หลินหลินอมยิ้ม แต่แสร้งปั้นหน้าขรึมตอบ “มิใช่แมวธรรมดาเพคะ แต่เป็นแมวศักดิ์สิทธิ์ แมวสร้างโลกเหมือนเทพเจ้าผานกู่ แมวศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ติดตามเทพเซียนบำเพ็ญเพียรมาถึงพันปี จนมีบารมีแก่กล้า หากใครมีไว้ติดตัวย่อมทำให้เสริมบารมี ใครๆต่างต้องยอมสยบให้เพคะ” นอกจากเป็นนักเขียนบทแล้วตอนเรียนนางก็ยังเป็นนักพูดของมหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้นการพูดหว่านล้อมให้คนคล้อยตามจากการสร้างเรื่องขึ้นเองจึงไม่ใช่เรื่องยาก จะว่าไปก็เป็นงานถนัดของนางอยู่แล้ว “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” จิงเฟยยังลังเล หลินหลินพูดเสียงหนักแน่น วางสีหน้าจริงจัง “ที่พระสนมไม่เคยได้ยินมาก่อนก็เพราะภาพแมวภาพนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างไรเล่าเพคะ มิใช่คนธรรมดาสามัญจะมีได้ แล้วท่านเจ้าอาวาสคนก่อนยังสั่งให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ วันนี้ข้าเห็นว่าได้พบกับผู้มีวาสนาสมควรแก่การครอบครองจึงได้บอก” พระสนมผู้สูงศักดิ์ยิ้ม “เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจ