลิ่นหอมละมุนที่เขาหลงไหลมาเนิ่นนาน มือหนาลูบไล้เข้าภายในยังแผ่นหลังนวลเนียน และปลดตะขอบราด้านหลังอย่างชำนาญ “อืม กัณย์” ร่างสวยเริ่มสั่นระริก เมื่อหน้าหล่อเหลาไล้ระดมซูบไปทั่วร่างและดันให้หญิงสาวเอนลงยังพนักของโซฟา ความวาบหวามรัญจวนเริ่มแผ่ซ่านจนเกินจะควบคุม สัมผัสของ กัณย์ ยังเร่าร้อนและรุกเร้าเช่นเดิม “อืม ตัวรินหอมมากเลย เราชอบกลิ่นนี้” ชายหนุ่มเอ่ยชม ก่อนจะเชยคางสวยให้หันหน้ามาสบตาของเขา นิ้วเรียวแข็งไล้ยังริมผีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มที่เคลือบลิปสีส้มอ่อนช้าๆ “อืม” ไม่ทันจะเอ่ยคำใดต่อ ริมผีปากหนาของ กัณย์ ก็ประกบจูบกับเรียวปากของเธอ บดขยี้อย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากร้อนของเขาดันปากอิ่มให้เผยออก และดุนดันเข้าไปยังโพรงปากนุ่มด้านใน ควานตวัดหาความหอมหวานและตวัดรัดลิ้นนุ่มของเธอ ถ่ายเทลมหายใจอุ่นร้อนที่อัดอั้นมาแสนนาน จูบของ กัณย์ ยังเร้าร้อนและวาบหวามเช่นเดิม และสัมผัสจากปลายลิ้นสากหนานั้นก็รุกเร้าและบดขยี้อย่างเอาแต่ใจ จนหญิงสาวรู้สึกวูบวาบไปทั่วร่างเกินจะต้านทาน มือนิ่มที่เหมือนจะดันออกห่างในตอนแรก กลับเอื้อมโอบรอบคอที่มีปรอยผมดำขลับไว้แน่น และเผลอจูบรับตอบอย่างอ้อยอิ่ง “เรามีเรื่องจะสารภาพ” หน้าหล่อเหลากระซิบเมื่อถอนริมผีปากออก “หือ” “เราเจอหน้ารินทีไร ..เราอยากจะเอาทุกที” **********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม