จากร้านอาหารพื้นบ้าน ก็มูฟไปที่ร้านนั่งชิล ในยามค่ำคืน บรรยากาศสุดชิค ริมแม่น้ำ ที่มีลมพัดเอื่อยๆ และบทสนทนา ที่ทำให้ คนที่มาใหม่ ได้มีส่วนร่วมแบบไม่เคอะเขิน
"กลุ่มอื่น เวลาเจอเพื่อน เขาอาจจะอวดความสำเร็จ อวดรูปลูก ไปโรงเรียน อวดรถคันใหม่ แต่พวกเรา อวดความด้าน ของนิ้ว "
จากนักเรียนกฎหมาย สู่ทนายความ การอ่าน และเปิดหนังสือ จำนวนมาก ทำให้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของแต่ละคน ด้านจนเห็นได้ชัดเจน แม้จะมีถุงนิ้วคอยสวมแล้ว แต่ก็ยัง ไม่รอดพ้นอยู่ดี
"คุณหนึ่งล่ะครับ เป็นแบบที่เพื่อนบอกหรือเปล่า "
น้ำหนึ่งชูมือของตัวเองขึ้นมา แล้ว ชี้ไปที่นิ้วที่ด้านหลายจุด
"หนึ่งจดโน๊ต มาตลอด ไม่ใช่แค่นิ้วที่เปิดตำรา นิ้วที่จับปากกาก็ด้วย "
เขาค่อยๆ จับมือเธอ แล้วลูบเบาๆ นักรบคิดว่า ตัวเองฝันไป น้ำหนึ่งที่อยู่ไกลแสนไกล มาวันนี้ เขาได้จับมือเธอ และนั่งข้างกัน
"ขอจับแบบนี้ ไม่ปล่อยได้ไหม " เสียงนุ่มนวล กระซิบถาม มองหน้าแดงๆของเธอ แล้วก็ยิ้มออกมา ด้วยความพอใจ ไม่ปฎิเสธ ก็หมายถึง คำอนุญาต มือสองมือ จับกัน ไม่ปล่อย แม้จะมีเพื่อนนั่งกันอยู่ หลายคน แต่บรรยากาศ ในตอนนี้ เหมือนกับว่า มีเพียงเขา และเธอ เท่านั้น
อาหารเช้าที่ไม่มีใครลงมากินเลย เพราะยังแฮงค์กันเมื่อคืน ทำให้ คนที่กำลัง ได้เริ่มต้นทำความรู้จัก ได้ใช้เวลามื้อเช้าด้วยกันสองต่อสอง ขนมปังเนื้อนุ่ม ที่อบมาอย่างดี ถูกนำมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า กาแฟร้อน และ ไข่คนชุดใหญ่ ที่สั่งมาพิเศษ ส่งกลิ่นหอม ส่วนคนข้างๆ เลือกข้าวสวยกับ ต้มจืด และ หมูทอด เป็นมื้อเช้า
"ร้านอาหารปิดสิบโมง สักเก้าโมง คงทยอยกันลงมา แต่ถ้าไม่ลงมา ก็คงลากกันไปมื้อเที่ยง "
กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็เกือบตีสอง ทริปสุดแสนทรหด ไม่ดูอายุของตัวเองเลย
"เมื่อคืน คุณหนึ่งดื่มไปหลายแก้ว ปวดหัวไหมครับ " เขาวางแก้วน้ำส้ม ที่สั่งมาให้เธอ แล้วเลื่อนขยับที่ให้ อย่างเป็นธรรมชาติ
"หนึ่งดื่มเก่งพอตัวนะคะ แต่อาจจะไม่ได้ดื่มให้ใครเห็นมากนัก " เธอยิ้มหวาน แล้วเริ่มลงมือทานอาหาร
"ผมจะกลับไป ตรวจเช็คความพร้อมอีกครั้ง และจะวางแพลนการเดินทางมาที่นี่อีก ถ้าเป็นไปได้ คุณหนึ่งมากับผมอีกได้ไหม "
คนที่ทำงานหลายอย่าง ย่นจมูกทันที
"ไม่รับปากเลยค่ะ หนึ่งยุ่งเรื่องงาน หลายอย่างเลย " เขาเข้าใจ ว่าเธอต้องทำงานของตัวเอง แต่เขาก็อยากใช้เวลากับเธอ
"แล้วถ้าไม่เกี่ยวกับงาน เราเจอกันได้ไหม ทานข้าว ดื่มกาแฟ วันละ ชั่วโมงสองชั่วโมงก็ได้ นะครับ "
เสียงอ้อนแบบนี้ คงไม่มีใคร ไม่คล้อยตาม ใบหน้าหล่อเหลา ทำตาอ้อนใส่ แล้วยิ้มให้เธอ
"หนึ่ง จะลองหาเวลาแล้วกัน "
การเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จบลงเรียบร้อย กลุ่มเพื่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ตามความสะดวกของแต่ละคน ทริปทำงานและทริปเจอเพื่อน นับเป็นทริปดีดีในความทรงจำ และพรุ่งนี้ วันจันทร์ ทุกคนต้องทำงาน
ลูกสาวที่ไปทริปกับกลุ่มเพื่อน เดินเข้ามาบ้านในช่วงเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว ใบหน้าสวยหวานยิ้มกว้าง ไม่มีแววของความเหนื่อยล้าให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ผู้เป็นพ่อ ที่กำลัง นั่งจีบแม่อยู่ ลุกขึ้นมากอดลูกสาว
"ไม่มีของฝากนะคะ " ลูกสาวกอดพ่อ แล้วนั่งข้างแม่ ก่อนจะรับน้ำ จากพี่เลี้ยงมาดื่ม
"มาดึกเลย พรุ่งนี้ก็ทำงานแต่เช้า "
"เข้าสิบเอ็ดโมงค่ะ หนึ่งนัดลูกความเอาไว้ ตอนเที่ยง " ลูกสาวบอกตารางงานกับแม่ แล้วดูข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นมารัวๆ
"หนึ่งไปพักนะคะ " ท่าทางมีพิรุธ ทำเอาพ่อกับแม่มองหน้ากัน
" เวลานี้ ไม่คุยเรื่องงานแน่ สงสัยว่าจะมีหนุ่มมาจีบ ซะแล้วมั้ง " แม่บอกเสียงเบา แล้วขยับมานั่งข้างพ่อ
"ถ้ามั่นใจ คงพามาเจอ ตอนนี้คงยังไม่มีอะไรมั้ง " พ่อที่ใกล้ชิดกับลูกบอกกับภรรยา แล้วก็คิดไปถึง เรื่องราวที่ได้รับรู้มา
ลูกน้องคนสนิท หรือ รุ่นน้องที่เคยใช้ชีวิตมาด้วยกัน ที่บ้านเด็กกำพร้า เดินตามรอยเท้า ทุกอย่าง ชาตรีเป็นครอบครัว มากกว่าเป็นคนอื่น ดังนั้น สิ่งที่ชาตรี ตัดสินใจ พสุธร ก็ยอมรับเสมอ ใบหน้าของชายวัยกลางคน นิ่งเฉย และ ไม่แสดงอาการออกมา แต่พสุธรรู้ว่า ชาตรีกำลังโกรธ
"ผู้หญิง เขาให้สืบประวัติ ผู้ชายคนนี้ ลูกน้องผมรับงานมา แล้วก็สืบไปแล้ว ทีนี้ ผมบังเอิญมาเจอ ว่ามีรูปน้องหนึ่ง ติดไปด้วย ผมก็เลย ให้อีกทีม ตามประกบ "
รูปของชายหนุ่มหน้าตาดี กับลูกสาวของตัวเอง ในที่ที่ เป็นที่สาธารณะ สนามบิน โรงแรมที่พัก และ การเดินทาง ไปบนดอยด้วยกัน
"ผู้หญิงเขาให้ข้อมูล ว่า ผู้ชาย ติดผู้หญิงใหม่ ตอนนี้ รูปยังไม่หลุดออกไป ว่าเป็นน้องหนึ่ง ผมดึงรูปกลับมา แล้วบอกลูกน้องว่า งานนี้จะลงมือเอง แต่พี่พุ จะทำยังไง ถ้า น้องหนึ่ง ตกเป็นเป้า แบบนี้ ผมห่วงหลาน "
พสุธร กัดฟันแน่น ด้วยความกังวลใจ ลูกสาวของพ่อ ที่ไม่เคยได้เจอเรื่องอะไรเลย ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
"เขาคบกันจริงไหม " รายละเอียดที่สำคัญที่สุด ต้องสืบให้แน่ชัด
ชาตรี ส่ายหน้า แล้วบอกเล่าเรื่องราว ที่ไปสืบมาทันที
"ผู้หญิงน่าจะป่วย หรือฝังใจ กับผู้ชายมากขนาดนี้ เพื่อนของผู้ชาย บอกว่า ไม่ได้คบ แค่สนิทกับพี่ชาย "
ถ้ามองจากใจเป็นกลาง เรื่องนี้ คนที่น่าสงสาร ก็คือฝ่ายหญิงที่น่าจะป่วย แต่คนที่น่าจะได้รับผลกระทบ มากที่สุด ก็คือ ลูกสาวของตัวเอง
"ฝ่ายหญิงโทรจิก ให้ส่งรูปให้ทุกชั่วโมง จนผมจะบ้าตาย " ทนายความอาวุโส ที่รับงานสีเทาๆ บ่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ผมจัดการมันเลยดีไหมพี่พุ เอาให้มันหมอบไปเลย จะได้ไม่ต้องมากวนใจน้องหนึ่ง "
อาที่รักหลานสุดหัวใจ บอกออกมา แม้จะรู้ว่ามันสุ่มเสี่ยง แต่การตัดใจแต่ต้นลม ก็ดีกว่า ที่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้
"ตอนนี้ ฝ่ายชายทำงานที่บริษัทคุณเกียรติ แล้วหนึ่งเขาก็ทุ่มเท กับโรงเรียนมากๆ อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม เรื่องรูป ก็จัดการไปตามสมควร เข้าใจไหม ไอ้ตรี "
ชาตรี พยักหน้ารับปากรับคำ แล้วก็บอกย้ำกับพี่ชายอีกที
"พี่พุ ไม่ต้องห่วง ผมมีทีมเอ ทีมบี ทีมซี ตามประกบ ทั้งสามคนเลย น้องหนึ่งจะปลอดภัย ผมสัญญา "
พสุธร พยักหน้า ด้วยความหนักใจ แม้จะวางใจ ว่าชาตรี จะดูแลลูกสาวตัวเองได้ แต่คนเป็นพ่อ ก็ยังห่วง เหลือเกิน