“มันไม่ได้ยากอะไรนักหรอกสำหรับคนแบบพวกเธอ….”
“คะ คนแบบพวกหนูเหรอคะ” เด็กสาวย้อนถาม
“อาจารย์หมายถึง อันดับหนึ่งของชั้นจะไปสำคัญอะไรกับเธอ ไม่ต้องเอาไปอวดใคร ไม่มีใครสนใจหรือดีใจนักหรอก ทุนการศึกษาต่างหากที่สำคัญ อาจารย์พูดถูกไหม”
ใบหม่อนนิ่งไป แม้สิ่งที่ได้ยินมันจะจริงไม่น้อยแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะต่อต้าน
“…จริงๆ อาจารย์ควรปล่อยให้หนูทำเต็มความสามารถ บางทีเลอาอาจจะสอบได้คะแนนดีกว่าหนูด้วยความสามารถตัวเองก็ได้” เธอสบตาอาจารย์แล้วก็พูดออกไป
อาจารย์หนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฟากของโต๊ะ ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเยาะออกมา
“โอเค แสดงว่าเทอมนี้เธอไม่ต้องการทุนสินะ เงินแค่สองแสนสี่หมื่นบาท เธอคงหาได้ไม่ยากหรอกเนอะ”
ใครบอกว่าแค่…. นั่นมันเงินจำนวนมากโข
“ไม่เป็นไร เอาไว้เทอมไหนอยากได้ทุนก็มาบอกละกัน อีโก้น่ะ มันกินไม่ได้หรอก ใบหม่อน” อาจารย์หนุ่มยิ้มให้เธอแบบที่ไร้เมตตา
“…” เด็กสาวที่ชื่อใบหม่อนนิ่งไปสักพัก
เธอแค่กำลังคิด…คิดว่าสิ่งที่เธอกำลังยืนหยัดอยู่ถูกต้องไหม
อีโก้ ศักดิ์ศรี มันจำเป็นมากไหม
“เธอกลับได้ ค่ำมากแล้ว อาจารย์ก็จะกลับละ”
“อาจารย์คะ หนูต้องการทุนค่ะ” ใบหม่อนสบตาอาจารย์
เด็กสาวได้ข้อสรุปแล้วว่าเงินสองแสนสี่หมื่นสามารถซื้อตำแหน่งนักศึกษาเรียนดีอันดับที่หนึ่งจากเธอได้
“ดีแล้ว เธอรู้ไหมว่ามันง่ายมาก ง่ายกว่าการขอให้สอบได้ที่หนึ่งอีก” เขาแสร้งยิ้มเมตตาให้
“…ค่ะ”
“สบายไปอีกเทอมนะ เอาเวลาหาค่าเทอมไปตั้งใจเรียนเถอะ”
“ค่ะ”
“ออกไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
ใบหม่อนตอบรับอย่างสุภาพแถมยังมีกะจิตกะใจยกมือขึ้นไหว้อาจารย์หนุ่มเลือดเย็นนั่น ทว่าเขากลับพยักหน้าให้อย่างรำคาญเหมือนจะไล่ให้เธอออกไปเร็วๆ
แล้วใครมันจะไปอยู่ ว่าแล้วใบหม่อนหันหลังแล้วเผ่นออกจากห้องนั้นทันที
ทว่าเมื่อเปิดประตูออก เด็กสาวสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น
ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ในชุดนักศึกษาที่ผิดระเบียบ ใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนที่เธอจะรีบก้มหน้าลงดังเดิม
“ขอโทษค่ะ”
“คุณวิกเตอร์ เอ่อ วิกเตอร์ เข้ามาสิ ใบหม่อนหลีกทางให้วิกเตอร์เดี๋ยวนี้!” อาจารย์หนุ่มเสียงหลงเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ต่อหน้าใบหม่อน
“ค่ะ ขอตัวนะคะ”
ใบหม่อนเดินหลบนักศึกษาคนนั้นออกมา เด็กสาวเดินจ้ำอ้าวออกมาจากตรงนั้น เธอเองก็ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตานักศึกษาคนนั้นหรอก ใครๆ ก็รู้ว่าถ้าอยากอยู่รอดปลอดภัยในที่แห่งนี้ อย่าได้มีเรื่องกับเขา
วิกเตอร์
ทายาทเพียงคนเดียว ของเจ้าของมหาลัยแห่งนี้
ใบหม่อนรีบวิ่งไปที่ป้ายรถประจำทาง โชคดีที่เธอมาทันรถพอดี รถเมล์สายนี้ผ่านทั้งบ้านและตลาดสดที่ยายของเธอขายขนมอยู่ เด็กสาวลงจากรถเมล์ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันเพื่อเปลี่ยนชุด เธอจะไม่ใส่ชุดนักศึกษาราคาแพงของมหาลัยไฮโซนี่ทำงานเด็ดขาดเพราะมันแพงมาก แพงขนาดที่เธอยอมซักชุดนักศึกษาเกือบทุกวันแทนที่จะซื้อเพิ่ม
ใบหม่อนบรรจงพับเสื้อสูทและเสื้อนักศึกษาใส่เป้สะพายหลังจากนั้นก็เดินไปช่วยยายขายขนมที่แผงขายของ
“ยาย หม่อนมาแล้วจ้ะ” ใบหม่อนเดินตรงเข้าไปกอดยาย
“จ้ะ เหนื่อยไหม ยายซื้อข้าวขยำปลาทูไว้ให้” หญิงชราอายุราวๆ เจ็ดสิบกว่าพูดอย่างใจดี แม้หญิงชราจะมีท่าทางเหน็ดเหนื่อยแต่ก็สุขใจที่ได้เห็นหลานสาว
“ไม่เหนื่อยเลยจ้ะ แล้วยายกินอะไรหรือยังจ๊ะ”
“ยังเลยลูก”
“งั้นยายนั่งกินข้าวเลยนะ เดี๋ยวหม่อนรับช่วงต่อเอง”
ใบหม่อนพายายไปนั่งที่เก้าอี้ผ้าใบก่อนที่เธอจะเอาผ้ากันเปื้อนมาใส่ ใบหม่อนหันไปยิ้มอย่างสดใสให้ยายก่อนจะหันกลับมาฮึดสู้เรียกลูกค้า ถ้าวันนี้ขนมหมดไวเธอจะได้รีบกลับบ้านไปซักเสื้อผ้า อาบน้ำ ทำการบ้าน แล้วก็พักผ่อน ยายเองก็เช่นกัน ยายก็ควรได้พักผ่อน…
สำหรับใบหม่อน…ที่หนึ่งของชั้น ไม่ได้สำคัญเท่าค่าเทอมหรอก
…เธอไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไร เธอเก่งมากพอ เก่งจนสอบได้ทุนมหาลัยอันดับหนึ่ง ทุนเรียนฟรี แต่ไม่ได้หมายความว่าค่าครองชีพจะฟรี แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ช่วยแบ่งเบายาย ยายไม่เคยต้องเสียค่าเทอมเลยเพราะเธอหัวดีสอบชิงทุนได้ตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ตอนนี้เหลือเวลาแค่ปีกว่าๆ ใบหม่อนก็จะสำเร็จการศึกษาจากมหาลัยอันดับหนึ่ง การได้ชื่อว่าจบมาจากที่นี่การันตีมีงานทำแน่นอน ที่สำคัญสามารถเลือกงานได้เลย
อดทนมาตั้งนาน อดทนอีกนิดจะเป็นไร เธออยากเรียนจบเร็วๆ เพราะอยากให้ยายจะได้พักเสียที