กระต่ายน้อยนำโชค

1486 คำ
กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกนางผลักออกมาจากเรือน และปิดประตูใส่หน้าเขาเสียแล้ว เป็นจริงเช่นที่เฟยเถานางว่า นางไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นอีกเลยนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง วันนี้เขามาที่เรือนของสหายเพื่อยืมตำรา แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นนางส่งยิ้มหวานให้หูเจี้ยนอยู่ ก่อนหน้านี้นางยังนอนร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา นางไม่คิดจะเรียกร้องให้เขามาสู่ขอ แต่กลับมาส่งยิ้มหวานให้บุรุษอื่น โทสะเจียวเหอพลุ่งพล่านขึ้นจนต้องเดินมาต่อว่านาง เฟยเถา กลับเข้าเรือนอย่างหัวเสีย นางไม่มีทางยอมให้ตนเองต้องมีชีวิตตามเนื้อเรื่องในนิยายแน่ ยิ่งแน่ใจเพิ่มเมื่อนางเอ่ยนามของนางเอกของเรื่องขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาก็คงจะติดต่อกันเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้พระเอกไปได้กับนางเอก นางจะขอใช้ชีวิตในภพใหม่ให้ดี ร่ำรวยเมื่อใดค่อยหาสามีก็ยังได้ เจียวเหอกลับมาถึงเรือนอย่างหงุดหงิด เขาไม่เชื่อในคำพูดของเฟยเถาที่นางไม่ได้สืบเรื่องของเขากับจินเซียน เจียวเหอจึงได้เผาจดหมายที่จินเซียนส่งมาให้เขาทิ้งเสีย ด้วยกลัวว่าเฟยเถาจะนำเรื่องนี้ไปพูดให้ชื่อเสียงของจินเซียนเสียหายได้ เฟยเถาหลบอยู่แต่ภายในเรือนต่ออีกสองวัน เมื่อร่างกายของนางไร้ร่องรอยที่เจียวเหอได้ทิ้งเอาไว้แล้ว นางจึงคิดที่จะขึ้นเขาเพื่อหาของป่า หากได้มากคงแบ่งไปขายนำเงินมาซื้อข้าวสารได้ จะรอให้หูเจี้ยนนำมามอบให้ทุกสองสามวัน นางก็เกรงใจเขา และไม่อยากให้ตระกูลหูดุด่าว่าหูเจี้ยนด้วย รุ่งเช้าของวันใหม่ เฟยเถาสะพายตะกร้าที่นางจัดเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เดินขึ้นเขาที่อยู่หลังเรือนของนางไปตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสว่าง ชาวบ้านยังมีคนออกมาหาของป่าไม่มากนัก ตลอดทางที่เดินไป ไม่มีผู้ใดที่สนใจการมาของเฟยเถาเลย มีเพียงสายตาที่ดูแคลนมองมาทางนาง ชื่อเสียงเรื่องความไร้ยางอาย ที่วิ่งตามเจียวเหอ ทำให้ชาวบ้านไม่ชอบใจในตัวเฟยเถามากนัก สตรีในหมู่บ้านจึงถูกห้ามไม่ให้มาสนิทกับนาง “เช่นนี้ก็ดี จะได้ไม่มีผู้ใดสนใจการมีอยู่ของข้า” เฟยเถาถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกฝั่งของเขา เพื่อไม่ให้หาของป่าใกล้คนอื่น “นางบ้าไปแล้วหรือ ถึงได้เดินไปทางฟากนู้น” สตรีวัยกลางคนมองตามแผ่นหลังของเฟยเถาไปอย่างตกใจ “จะไปสนใจนางเพื่ออันใด ต่อให้นางถูกเสือกัดตายก็คงไม่มีใครร้องไห้ให้นาง” “แต่อย่างไรนางก็เป็นสตรีใช้ชีวิตเพียงลำพังก็ลำบากมากแล้ว การที่นางคิดจะจับอาเหอก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อยู่ จะไม่เตือนนางหน่อยหรือ” “เจ้าอยากเตือนก็วิ่งตามนางไปก็แล้วกัน ข้าไม่ไปด้วย” ตอนนี้มองไม่เห็นแผ่นหลังของเฟยเถาอีกแล้ว อีกอย่างป่าฟากนู้นก็ได้ชื่อว่ามีสัตว์ร้าย นางจะกล้าตามไปได้อย่างไร คงต้องปล่อยไปตามโชคชะตา เฟยเถานางไม่รู้ตัวเลยว่าป่าที่นางเดินเข้ามามีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ นางรู้เพียงแค่มีผักป่าและเห็ดที่กินได้จำนวนมาก นางเก็บจนเพลิดเพลินเพียงไม่นานก็ได้มาถึงครึ่งตะกร้า “หากเอาไปมากกว่านี้ก็คงแบกไม่ไหว” เฟยเถาลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินกลับเรือน แต่พอมองไปรอบๆ ก็เห็นต้นไม้ทุกคนเหมือนกันไปหมด นางลืมทำเครื่องหมายระหว่างเข้ามาเอาไว้ “แล้วจะกลับยังไง” นางลุกขึ้นหาร่องรอยรองเท้าที่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ทำอย่างไรก็ยังมองไม่เห็นว่าจะออกไปจากป่าเช่นใด ในเมื่อรอยเท่าของนางเดินย่ำจนไม่รู้ว่ารอยที่เดินเข้ามาในตอนแรกอยู่ตรงไหน “อะไรน่ะ” เสียงใบไม้ที่อยู่ด้านหลังดังขึ้น เฟยเถาลืมตัวร้องถามออกไปเสียงดัง เป็นกระต่ายป่าสีขาวดวงตาสีแดงก่ำ ที่กระโดดออกมาจากพุ่มไม้ จ้องมองมาที่เฟยเถาด้วยความฉงน “ตกใจหมด เจ้ากระต่ายน้อยตัวอวบอ้วน เจ้าช่วยข้าหาทางออกได้หรือไม่” เฟยเถาหัวเราะขบขันตนเอง จะมีกระต่ายที่ไหนฟังคำพูดของนางรู้เรื่องบางเล่า แต่ในเมื่อมิติที่นางอยู่เป็นนิยาย นางจะคิดหรือทำอะไรออกมาก็ได้โดยไม่ต้องสนใจสิ่งใด กระต่ายกระโดดไปข้างหน้าราวกับมันเข้าใจในสิ่งที่เฟยเถาพูด “เจ้าพาข้าออกไปได้จริงหรือ” นางเดินตามไปอย่างดีใจ เมื่อเห็นรอยเท้าของนางที่เดินเข้ามาในตอนแรกแล้ว ก็หันไปมองกระต่ายป่าอย่างขอบคุณ “ขอบคุณเจ้ามาก เจ้าอยู่ที่นี่หรือ” มันพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู “อืม...ไว้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่ ครั้งหน้าเจ้าพาข้าไปหาของดีด้วยเล่า วันนี้ข้าได้มาเยอะแล้ว” มันพยักหน้าให้อีกครั้ง เฟยเถาเดินเข้าไปลูบขนที่ตัวมันอย่างชอบใจ พร้อมบอกว่าพรุ่งนี้นางจะขึ้นเขามาใหม่ให้มันออกมารอนางตรงที่มันมาส่งนางด้วย “เจ้าอย่าให้ชาวบ้านเห็นเล่า ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะจับเจ้าไปกิน” นางจิ้มจมูกมัน ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากป่าไป เมื่อมาถึงด้านล่างเขา เฟยเถาก็เพิ่งจะรู้ตัวว่านางอยู่ในป่าเป็นเวลานาน พอเดินกลับมาถึงเรือนไม่นานฟ้าด้านนอกก็มืดเสียแล้ว เฟยเถานำเห็นและผักป่าที่ได้นำมาผัด กินกับข้าวต้มใส่เผือกร้อนๆ เพียงเท่านี้ก็ทำให้นางอิ่มท้องได้แล้ว คิดถึงชีวิตก่อนที่มีคนทำให้ทุกอย่างก็ได้แต่นึกเสียดายชีวิต นางได้แต่หวังว่าลุงชุนกับภรรยาของเขา จะสานต่อธุรกิจที่นางทิ้งเอาไว้ต่อไปได้ การตายของนางอาจจะทำให้ลูกค้าทั้งสองบริษัทเกิดเห็นใจขึ้นมาบ้างก็ได้ รุ่งเช้า เมื่อเฟยเถา กินอาหารที่เหลือจากเมื่อคืนเรียบร้อยแล้ว ก็เดินขึ้นเขาไปทันที วันนี้นางมาเช้ากว่าเมื่อวาน จึงยังไม่เห็นชาวบ้านมาหาของป่าเลยสักคน พอเข้าเดินเข้าไปถึงบริเวณที่ร่ำลากระต่ายน้อยเมื่อวานแล้ว ก็เห็นมันนั่งรอนางอยู่ทันที “เจ้าฟังข้ารู้เรื่องจริงด้วย” นางนั่งยอง ๆ ลูบตัวของมันเล่น “เจ้าอยู่ในป่า ต้องรู้แน่ว่าที่ใดมีของดี เจ้าพาข้าไปดูได้หรือไม่ เอาของที่นำไปขายได้เงินเยอะๆ เลยนะ” นางพูดกับกระต่ายราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว แต่กระต่ายน้อยก็ยังพยักหน้ารับ พร้อมกับกระโดดนำทางไปด้านหน้า เฟยเถาเดินตามหลังมันไปอย่างยินดี ไม่รู้ว่าเดินไปไกลเพียงใด กระต่ายน้อยมาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง กองหินที่อยู่ด้านข้างของต้นไม้ มีโสมแก่ออกเมล็ดสีแดงแล้วอยู่นับสิบต้นเห็นจะได้ “สวรรค์!!! โสม โสมจริงหรือ เจ้ากระต่ายน้อย เจ้าเป็นตัวนำโชคของข้า” นางอุ้มกระต่ายน้อยขึ้นมาหอมหลายหนอย่างดีใจ “ข้าจะเก็บ...กะ เก็บ...หายไปไหนแล้ว” เฟยเถาเพิ่งจะนั่งลงลูบต้นโสมอย่างยินดี แต่แล้ว โสมตรงหน้าของนางก็หายไปจนหมด แม้แต่กระต่ายที่อยู่ด้านข้างนาง ยังกระโดดถอยห่างไปด้วยความตกใจ “หะ หายไปไหน หายไปได้อย่างไร” นางนั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรง จ้องมองพื้นดินตรงหน้าที่ว่างเปล่าอย่างเสียดาย “มันยังมีอีกหรือไม่” นั่งหันไปถามกระต่ายที่เดินกลับมาอยู่ข้างนางแล้ว เมื่อเห็นกระต่ายน้อยส่ายหน้า เฟยเถาก็เกือบจะร้องไห้ออกมา กองเงินตรงหน้าเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่นี่มันเป็นโลกของนิยาย นักเขียนคงกำลังกลั่นแกล้งนางอยู่แน่ ๆ เฟยเถาลุกขึ้นเดินกลับไปทางเดิม นางเก็บผักป่าและหัวมันกลับไปทำอาหารเช่นเดิม หากยังรั้งอยู่ต่อ ฟ้าก็คงจะมืดเสียก่อน นางไม่อยากนอนไหนป่า “ไว้ครั้งหน้าข้าจะมาหาเจ้าใหม่” นางหมดอารมณ์จะคุยเล่นแล้ว จึงได้คิดที่จะกลับเรือน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม