เจียวเหอที่รออยู่ด้านนอก ก็เห็นสีหน้าซีดขาวของหูเจี้ยนที่เดินตามหลังใบหน้ายิ้มแย้มของเฟยเถาออกมา
“พี่เจี้ยนหากท่านยังเป็นเช่นนี้ ข้าไม่ไปพร้อมท่านแล้ว” นางกลัวว่าเขาจะเรียกโจรมาปล้นนางเสียก่อน
แม้เงินทั้งหมดจะอยู่ในมิติแล้วก็ตาม แต่ที่ตัวของหูเจี้ยนยังมีอยู่อีกถึงหนึ่งพันตำลึงทอง
“ขะ เข้าใจแล้ว”
“ไปเร็วรีบไปส่งผ้า ข้าจะซื้อของกลับเรือนเสียหน่อย” นางอยากจะใช้เงินจะแย่อยู่แล้ว
พอถึงร้านผ้า เฟยเถานางนำผ้าที่ปักเสร็จแล้วไปส่งได้เงินมาสองร้อยอิแปะ นางเก็บในถุงเงินใบน้อยของนางอย่างพอใจ ก่อนจะเลือกซื้อผ้ากลับไปตัดชุดใส่เอง
“คุณหนูของข้า ต้องการผ้าผืนนี้” ผ้าที่มือของเฟยเถาถูกแย่งไปจากมือของนางอย่างไร้มารยาท
“ก็เห็นอยู่ว่าข้าสนใจผ้าผืนนี้ คุณหนูของเจ้าอยู่ที่ใด ถึงได้มาสนใจผ้าก่อนหน้าข้าได้”
“บังอาจ!!! เจ้ามิรู้หรือว่าคุณหนูของข้าเป็นผู้ใด ผ้าผืนนี้มีราคาหลายสิบตำลึงทอง สตรีชาวบ้านเช่นเจ้ามีปัญญาซื้อหรือ” นางปรายตามองเฟยเถาอย่างดูแคลน
เฟยเถากลอกตาอย่างเบื่อหน่าย มุกไม่รู้จักตัวเองมันมีมาตั้งแต่ยุคโบราณเลยหรือ
“เจ้ายังไม่รู้เลยว่าคุณหนูของเจ้าเป็นผู้ใด แล้วมาถามกับข้าเพื่ออันใด” เฟยเถาเลิกคิ้วขึ้นอย่างยียวน
“เจ้า!!!” สาวใช้ยกมือขึ้นสูงเพื่อจะตบหน้าของเฟยเถา นางเองก็รอรับอยู่แล้ว โดยไม่คิดจะหลบเลี่ยง แต่ไม่คิดว่าหูเจี้ยนจะเอาตัวเข้ามาบังเอาไว้
“พี่เจี้ยน!!!” เฟยเถาหันไปมองสาวใช้อย่างโกรธแค้น นางเดินเข้าไปถีบสาวใช้จนล้มไปกองอยู่กับพื้น
“เจ้ากล้าทำข้าหรือ” นางกุมท้องด้วยความเจ็บปวด
“ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าคุณหนูจวนใดที่ปล่อยให้สาวใช้กำเริบเสิบสานเช่นนี้ หรือว่าเป็นองค์หญิงของฮ่องเต้ ถึงได้วางอำนาจกับชาวบ้านเช่นข้า”
ถังจินเซียนนางมาซื้อผ้ากับสาวใช้ แต่เห็นเจียวเหออยู่ที่หน้าร้านนางจึงหยุดพูดคุยกับเขา พอได้ยินเสียงโวยวายในร้านจึงได้เดินเข้ามาเพื่อดู ก็มาทันได้ยินคำพูดของเฟยเถาเข้า นางเองก็ไม่พอใจเช่นกันที่มีคนมารังแกสาวใช้ของนาง
“แม่นางท่านนี้ ไม่ทราบว่าสาวใช้ของข้าทำอันใดผิด”
“อ้อ...สาวใช้ของเจ้าหรือ ข้าเห็นว่านางไม่มีมารยาทจึงสั่งสอนนางให้แทน หากเจ้า...”
“ฟางเฟยเถา!!! หุบปากของเจ้าเสีย” เจียวเหอเดินเข้ามาขวางหน้าอยู่ด้านหน้าของถังจินเซียน
“หึหึ คุณหนูถังสามนี่เอง ข้าก็คิดว่าผู้ใด” นางมองเจียวเหออย่างดูแคลน
“หากเจ้าจะหาเรื่องผู้อื่นเช่นนี้ก็กลับไปเสีย”
“อ้อ...เจ้าเห็นตั้งแต่แรกหรือไม่ หากไม่เห็น...ก็หุบปากเจ้าเสีย หากเจ้าคิดจะปกป้องนาง ข้าก็ไม่ยุ่ง แต่เจ้าควรจะสืบความเสียก่อนว่าผู้ใดผิด พี่เจี้ยนกลับเถิด ข้าไม่อยากได้ผ้าแล้ว”
“หยุด!!! เจ้ายังไปไม่ได้ เจ้าต้องขอโทษคุณหนูถังก่อน ที่เจ้าทำร้ายสาวใช้ของนาง” เจียวเหอเดินขึ้นมาขวางหน้าเอาไว้
“จางเจียวเหอ คิดว่าตนเองเป็นผู้ใด ฮ่องเต้จะลงโทษคนยังต้องสืบความเสียก่อน เจ้าถามผู้ใดในร้านก็ยังได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด หากให้ข้าขอโทษนาง” เฟยเถาชี้นิ้วไปที่ถังจินเซียนและสาวใช้ “รอให้เจ้าได้เป็นฮ่องเต้ก่อนก็แล้วกัน”
คำพูดของเฟยเถาที่ยกฮ่องเต้ขึ้นมากล่าวอ้าง น้อยคนหนักที่จะใจกล้าเช่นนาง เจียวเหอกับจินเซียนก็ถูกคำพูดของนางปิดปากจนสนิทไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา
“น่าสนใจไม่น้อย สตรีชาวบ้านวาจาเก่งกาจเช่นนี้เป็นผู้ใดกัน” บุรุษรูปงาม ทั่วตัวของเขาแผ่กระจายอำนาจที่มีตั้งแต่กำเนิดออกมา
“ข้าน้อยจะไปสืบให้ขอรับ” องครักษ์ข้างกายเอ่ยออกมาอย่างรู้ใจ
หูเจี้ยนที่อยู่ภายในร้าน มองใบหน้าของเจียวเหออย่างผิดหวัง
“หึ อาเหอ ข้าคิดว่าเจ้าเป็นบัณฑิตที่ควรยกย่องเสียอีก สาวใช้นางนี้เดินเข้ามาก็แย่งผ้าไปจากมือของเถาเถา แล้วยังจะทำร้านนางก่อน หากข้าไม่เอาตัวเข้ามาขวาง เจ้าว่ารอยนิ้วมือบนหน้าข้าจะไปอยู่บนหน้าผู้ใด เถาเถาถีบนางก็เพราะโมโหแทนข้า ที่นางพูดออกมาทุกคำข้าล้วนแต่เห็นด้วย เถาเถา...รอข้าด้วย” หูเจี้ยนพูดจบก็รีบเร่งฝีเท้าวิ่งตามเฟยเถาออกไป
เจียวเหอได้แต่ยืนมองทั้งสองไปอย่างตกตะลึง ครั้งนี้เขาผิดเองที่ตำหนินางก่อนจะเอ่ยถามเรื่องราว คิดว่าเฟยเถานางรู้ว่า สาวใช้ผู้นี้เป็นคนของถังจินเซียนนางจึงทำร้ายเสียอีก
จินเซียนก็จ้องมองสาวใช้ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว นางอุตส่าห์วางตัวดีต่อหน้าเจียวเหอมาตลอด ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียหายเพราะสาวใช้ข้างกายของนาง
“กลับไปข้าจะขายเจ้าทิ้งเสีย สาวใช้ไม่รู้ความ ทำให้จางจวี่เหรินเห็นเรื่องขบขันแล้ว ข้าจะตามไปขอโทษแม่นางฟางเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้อง นางเป็นภรรยาข้า ข้าจัดการเอง”
“ห๊ะ!!! นะ นาง นางเป็นภรรยาท่านหรือ ข้าไม่เคยได้ยินว่าท่านแต่งงานแล้ว” ใบหน้าของจินเซียนซีดขาวอย่างไม่น่ามอง
เมื่อครู่นางยังดีใจที่เจียวเหอปกป้องนางอยู่เลย แต่พอไม่ถึงหนึ่งเค่อ (ประมาณ15นาที) เขาก็บอกเรื่องที่ทำให้นางถึงกับใจสลาย
จางเจียวเหอสอบได้จวี่เหรินอันดับหนึ่ง ทั้งยังรูปงามเป็นที่หมายปองของสตรีในเมืองหูหนาน หากเขามีภรรยาแล้ว นางย่อมจะได้ยินเรื่องนี้แน่นอน
“ข้าแต่งกับนางเงียบๆ ไม่มีผู้ใดรู้ก็ไม่แปลก หวังว่าคุณหนูถังจะดูแลสาวใช้ให้ดีกว่านี้ อย่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดอีก” เจียวเหอเร่งฝีเท้าออกไปจากร้านขายผ้าทันที แต่ออกมาก็ไม่เห็นร่างของเฟยเถาแล้ว
เฟยเถากับหูเจี้ยน เข้าไปซื้อผ้าอีกร้านหนึ่ง อย่างไรนางก็อยากได้ผ้าใหม่กลับเรือน
“ข้าต้องการผ้าที่แพงที่สุดสีของสตรีห้าพับ สีของบุรุษอีกห้าพับ”
“เจ้าจะซื้อให้อาเหอหรือ” หูเจี้ยนเอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ท่านว่าข้าควรต้องซื้อให้เขาหรือไม่ ซื้อให้ท่านอย่างไรเล่า”
“ไม่ต้องที่เจ้าให้ข้ามาก็ไม่น้อยแล้ว ค่าผ้าข้าจ่ายเอง”
“ตามใจ ท่านซื้อฝากท่านป้าเสียหน่อยก็ดี”
“ได้ๆ”
หูเจี้ยนหันไปสั่งผ้าเพิ่มให้มารดาและซื้อผ้าเนื้อหยาบไว้ใส่ทำงานอีกหลายพับ เขาจ่ายเงินไปถึงสามสิบตำลึงทอง หูเจี้ยนซื้อผ้าไหมเนื้อดี ที่ไม่แพงมากนัก หากซื้อตามที่เฟยเถานางสั่ง ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายมากเพียงใด
ของเฟยเถาไม่ต้องพูดถึง นางจ่ายไปเป็นเกือบร้อยตำลึงทอง นางยังซื้อผ้าเนื้อหยาบเอาไว้ใส่ทำงานเรือนอีกอีกสามพับ และยังเลือกผ้าสำหรับตัดตู้โตวเพิ่มอีกหลายพับ ต่อให้ซื้อไปมากนางก็ไม่กลัว อย่างไรนางก็มีที่เก็บของนาง โดยไม่ให้ผู้อื่นเห็น นางยังซื้อข้าวสาร เครื่องปรุงและเนื้อสัตว์อีกไม่น้อย ก่อนที่จะกลับเรือน
“ข้าจะไปเช่าเกวียนเพื่อกลับหมู่บ้าน” ข้าวของที่ซื้อไม่น้อยเลย ไม่อาจจะกลับพร้อมเกวียนของลุงไห่ได้
“พี่เจี้ยน ท่านเช่ารถม้าเถิด ข้านั่งเกวียนไม่ไหว”
“ได้ๆ”
เจียวเหอที่เดินตามหาคนทั้งสองไปทั่วก็มาพบเฟยเถากำลังซื้อของกินเล่นอยู่ข้างทางเพียงลำพัง
“เถาเถา” เขาเอ่ยเรียกนางเสียงเบา
เฟยเถาหันไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นเจียวเหอนางก็หันกลับไปไม่สนใจเขา
“เมื่อครู่เป็นข้าที่ไม่ดีเอง ไม่ได้สอบถามเรื่องราวกับเจ้าก่อน ข้า ข้าขอโทษ”
“หึ ท่านมาขอโทษข้าเช่นนี้ เพื่อให้ข้ากลับไปขอโทษนางหรือ” นางหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ
“มิใช่ หากข้าสอบถามเรื่องราวให้ดีก่อน ข้าไม่มีทางพูดกับเจ้าเช่นนั้นแน่นอน”
“เจียวเหอ ตรงนี้ไม่มีผู้ใด ท่านไม่จำเป็นต้องพูดดีกับข้า คำขอโทษของท่านข้ารับเอาไว้ก็แล้วกัน แต่ต่อไป...ท่านอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับข้าอีกเลย”