ข้าจะเลี้ยงมัน

1502 คำ
เฟยเถาเดินออกมาเกือบจะพ้นทางแยกที่นางแยกไปหาของป่าอีกฟากหนึ่งแล้ว แต่กระต่ายป่าก็ไม่คิดที่จะกลับเข้าไปในป่าเช่นเดิม “อืม...จะไปกับข้าหรือ” พอเห็นมันพยักหน้านางก็อุ้มกระต่ายมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินลงเขาไปด้วยกัน ชาวบ้านที่เห็นเฟยเถาเดินออกมา พร้อมกับกระต่ายในมือ ก็มองมาทางนางด้วยความอิจฉา "เจ้าจับมันได้อย่างไร" หนึ่งในนั้นเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ “ก็อุ้มมันขึ้นมาอย่างไรเล่า” ก็นางทำเช่นนั้นจริงๆ ดูเหมือนไม่มีชาวบ้านคนใดที่จะเชื่อในคำพูดของเฟยเถา กระต่ายป่าว่องไวเพียงใด ผู้ใดไม่รู้กันบ้างเล่า มันจะยอมให้นางอุ้มขึ้นมาง่ายๆ เช่นนั้นหรือ แต่ดูเหมือนว่ากระต่ายในมือของเฟยเถาก็ไม่คิดที่จะหนีไปจริงๆ เรื่องที่เฟยเถาได้กระต่ายป่ากลับเรือน ถูกเล่าลือไปทั่วหมู่บ้าน เฟยเถาปล่อยให้กระต่ายวิ่งเล่นอยู่ในเรือนของนาง นางเข้าไปทำอาหารอยู่ในห้องครัว กระต่ายน้อยยังกระโดดวิ่งตามนางอย่างน่าเอ็นดู หากมีใครมาเห็นเขาคงไม่อยากจะเชื่อสายตา “เถาเถา เถาเถา เจ้าอยู่เรือนหรือไม่” เสียงของหูเจี้ยนทำให้เฟยเถาวางมือที่ทำอาหารอยู่ออกไปเปิดประตูให้เขา “พี่เจี้ยนมาที่เรือนข้าตอนนี้มีอันใดหรือไม่” ที่มือของเขาไม่มีของมาด้วย นางจึงคิดว่าเขามีธุระจะคุยกับนาง “ข้าได้ยินว่าเจ้าได้กระต่ายมา จะฆ่ามันเลยหรือไม่ ข้าจะช่วยทำให้” “ห๊ะ!!! ไม่ ไม่ฆ่า ข้าจะเลี้ยงมัน” เฟยเถาอุ้มกระต่ายไปซ่อนไว้ด้านหลัง ท่าทางเช่นนี้ของนางทำให้หูเจี้ยนหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่า ฮ่า ข้าไม่แย่งเนื้อกระต่ายกับเจ้าหรอกไม่ต้องห่วง เจ้าจะเลี้ยงมันเพื่ออันใด ครั้งก่อนข้าอุ้มกลับมาให้เจ้าเลี้ยงเจ้ายังมองมันจนน้ำลายไหล แล้วเหตุใดถึงอยากเลี้ยงมันเล่า” “ข้าไม่กินมันแล้ว มันน่าเอ็นดูเพียงนี้ ท่านอย่าได้พูดเช่นนี้อีก ดูสิ...กระต่ายของข้ากลัวหมดแล้ว” นางลูบขนกระต่ายน้อยอย่างปลอบประโลม เมื่อเห็นมันกลัวจนตัวสั่น “ได้ข้าไม่พูดว่าจะฆ่ามันแล้ว เถาเถา ป่าฟากนู้นมีสัตว์ร้าย เจ้าอย่าได้เข้าไปอีกเล่า หากอยากไปบอกข้าสักคำ ข้าจะไปกับเจ้า” “ขอบคุณพี่เจี้ยนมากเจ้าค่ะ ไว้ข้าจะขึ้นเขา ข้าจะบอกท่านก็แล้วกัน” นางยิ้มกว้างให้เขาอย่างขอบคุณ “อ้อ...อีกสองวันข้าจะเข้าเมือง เจ้าปักผ้าเสร็จแล้วหรือยัง ข้าจะได้เอาไปส่งให้” “เอ่อ...ยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะเร่งทำ หากเสร็จแล้วคงต้องรบกวนท่านด้วย” “รบกวนอันใด ข้าเองก็เป็นคนนำไปส่งให้เจ้าทุกครั้งอยู่แล้ว” “ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ” “เจ้ารีบเข้าเรือนไปได้แล้ว ข้ากลับก่อน” ใบหูของหูเจี้ยนแดงก่ำอย่างน่าเอ็นดู “เจ้าค่ะ” เฟยเถายิ้มอย่างหยอกล้อก่อนจะเดินกลับเข้าไปในเรือน เจียวเหอที่เพิ่งเดินออกมาจากเรือนของสหายกำมือแน่นมองทั้งสองอย่างไม่พอใจ “ดูท่า อีกไม่นานอาเจี้ยนคงได้ส่งแม่สื่อมาสู่ขอแม่นางฟางเป็นแน่” เฉียนตงดีใจแทนสหายของตนที่จะได้ไม่ต้องถูกเฟยเถาวิ่งไล่ตามอีกแล้ว “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “ข้าไม่เคยเห็นแม่นางฟางยิ้มแย้มให้อาเจี้ยนมาก่อน แต่หลายวันมานี้นางดูเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องไม่ไปเรือนเจ้า และเรื่องที่อาเจี้ยนมาหานางที่เรือนบ่อยๆ นางก็ให้การตอบรับอย่างดี” “เจ้าไปสำนักศึกษาทุกวัน เอาเวลาที่ใดไปสนใจเรื่องผู้อื่น” “ท่านแม่ข้าบอกอย่างไรเล่า สองวันมานี้ แม่นางฟางใจกล้าไม่น้อย ขึ้นไปหาของป่าอีกฟากของเขา อาเจี้ยนคงเพิ่งจะรู้เรื่อง ถึงได้รีบร้อนมาหานางตอนที่ฟ้าใกล้จะมืดเช่นนี้” เฉียนตงยังเอ่ยเล่าเรื่องที่รู้มาไม่หยุด “นางไปผู้เดียวหรือ” เจียวเหอหันไปถามสหายอย่างแปลกใจ “อืม เมื่อครู่เจ้าเองก็ได้ยินที่อาเจี้ยนเตือนนาง หากนางขึ้นอีกอาเจี้ยนก็คงไปเป็นเพื่อนนางเอง แล้วเจ้าจะสนใจเรื่องของนางไปเพื่ออันใด ยามนี้เจ้าควรจะยินดีถึงจะถูกที่นางเลิกสนใจเจ้าแล้ว” “...” เจียวเหอไม่ตอบ เขาเดินกลับเรือนไปโดยไม่สนใจสหายที่ร้องเรียกเขาเลย เฟยเถากลับเข้ามาในเรือนก็ยกอาหารออกมาวางในห้องโถง นางมองกระต่ายน้อยที่วางมันลงบนโต๊ะอาหารอย่างรู้สึกผิด “เจ้ากินผักป่าได้หรือไม่ ข้าเก็บ...หะ หาย หายไปหมดแล้ว!!!” นางตกใจจนกรีดร้องออกมา ถ้วยชามที่ใส่อาหารตรงหน้านาง ล้วนแต่หายไปจนหมด กระต่ายน้อยที่เห็นเรื่องประหลาดอีกครั้งก็กระโดดลงไปบนพื้นด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าตกใจเสียงร้องของเฟยเถาหรือเปล่า “ประหลาดนัก ข้าพูดว่าเก็บ...สวรรค์!!! แม้แต่โต๊ะก็หายไปแล้ว” นางจับสิ่งใดแล้วพูดล้วนแต่หายไปจนหมด ระหว่างที่เฟยเถากำลังใกล้จะเสียสติอยู่นั้น นางเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ในนิยายหลายเรื่องที่นางเคยอ่าน นางเอกทะลุมิติมา ส่วนมากจะมีของวิเศษติดมาด้วย แต่นางไม่ใช่นางเอกของเรื่องไง นางจึงไม่เคยคิดเรื่องมิติวิเศษมาก่อน แต่ตอนนี้ของหายไปจนสิ้น จะไม่ให้นางคิดสงสัยก็คงไม่ได้ “โต๊ะออกมา อาหารออกมาเดี๋ยวนี้!!!” นางคำรามออกมาเบาๆ ของที่นางเรียกล้วนแต่ออกมาปรากฏตรงหน้าของนาง “ขะ ข้า ข้ามีมิติจริงหรือเนี่ย” เฟยเถากระโดดตัวลอยอย่างยินดี นางเพ้อฝันตามนิยายมาตลอด ว่าหากตัวนางมีมิติที่เก็บของได้จะดีเพียงใด แล้ววันนี้นางก็มีจนได้ แต่หากให้ดีกว่านี้ ไม่ควรหลุดเข้ามาในนิยายที่นางต้องเป็นนางร้ายเลย “โสมออกมา” โสมนับสิบหัวปรากฏอยู่บนโต๊ะอาหารของนาง สภาพโสมสดใหม่ ทั้งสมบูรณ์ไร้ที่ติ ราวกับว่านางเก็บอย่างทะนุถนอมแล้วทำความสะอาดอย่างดี มีเพียงเมล็ดแก่ของโสมที่ไม่มีเหลือแล้วก็เท่านั้น “หึหึ รวยแล้ว” นางยิ้มอย่างยินดี อาหารมื้อนี้ต่อให้มีเพียงผักลวกกับข้าวต้มผสมหัวมัน เฟยเถาก็กินมันได้อย่างอร่อย เฟยเถานำผักป่าที่นางเก็บมาด้วยให้กระต่ายน้อยของนางกินจนหมด พรุ่งนี้นางจะเดินทางเข้าเมืองเอาโสมไปขาย นางจะได้ย้ายไปอยู่ให้ห่างจากพระเอกนางเอกเสียที นางเก็บโสมเข้าไปในมิติ ก่อนจะไปล้างตัวแล้วรีบเข้านอน อีกสองวันนางจะเข้าเมืองพร้อมกับหูเจี้ยน วันต่อมา เฟยเถานางนั่งปักผ้าที่เจ้าของร่างเดิมทำเอาไว้ให้เสร็จ เมื่ออาศัยความทรงจำของร่างเดิม การปักผ้าก็ไม่ใช่เรื่องยากของนางอีกต่อไป ลวดลายแปลกใหม่ที่นางร่างขึ้น ยังดูงดงามกว่าที่ฟางเฟยเถานางทำเอาไว้เสียอีก รุ่งเช้าของอีกวัน หูเจี้ยนก็มาที่เรือนของเฟยเถาตามเวลาที่ได้นัดหมาย นางหยิบโสมสองหัวออกมาใส่ตะกร้าโดยเอาผ้าที่นางจะไปส่งวางทับไว้ด้านบนหลบสายตาของผู้อื่น “พี่เจี้ยนท่านมาแล้ว ข้าไปด้วยนะเจ้าคะ” นางยิ้มกว้างอย่างยินดี เมื่อเห็นหูเจี้ยนมาร้องเรียกนาง “เจ้าจะไปด้วยหรือ ได้สิ” เขามองนางอย่างนิ่งอึ้ง น้อยครั้งนักที่เฟยเถานางจะเดินทางออกจากหมู่บ้าน เมื่อสองเดือนก่อน นางไปดักรอพบเจียวเหอที่หน้าสำนักศึกษา ด้วยไม่เห็นเขากลับหมู่บ้านหลายวัน นางคิดว่าเขาไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีในเมือง ที่เจียวเหอมิได้กลับหมู่บ้านหลายวัน เป็นเพราะเขาต้องเดินทางไปสอบจวี่เหรินที่ต่างเมือง แต่เฟยเถานางไม่รู้เรื่องนี้ พอพบหน้าบุรุษที่นางคะนึงหามาหลายวัน นางก็เปิดปากถามเขาไม่หยุดหย่อน และต่อว่าเขาที่แอบมาอยู่กับสตรีในเมือง “แม่นางฟางช่างน่าขันนัก เจ้าเป็นอันใดกับข้าหรือ ถึงได้มาวุ่นวายกับชีวิตของข้าเช่นนี้ สตรีที่ดีไม่วิ่งหึงหวงบุรุษไปทั่วเมืองเช่นที่เจ้ากระทำอยู่ หากแคว้นต้าฉีไร้สตรีแล้ว ข้าก็มิคิดจะแต่งเจ้าเข้าตระกูลอยู่ดี”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม