“นานหรือยังครับ?” ชายหนุ่มถามถึงบ้านที่วิชญะซื้อให้อีกฝ่าย
“สักสามสี่เดือนได้แล้วค่ะ แล้วพอเมจับได้ก่อนที่คุณเล็กจะไปต่างประเทศ เราทะเลาะกันแล้วเขาไม่กลับบ้านอีกเลย ตาวิธก็บ่นถึงพ่อทุกวันจนเมไม่รู้จะตอบอย่างไรเลยโกหกลูกว่าเขาไปกับคุณเล็ก”
“ครับ...”
วิชยุตม์รับคำแค่นั้น แต่ในใจกำลังเดือดพล่าน...พี่ทำแบบนี้กับเมียกับลูกได้ยังไง!
รู้ทั้งรู้ว่าสมัยที่พ่อทิ้งแม่ไปแล้วแม่มีสภาพเป็นอย่างไรแต่พี่ก็ยังทำกับลูกเมียตัวเองแบบนี้นี่นะ?!
เขาอยากจะรู้จริงๆว่าหัวใจของพี่ทำด้วยอะไร...ผู้หญิงหน้าด้านที่แย่งสามีชาวบ้านคนนั้นเหมือนกัน?!
วิชยุตม์คิด...มือหนากำเป็นหมัดแน่นอย่างคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
“แล้วคุณเมรู้ไหมครับว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามออกมา
เมษิณีดันซองสีน้ำตาลที่ถือติดมือในตอนที่วิชยุตม์ส่งลูกชายของเธอเข้านอนไปตรงหน้าอีกฝ่าย แล้วพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นชื่อ พิรฏาค่ะ...พิรฏา วงษานุวัฒน์!”
๐๐๐๐
“ไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาให้ฉันหน่อยสิทิว”
วิชยุตม์บอกกับผู้ช่วยของเขาหลังจากที่เข้ามาภายในสำนักงานใหญ่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงของทีบีแบงค์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยหุ้นส่วนมากนั้นผู้ถือครองคือคนในตระกูลธีระเสถียรแต่หุ้นใหญ่นั้นคือพวกเขาสองคนพี่น้อง โดยประธานบอร์ดบริหารก็คือพี่ชายของเขา...วิชญะ
“ประวัติใครครับคุณเล็ก...”
ทิวหรือทัศนัยเอ่ยถามเจ้านายที่ทำงานร่วมกันมากว่าเจ็ดปี ตั้งแต่อีกฝ่ายเริ่มทำงานใหม่ๆอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันจบแทบจะรู้ใจกันทุกอย่างอยู่แล้ว
“ผู้หญิงคนนี้”
ชายหนุ่มพูดพลางดันรูปใบหนึ่งไปตรงหน้าผู้ช่วยของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทัศนัยมองตามก็เห็นภาพถ่ายขนาดเท่าแผ่นโปสต์การ์ดไม่วางตา บนภาพนั้นปรากฏรูปของหญิงสาวใบหน้าเรียวรูปไข่ ริมฝีปากบางสีสดเป็นธรรมชาติทว่าดูอิ่มสวย ดวงตาคมหวานทอประกายสดใสแต่ก็ดูดุในคราวเดียวกันรับกับคิ้วเรียวสวย จมูกโด่งเชิดรั้นบ่งบอกเจ้าตัวเป็นคนไม่ยอมคน
ทัศนัยมองภาพนั้นสลับกับใบหน้าเคร่งเครียดของวิชยุตม์ ธีระเสถียรแล้วถาม
“คุณเล็กพอจะทราบไหมครับว่าผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไร?”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของทัศนัย ดวงตาคมของเขามองหญิงสาวในภาพแล้วราวกับมีเปลวไฟอยู่ในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มแล้วเอ่ยตอบคนสนิทว่า
“พิรฏา...” เขาเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดขึ้นอีก “พิรฏา วงษานุวัฒน์”
“ครับ...”
ทัศนัยค้อมศีรษะลงแล้วเอื้อมมือไปหยิบภาพนั้นขึ้นมา ในขณะที่สมองก็คิดว่าเขาควรจะใช้บริการนักสืบของที่ไหนดีเพื่อให้ทันใจเจ้านาย
สงสัยเป็นผู้หญิงคนใหม่ที่คุณเล็กติดใจ...
เขาคิดอย่างง่ายๆ ตามประสาผู้ชาย
“อ้อ...ทิว” วิชยุตม์เอ่ยรั้งคนสนิทเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะก้าวออกจากประตูห้องทำงานของเขา “ฉันต้องการประวัติของผู้หญิงคนนั้นก่อนเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้...เข้าใจไหม?!”
ทัศนัยนิ่งอึ้ง...แต่เพราะทำงานกับวิชยุตม์มานานเขาย่อมรู้ คำตอบที่ผู้ชายคนนี้ต้องการมีเพียงคำเดียว
“ครับ...”
๐๐๐๐
คล้อยหลังทัศนัยออกไป วิชยุตม์ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังผนังกว้างที่กรุด้วยกระจกภายในห้องทำงานของเขา ดวงตาคมทอดมองรถราที่วิ่งกันขวักไขว่เบื้องล่าง ชายหนุ่มชอบห้องโล่งๆมันทำให้รู้สึกว่าความคิดของเขานั้นไม่ถูกปิดกั้น และยามเมื่อต้องการใช้ความคิด วิชยุตม์จะมาหยุดยืนตรงนี้...แล้วขนาดของสิ่งที่อยู่เบื้องล่างจนดูเหมือนกับเล็กจิ๋ว ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา...เขาจะสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้
ตึกทีบีทาวเวอร์นั้นเป็นอาคารสูงสามสิบห้าชั้น โดยห้าชั้นสุดท้ายนั้นเล่นระดับตามที่สถาปนิกออกแบบ ตั้งอยู่บนย่านที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินแพงลิบลิ่ว และถือเป็นสายหลักของธุรกิจระดับประเทศ
ทีบีแบงค์นั้นถือเป็นธนาคารที่มีประวัติมายาวนานภายใต้การบริหารของคนในตระกูลธีระเสถียรซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ของฝั่งมารดา...
ใช่...ฝั่งมารดา
ด้วยวิชยุตม์และวิชญะนั้นต่างเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของมารดานับตั้งแต่ท่านหย่าขาดกับพ่อของเขา...ซึ่งเรื่องมันก็ผ่านมาจวบจนจะยี่สิบปีแล้ว
วิชยุตม์ถอนใจยาว...ยุติความคิดเกี่ยวกับอดีตไว้แค่นั้นแล้วมาคำนึงถึงใบหน้าของผู้หญิงในรูป
ผู้หญิงไร้ศักดิ์ศรีที่ยอมเป็นเมียน้อยของผู้ชายรวยๆคนนั้น...
ผู้หญิงที่เขาจะต้องกำจัดเธอออกไปจากชีวิตของพี่ชายตามคำขอของเมษิณี
“พิรฏา วงษานุวัฒน์งั้นเหรอ?...”
วิชยุตม์พึมพำชื่อเธอเบาๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะตอกย้ำ
ผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวคนอื่น...ปล่อยไว้ไม่ได้!