10

1299 คำ
เช้าวันต่อมาที่คฤหาสน์หรูเนื้อที่สิบไร่ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอม ในยามเช้าจะมีนกบินมาเกาะขอบหน้าต่างส่งเสียงเจื้อยแจ้วให้ความรู้สึกเบาสบาย อนันตาปรือตาตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าเหมือนอยู่ในฝัน “ที่นี่ที่ไหน” “แม่ตาตื่นแล้วหรือคะ” “อิ่มอุ่น ไอรัก” เธอรีบดึงลูกเข้ามากอดด้วยสัญชาติญาณ นี่ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง “แม่ตาหิวหรือยังคะ อิ่มมีข้าวต้มร้อนๆ ไว้ให้แม่ตาด้วย อิ่มขอให้คุณป้าแม่ครัวต้มให้” อนันตายิ้มให้ลูกน้อย แต่เธอเพิ่งสังเกตรอบตัว ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านอย่างแน่นอน เพราะเตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆ แบบนี้ หรือที่นี่จะเป็นโรงพยาบาล แต่ดูจากการแต่งห้องแล้วก็ไม่น่าจะใช่ “อิ่มอุ่น ไอรัก ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานี่นา เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ” “ที่นี่บ้านของเราครับแม่ตา” อนันตาขมวดคิ้วมองลูกด้วยความตกใจ นี่เธอป่วยจนมึนหรือว่าลูกพูดจาเลอะเทอะกันแน่ เธอมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก่อนที่เธอจะถามต่อ ไอรักก็รีบบอก “แด๊ดเป็นคนพาเรามาที่นี่ครับ ก็แม่ตาขี้เซานอนหลับปลุกไม่ตื่น แม่ตานอนกินบ้านกินเมืองมากครับ” เด็กน้อยพูดไปขำไป “แด๊ดบอกว่าที่นี่คือบ้านของเรา ต่อไปเราจะต้องอยู่ที่นี่กับแด๊ด” หัวใจดวงน้อยของอนันตาดิ่งวูบ “แด๊ด แด๊ดที่ไหน แม่บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าพ่อของลูกตายไปแล้ว” คราวนี้เด็กทั้งสองเริ่มมองหน้ากัน “ความจริงแด๊ดไม่รู้ว่ามีพวกเราอยู่ที่นี่ แด๊ดบอกว่าแด๊ดอยากชดเชยให้พวกเรา เลยให้พวกเรามาอยู่กับแด๊ดที่นี่ แล้วแด๊ดก็บอกว่า แม่ตาเข้าใจผิด แด๊ดกินข้าวติดคอ แต่ยังไม่ทันตาย เพราะแด๊ดไปหาหมอทัน หมอช่วยแด๊ดไว้ได้ ในเมื่อแด๊ดไม่ตายแด๊ดก็จะกลับมาเลี้ยงลูกๆ เองครับแม่ตา” “อะไรนะ! ” “แม่ตาขา อิ่มอยากอยู่ที่นี่ ที่นี่มีห้องนอนสวยๆ มีขนมเยอะแยะเลย” “อิ่มอุ่น” อนันตาเรียกลูก “แม่ตาเคยสอนว่ายังไง ไม่ให้อยากได้ของคนอื่นจำได้ไหม อีกอย่างที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา หรือว่าทั้งสองคนไม่รักแม่แล้ว ไม่อยากอยู่กับแม่” “อิ่มอุ่นรักแม่ตาค่ะ” “ไอรักก็รักแม่ตาครับ” “ดีมาก งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ” อนันตาลุกจากเตียงแล้วจูงมือลูกคนละข้างพากันเดินตรงไปที่ประตู แต่เธอก็นึกขึ้นได้อีกอย่างว่าไม่มีเงินติดตัวสักบาท สีหน้าของอนันตาดูเป็นกังวล “ไอรัก เงินของลูกยังมีอยู่ใช่ไหม” เด็กน้อยตอบเสียงฉะฉาน “มีครับแม่ตา แต่ว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลซื้อข้าวกับขนมให้อิ่มอุ่นกินไปหมดแล้วครับ” “หา!” อนันตาครางออกมา ปกติสองคนนี้เป็นเด็กประหยัดเพราะเธอสอนเอาไว้ ทำไมต้องมาหมดตอนนี้ด้วยนะ เท่ากับตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัวเลย ขณะกำลังคิดวุ่นวายสับสน เจ้าของร่างสูงที่อนันตาไม่อยากเจอก็ผลักประตูเข้ามา เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองอย่างสงสัย สายตาวาวโรจน์จ้องเธอเขม็ง “นี่เธอจะพาลูกฉันไปไหน” “กลับบ้านค่ะ” “นี่ไงบ้านของเด็กๆ” “ไม่ใช่” อนันตาเกร็งจนพูดได้แต่คำสั้นๆ สายตาทรงอำนาจฉายแววยิ้มเยาะ “ฉันได้ผลตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว อิ่มอุ่นกับไอรักเป็นลูกของฉัน ดังนั้นพวกเธอสามคนแม่ลูกต้องอยู่ที่นี่ จะไปไหนไม่ได้” “อะไรนะ! ไปตรวจตอนไหน” “ตอนที่เธอนอนหลับไปยาวๆ ไง” อนันตามีคำตอบแล้วว่าทำไมเธอถึงหลับเป็นตายและมาอยู่ที่นี่ เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เขาสั่งทำอะไรกับเธอ วิธีไหน อนันตายังไม่มีเวลาคิด แต่ที่คิดตอนนี้คือจะเอาลูกกลับบ้านยังไง “เลิกคิดเถอะ คิดไปเด็กก็ต้องอยู่กับฉัน” อนันตาช็อกกับข่าวที่เขาบอก แล้วความคิดต่อมาก็คือตกตะลึง อยู่กับเขาที่นี่งั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ เธอเกลียดเขาไม่อยากอยู่ด้วยแม้แต่วันเดียว “ฉันขอร้องล่ะ คุณไปมีลูกใหม่ก็ได้ อย่ามายุ่งกับฉันกับลูกเลย” โคล์หัวเราะในลำคอ ไม่จับเธอหักคอก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าเขาไม่บังเอิญมาที่นี่ ไม่สะกิดใจเมื่อเห็นเด็กสองคนนี้และสงสัยในความสัมพันธ์ครั้งนั้น ป่านนี้ลูกเขาจะเป็นยังไง ดูสภาพแล้วตอนนี้อนันตาตกอับมาก “นี่อนันตา ทำไมเธอต้องทำท่าทางรังเกียจฉันขนาดนั้น ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันเลี้ยงลูกได้สบาย ส่วนเธอทำให้พวกเขาอดอยาก” โคล์หงุดหงิดไม่อยากจะพูดต่อ “ถามจริงเด็กได้กินข้าวครบสามมื้อไหม เธอเลี้ยงพวกเขาด้วยอะไรถึงดูผอมแบบนี้” อนันตาเม้มปากแน่น “ถึงฉันจะจนและลำบากแค่ไหน แต่เด็กๆ ได้กินอาหารครบทุกมื้อ เราอยู่กันมาได้ ปล่อยให้พวกเราอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ คุณอย่ามายุ่งกับเราเลย” “ฉันไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงอย่างเธอหรอก แต่เมื่อฉันรู้ว่าเด็กสองคนนี้เป็นสายเลือดของฉัน ไม่มีวันที่ฉันจะไม่ยื่นมือไปยุ่ง จำใส่หัวเธอเอาไว้” ที่ผ่านมาเขามีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา ไม่เคยต้องเปลืองน้ำลายกับใครเยอะเท่าคนตรงหน้ามาก่อน “โหดร้าย” “ใช่ ฉันโหดร้าย และร้ายมากด้วยกับผู้หญิงใจร้าย” อนันตาตัวสั่น คิดถึงภาพที่เขาเคยร้ายกับเธอเขาใจร้ายจริงๆ “ฉันแค่อยากอยู่กับลูกอย่างสงบ ไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น คุณลืมเรื่องวันนี้ไปซะ คิดเสียว่าไม่เคยเจอกัน ฉันจะไม่พาลูกมาย่างกรายในชีวิตคุณแน่นอน” “บ้าไปแล้ว ฉันไม่เข้าใจเธอเลยอนันตา เธอไม่อยากให้ลูกมีชีวิตสุขสบายเหรอ ” โคล์งงไปหมด เขาเอ่ยประโยคอะไรที่ทำให้เธอเข้าใจว่าเขาไม่ต้องการลูกออกไปเหรอ “เด็กเป็นสายเลือดของฉัน พอรู้แล้วว่าเป็นลูกจะให้วางเฉยคงไม่ได้หรอก” “ฉันไม่เข้าใจ คุณรวยมาก มีเมียมีลูกกี่คนก็ได้ ตอนนี้คุณแค่ลืมๆ พวกเราไปก็ได้แล้ว คิดว่าไม่มีพวกเราอยู่ในโลกใบนี้ ฉันรับประกันจะไม่บอกใครเรื่องลูกของเราเด็ดขาด” โคล์รู้สึกปวดหัวตุบๆ ขึ้นมา เห็นเด็กๆ มองอยู่โคล์จึงจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ “อนันตาเธอไปอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าวซะ ฉันไม่อยากคุยอะไรต่อหน้าลูก แต่ถ้าเธอไม่ทำตาม...” “แต่ฉันอยากคุยตอนนี้...” อนันตายังดื้อ ทว่าพูดไม่ทันจบก็เห็นดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองมาที่เธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น อนันตาสบตาลูกแล้วถอนใจ.. อิ่มอุ่นส่งเสียงแจ๋ว “จะคุยอะไรกันคะ หรือว่าเป็นเรื่องที่แด๊ดหายไป” “อิ่มแม่เคยสอนเราแล้ว เวลาผู้ใหญ่คุยกันห้ามพูดแทรก” อิ่มอุ่นหน้าม่อย “ก็อิ่มเห็นว่าเป็นเรื่องของแด๊ด แม่ตาคงเข้าใจแด๊ดผิดเลยหงุดหงิด” “แม่หงุดหงิด และเข้าใจผิดเรื่องอะไร ไหนพูดมาซิ ถ้าเข้าใจผิดแม่จะได้แก้ให้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม