9

1551 คำ
เจ้าของประกายตาอำมหิตผุดรอยยิ้มราวกับซาตานร้ายที่ได้พบเหยื่อกำลังนอนซม เขาคว้าเอวคอดมาแนบประชิดตัว อนันตาลอยขึ้นตามแรงฉุด โคล์อุ้มร่างบอบบางเอาไว้ รู้ทันทีว่าเธอผ่ายผอมลงไปมาก “ได้ไปเยอะไม่ใช่เหรอ เงินหมดแล้วหรือไง ทำไมดูไม่จืด” “ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันไม่เคยรับเงินจากใคร ไม่เชื่อก็ตามใจ” “ปากแข็ง แล้วไปทำอะไรมาถึงผอมและโทรมลงได้ขนาดนี้ หรือผัวใหม่เลี้ยงไม่ดี ไม่เหมือนตอนอยู่กับฉัน” สายตาเย็นชาร้อนระอุขึ้นราวกับเปลวเพลิง ในขณะที่อนันตาหน้าชาดิก อับอาย “ปล่อยฉันนะคะ ที่นี่โรงพยาบาล ให้เกียรติสถานที่และฉันด้วย” โคล์หัวเราะออกมา“ฉันนี่แหละเจ้าของโรงพยาบาลคนใหม่ ฉันให้เกียรติสถานที่ แต่ไม่คิดจะให้เกียรติผู้หญิงอย่างไม่ดีอย่างเธอ” เขารู้จุดหมายว่าจะพาเธอไปที่ไหน เขามีห้องพักอยู่หนึ่งห้องคล้ายคลึงกับพวกแพทย์และพยาบาล โคล์ไม่ได้มีไว้ใช้พักผ่อน ใครอยากจะมานอนในโรงพยาบาลถ้าไม่จำเป็น แต่ผู้อำนวยการที่นี่จัดห้องพักไว้สำหรับให้เขานั่งทำงาน หรือเอนหลังหลับพักผ่อน ในเวลาที่ต้องเดินทางมาประชุม “คุณจะพาฉันไปไหน เราคุยกันที่ร้านอาหารของโรงพยาบาลก็ได้” “ไม่ได้ ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะเธอมันมีนิสัยขี้โกหก ขี้ขโมย พูดดีๆ ไม่ได้ ต้องทั้งสอบ ทั้งเค้น” หัวใจของคนฟังจวนเจียนจะแหลกสลายอยู่แล้ว มือเล็กนุ่มนิ่มบอบบางพยายามผละอกเขา แต่ยิ่งผลัก โคล์กลับรัดร่างเล็กเอาไว้แน่น ราวกับงูจงอางที่พร้อมจะรัดและฆ่าเหยื่อของมันอย่างรวดเร็วก่อนจะขย้อนซากเหยื่อโชคร้ายลงท้องไปทั้งตัว อนันตาถูกคนตัวโตพามาที่ห้องพักรับรองวีไอพีบนชั้นที่แปด พอเข้ามาในห้องได้ โคล์ก็ไล่บอดีการ์ดทั้งหมดออกไป ในห้องจึงเหลือแค่เธอกับเขาสองคน ดวงตาวาวโรจน์จับจ้องมาที่ร่างเล็กกว่า “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้อนันตา ว่าเด็กสองคนนั่นเป็นลูกของฉันหรือเปล่า ถ้าเธอไม่ยอมพูดความจริง ฉันจะพาเด็กสองคนนั้นไปอยู่กับฉันจนกว่าฉันจะพิสูจน์ได้ ถ้าไม่ใช่ลูกฉันฉันจะพามาคืน” อนันตาเบิกตาโพลง ยืนหอบหายใจ “อะไรนะ! คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น” เธอลุกขึ้นไปอยากจะบีบคอคนใจร้ายเลือดเย็นอย่างเขาให้ตาย แต่แรงจะลุกขึ้นยังไม่มีทำให้เธอได้แต่นั่งกำมือแน่น “ฉันก็ไม่อยากใจร้ายกับเธอหรอกนะ แต่เธอปากแข็งไม่ยอมบอก ถ้าเธอบอกฉันดีๆ ไม่ว่าเด็กสองคนนั้นจะเป็นลูกฉันหรือเปล่า ฉันก็อาจจะใจดีเมตตาให้เงินเธอสักก้อนไปใช้” เขาบอกแล้วกวาดตามองคนตรงหน้า ในอดีตเธอเคยอวบอิ่มมีน้ำมีนวลมากกว่านี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ “ฉันบอกแล้วไงว่าพวกเขาเป็นลูกของฉันคนเดียว” “ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องไม่ยอมบอกความจริง ถ้าอย่างนั้นเธอกับลูกก็แยกกันอยู่สักพักแล้วกัน” เขาพูดอย่างเลือดเย็น “เธอกลับไปรักษาตัวให้หายแล้วรอฟังข่าว ถ้าฉันพาเด็กสองคนนั้นไปตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ใช่ลูก ฉันจะพาไปคืน” โคล์บอกจบแล้วลุกขึ้นไปทันที แต่ใครจะรู้ว่าเขามั่นใจมาก อะไรบางอย่างบอกให้โคล์เชื่อเซนส์ของตัวเอง “ไม่นะ อย่าทำแบบนี้ พวกเขาไม่ใช่ลูกคุณจริงๆ เอ่อ ฉะ ฉันมีสามีใหม่ แล้วก็เพิ่งเลิกกันไป” คำตอบแบบนี้ทำให้โคล์หันมาขมวดคิ้วมอง “สามีใหม่เหรอ” “ใช่ ได้ยินชัดแล้วก็เลิกยุ่งกับฉันกับลูกเสียที ปล่อยพวกเราไปเถอะ” โคล์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งาม แต่บัดนี้มันแห้งเหือดโรยราไปมาก “สามีใหม่ของเธอชื่ออะไร ทำงานที่ไหน แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน” “เขา เขาชื่อเดวิด ทำงานเป็นช่างภาพ ฉันเจอกับเขาตอนไปเที่ยวสมุย ส่วนตอนนี้เขากลับอเมริกาไปแล้ว” “แต่งเรื่องเก่งมาก” เขาบอกพร้อมกับปรบมือ “ฉันถามจากลูกๆ ของเธอแล้ว พวกเขาบอกว่าพ่อตายเพราะข้าวติดคอ ทั้งยังบอกฉันอีกว่าพ่อชื่อจอห์นนี วอล์กเกอร์ เธอโกหกไม่เนียนเลยนะอนันตา” “คุณ นี่คุณคุยอะไรกับลูกบ้าง” อนันตาลนลานถาม โคล์ยิ้มดุ สายตาจ้องจับผิดตลอดเวลา “คุยหลายอย่างเชียว เด็กๆ บอกว่าแม่ลำบาก ไม่ค่อยมีเงิน พวกเขาเองก็ต้องประหยัด อยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน เพราะกลัวแม่จะเหนื่อยต้องหาเงินมาเลี้ยงพวกเขา ตกลงเธอมีผัวใหม่กี่คนกันแน่ฉันเริ่มสับสน” หัวใจของอนันตาบีบรัด น้ำตาไหลพราก เธอเลี้ยงลูกได้แย่มาก พวกเขาไม่ได้สุขสบายเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ถึงกับอดอยาก น้ำตาเริ่มรวมกันมาคลอที่หน่วยตา ทำให้ทุกอย่างดูพร่าเรือนไปหมด แต่อนันตาฝืนเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา“ฉันจะเลี้ยงลูกยังไงมันก็เรื่องของฉัน จะมีสามีใหม่กี่คนก็เรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมาสนใจพวกเราหรอก อีกอย่างถ้าหากคุณอยากได้ลูกก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน” โคล์กระตุกยิ้ม “สภาพเธอตอนนี้ก็เหมือนศพอยู่แล้ว อย่าพูดมากอีกเลย วันนี้ฉันคิดว่าฉันได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้แล้ว” “คุณรู้อะไร” อนันตาถาม หัวใจเต้นโครมคราม เธอไม่ได้บอกเขาเสียหน่อยว่าเขาเป็นพ่อของลูก แต่ตอนนี้โคล์ไม่ได้สนใจตอบแต่เขาออกคำสั่งแทน “เธอพักอยู่ที่ห้องนี้ก่อน แล้วเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน” อนันตาอยากจะวิ่งตามไปถามเขา แต่ถูกบอดีการ์ดคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าของทีมบอดีการ์กันไว้ไม่ให้วิ่งออกไป “ผมว่าคุณกลับไปรอในห้องเถอะครับ คุณโคล์สั่งอะไรก็ทำตามดีที่สุด” เอ็ดเวริ์ดบอก อนันตาไม่คุ้นหน้าเขานักคงจะเป็นบอดีการ์ดคนใหม่ เมื่อก่อนคนที่อยู่เคียงข้างโคล์เขาชื่อนาธาน “ไม่ ฉันจะไปหาลูก” “ผมไม่รู้เรื่องราวเก่าๆ ของคุณกับคุณโคล์ทั้งหมด แต่ถ้าคูรไม่รู้นิสัยคุณโคล์ ผมจะบอกให้รู้ เขาเกลียดคนที่ไม่ฟังคำสั่ง กลับเข้าไปเถอะครับ อย่าให้ผมต้องลำบากใจ” อนันตาถอยกลับด้วยความผิดหวัง ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะสู้กับผู้ชายหลายคนที่เฝ้าหน้าห้องได้อย่างไร พวกเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ร่างสูงใหญ่กำยำ หลายคนเคยเป็นหน่วยซีลในสหรัฐอเมริกา แล้วออกมาทำงานให้โคล์ เธอกลับไปนั่งหมดแรงอยู่ที่โซฟา รออยู่นานเกือบชั่วโมงเขาก็ไม่มาจนเธอเผลอหลับไปตรงนั้น ในห้องทำงานโคล์วางมือจากงานเขาไม่มีสมาธิจะทำอะไรอีก ด้านซ้ายเป็นแอ็ดเวริ์ดมือขวาที่รับคำสั่ง “เอ็ดเวริ์ด ตั้งแต่ฉันกลับมาพบอนันตาอีกครั้ง ฉันเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง และฉันคิดว่า บางทีทุกอย่างอาจไม่ใช่ อย่างที่ฉันเคยคิดเอาไว้ เรื่องนี้เป็นความลับ ฉันจะให้นายสืบอะไรให้หน่อย” “ครับเจ้านาย แต่ทำไมท่าทางคุณโคล์ถึงได้ดูวิตกนักละครับ” ร่างสูง สมาร์ต ในชุดทำงาน พิงพนักเก้าอี้แล้วถอนใจ “ฉันทำไม่ดีกับอนันตาไว้เยอะ แล้วถ้าครั้งนั้นที่ฉันไม่ฟังอนันตาเลยมันกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ฉันจะรู้สึกผิดแค่ไหนที่ปล่อยให้ลูกและเมียลำบากมาถึงแปดปี” นาทีต่อมามีเสียงเรียกเข้าที่โทรศัพท์มือถือ โคล์กดรับ “โคล์ขาเมื่อไหร่คุณจะกลับอเมริกาคะ ลอร่าคิดถึงคุณแทบแย่ เมืองไทยมีอะไรดีนักคะ ถึงไปนานนัก” “ลอร่า ผมเทคโอเวอร์โรงพยาบาลมานะครับ ไม่ใช่ร้านอาหารจะได้ดูวันสองวันและกลับ แล้วผมจะอยู่ที่ไหนมันก็เป็นการตัดสินใจของผม มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีแค่นี้นะครับ ผมจะทำงาน” เขาตัดสายไม่ได้สนใจเลยว่าสาวสวยอีกซีกของโลกจะเสียใจหรือน้อยใจในประโยคที่เขากรอกลงไป “คุณลอร่าชอบคุณโคล์มากนะครับ หลายปีมานี้เธอถึงวนเวียน ไม่ยอมสนใจใคร ทั้งๆ ที่มีผู้ชายหลายคนมาสนใจเธอ” โคล์ยิ้มอ่อนให้เอ็ดเวิร์ด “นายต้องถามฉันด้วย ว่าฉันเล่นด้วยกับลอร่าหรือเปล่า ฉันก็มองลอร่าเป็นแค่รุ่นน้อง ฉันชอบฝีมือในการทำงานของลอร่า แต่ไม่มีทางพัฒนาไปเป็นอื่น” เขาถอนใจเหยียดยาว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม