“พี่คีตามาที่นี่แน่ ๆ พี่ควีนช่วยผมด้วย ฮือ! ผมไม่อยากตาย ผมไม่อยากตาย ไม่อยากตาย!” ราชาเหมือนคนกำลังจะสติแตกเพียงรู้ถึงการมาของคีตา
“....” ฉันยังคงยืนนิ่งแล้วมองน้องชายเงียบ ๆ ต้องทำยังไงต่อกับเรื่องนี้...
ถ้าช่วยราชาแล้วสิ่งที่คีย์ต้องเจอล่ะ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
“ขออนุญาตครับ...คุณคีตาโทรศัพท์มาแจ้งให้เราเปิดประตูให้คนของเขาเข้าในบ้านเพื่อตรวจดูว่าคุณราชาอยู่ที่นี่หรือไม่” ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามายืนข้างฉันแล้วรายงานเรื่องที่พึ่งได้รับมา
“พี่ควีน ฮือ! พี่จะส่งผมไปตายจริง ๆ เหรอ ฮึก! ช่วยด้วย...พี่” คำขอร้องทั้งน้ำตาของราชาสร้างความเจ็บปวดให้คนที่เป็นพี่สาวอย่างมาก
ฉันต้องตัดสินใจโดยเร็วก่อนที่คีตาจะมาถึง...
“พาราชาออกไปจากเกาะ พามันหนีไปให้ไกลที่สุดแล้วปิดการติดต่อ ส่วนคีตาฉันจะจัดการเขาเอง”
“ครับ!” สิ้นเสียงคำสั่งลูกน้องทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายภายในบ้าน และนั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นหน้าน้องตัวเอง
ราชาไม่มีสิทธิ์กลับมาที่นี่อีกตลอดชีวิต...
10 นาทีต่อมา
“คุณควีนครับ คนของคุณคีตาไม่ยอมให้รถของเราออกไป ตอนนี้พวกเขาดักทั้งประตูด้านหน้าและประตูด้านหลังครับ”
สิ้นเสียงรายงานฉันที่ยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็ได้สติกลับมา ร่างบางในชุดนอนกระโปรงตัวบาง สองมือกระชับสาบเสื้อคลุมของตัวเองปกป้องร่างกายเอาไว้
แล้วหมุนตัวหันหลังเพื่อเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นในสภาพจิตใจที่หนักอึ้ง เท้าเล็กเวลานี้ไม่มีได้สวมใส่อะไรอยู่เลยเหยียบย้ำก้าวเดินตามพื้นด้วยเท้าเปล่า เดินออกมาถึงด้านนอกตัวบ้าน
มือยังชาไร้ความรู้สึกและใบหน้าเรียบเฉยทั้งที่ในใจนั้นแทบจะหายใจต่อไปไม่ไหวอยู่แล้ว น้ำตาไม่ไหลออกมาแม้จะเจ็บอยู่ในอก ทำได้เพียงต้องเก็บมันเอาไว้แล้วแสดงด้านเข้มแข็งออกมาเท่านั้น
ไม่มีตัวเลือกไหนที่เหมาะสมสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว...
“มีปัญหาอะไร” เสียงหวานนิ่งเอ่ยขึ้นทำให้กลุ่มคนที่กำลังยืนล้อมรถอยู่ต่างหันมามอง
“พวกเรารับคำสั่งมาจากเจ้านายให้เฝ้าที่นี่และไม่อนุญาต...”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง” ยังไม่ทันที่ผู้ชายตัวสูงตรงหน้าพูดจบ ฉันก็ย้อนถามกลับพวกเขาพร้อมก้าวเท้าเดินไปหยุดยืนประจันหน้า
“คุณคีตาสั่ง...”
“มีสิทธิ์ออกคำสั่งในที่ของฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วยังสั่งฉันอีก...”
“....” ใบหน้าสวยสะกดสายตาจ้องมองใบหน้าของคนตัวโตอย่างไม่เกรงกลัวและเป็นอีกฝ่ายเองที่ก้มหน้าหลบสายตา ฉันกวาดสายตามองไปรอบตัว ไล่มองใบหน้าคนของคีตาและกระทำของตัวเองนั้นทำให้ทุกคนต่างก้มหน้าหลบ
“หลบ” คำสั่งสั้น ๆ ที่ออกจากปากผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในที่นี้ ทำให้กลุ่มลูกน้องของคีตาต่างเปิดทางให้รถของฉันอย่างพร้อมเพรียง
รถยนต์หรู 5 คันเรียงแถวเคลื่อนตัวออกผ่านรั้วสูงไปก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละทาง ซึ่งการกระทำตรงหน้าเกิดขึ้นต่อสายตาลูกน้องคีตาและแน่นอนว่ามันย่อมสร้างความสงสัยให้พวกเขา กลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกน้องของฉันหันมองหน้ากันก่อนที่ทำทีกระจายตัวเพื่อติดตามไป
“ใครก้าวเท้าออกจากพื้นที่บ้านฉันยิงทิ้งได้เลย” คำสั่งประกาศิตในที่ของตัวเองที่เต็มไปด้วยลูกน้องล้นมือและมีคนมากกว่าคนของคีตา ปลายปืนสีดำเงาถูกยกขึ้นจ่อเล็งไปทางคนของคีตา ซึ่งคำสั่งของฉันหมายถึงกลุ่มคนที่อยู่ประตูรั้วด้านหลังนั่นด้วย
“คุณควีนครับ พวกผมไม่...”
“ลองสิ ลองก้าวขาดู...หรือจะเอาปืนเล็งมาที่ฉันดีล่ะเพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นี่”
“ถ้าคุณคีตามาเห็นเข้าผมว่ามันจะทำให้พวกท่านมีปัญหากันนะครับ”
“ฉันพร้อมมีอยู่นี่ไง” ริมฝีปากยกยิ้มเยือกเย็นให้กับพวกเขา ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิมเฝ้ารอการมาของคนสำคัญ คำสั่งของผู้บริหารใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้ ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งและไม่มีใครหยุดฉันได้นอกจาก...
เอี๊ยด!
และเวลาไม่ถึง 10 นาทีหลังจากที่รถคนของฉันออกไป รถหรูคุ้นตาก็เข้ามาจอดตรงหน้า แสงไฟสาดส่องมาที่ตัวเองและมีแค่ไม่มีคนที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน ดวงตากลมจ้องมองประตูรถที่เปิดออกก่อนที่ร่างสูงของผู้เป็นคนขับจะก้าวเท้าลงมา
“ไอ้ราชาออกไปได้แล้วเหรอ” คำถามแรกที่ออกจากปากคีตาก็พาให้หัวใจฉันกระตุกไหว แม้จะรู้ว่าน้องฉันออกไปแล้วแต่เขาก็ยังจะอยู่ตรงหน้า
“....” ไม่มีคำตอบกลับไปสำหรับเรื่องนี้
“ช่วยน้องหนี...หึ!” เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง สายตาของเรายังคงจ้องมองกันและกัน การคาดเดาของคีตานั้นถูกต้อง
“เข้าบ้านก่อนมั้ย” ฉันกำลังทำหน้าที่ของเจ้าบ้านอย่างใจเย็น ผายมือเชิญคีตาเข้าบ้านเพื่อจะได้ไปคุยกันเพียงลำพัง
“ตั้งแต่รถออกไปพวกมึงจัดการเลยก็ได้นิ ไม่ต้องเก็บใครไว้แม้แค่เดียว...จริง ๆ กูก็ต้องการแค่นั้น แค่อยากเห็นมันตาย” แม้ปากจะพูดกับลูกน้องแต่สายตาของคีตาก็ยังคงจ้องหน้าฉัน
“มีสิทธิ์อะไรที่จะทำแบบนั้น” ความจริงไม่ควรถามคีตาแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเลือกจะช่วยก็ต้องพร้อมรับทุกอย่างเอาไว้
“แล้วไอ้เวรราชามีสิทธิ์อะไรมาทำน้องกู” คีตาย้อนถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งดุจนฉันเย็นสันหลังวาบ
“....” มือเล็กกำแน่นจนฝังเล็บลงกลางฝ่ามือ พยายามข่มทุกความรู้สึกเอาไว้
“ไหนบอกว่าสอนน้องแล้วไง รู้เรื่องที่มันทำหรือยัง”
“....”
“ส่งราชามา แล้วเราจะได้ไม่มีปัญหากัน” ส่งไปก็เท่ากับส่งไปตาย...
“ราชาไม่ได้อยู่ที่นี่ อยากได้น้องฉันไปทำอะไรเหรอ...จะทำอะไรราชา” ฉันย้อนถามกลับคีตาเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา เวลานี้ลูกน้องคนอื่นต่างถอยห่างออกไปไกลพอสมควร พวกเขาไม่มีสิทธิ์รับรู้เรื่องที่เจ้านายพูดคุยกัน
“....” ไม่มีคำตอบกลับมา แต่แค่สายตาของคีตาฉันก็รู้แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
“จะทำอะไรราชา” ฉันถามย้ำอีกครั้งเพราะต้องการได้ยินคำตอบจากผู้ชายตรงหน้า
“จะยื้อเวลาทำไม กูรู้ว่าไอ้ราชากำลังพาตัวเองออกจากที่นี่แล้วตอนนี้ก็ใกล้ออกไปได้เต็มทีแล้ว” คีตาไม่สนใจคำถามของฉันสักนิด
ตอนนี้จุดสนใจเดียวคือราชาคนเดียวเท่านั้น และสิ่งที่พูดออกมาก็เป็นความจริง ไม่ใช่แค่เขาที่มีอำนาจฉันก็มีไม่ต่างกันแล้วสนามบินไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่
ทุกอย่างเต็มพร้อมเอาไว้หมดแล้วรอแค่ราชาไปถึงเท่านั้น...
“กูถาม...ตอบ” ฉันพยายามซื้อความสนใจของคีตาเอาไว้ ที่ผ่านมาไม่เคยอยากอยู่ใกล้สักครั้ง แต่เวลานี้เราอยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากตัวอีกฝ่ายชัดเจน
“ก็แค่คุยกับมัน ไม่ทำอะไรหรอก” เหมือนว่าคีตาจะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองเช่นเดียวกัน สายตาและน้ำเสียงในเวลานี้ช่างเยือกเย็นเหลือเกิน