เมื่อเห็นว่าเฟยเถาไม่อยากพูดเรื่องในร้านผ้า เจียวเหอจึงเอ่ยถามเรื่องที่นางไปโรงหมอกับหูเจี้ยนขึ้นมา
“เจ้าไปที่โรงหมอเพื่ออันใด หรือว่าเจ้าท้องจริงเช่นที่ป้าเถียนว่า...ผู้ใดเป็นบิดาของเด็กในท้องเจ้า”
“เหอะ...ท่านเสียสติหรือ” นางถลึงตามองเขา ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มจะหันมามองนางแล้ว
งานถนัดของเขาจริงๆ ที่ทำให้นางต้องขายหน้าต่อหน้าผู้อื่น
“ตอบข้ามา”
“จางเจียวเหอ ในท้องข้าจะมีเด็กหรือไม่ หรือผู้ใดเป็นบิดาของเขา มันไม่เกี่ยวกับท่าน” นางเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา
เสียงของหูเจี้ยนดังขึ้นมาเสียก่อน ที่เจียวเหอจะพูดอะไรออกมา
“เถาเถา ข้ามาแล้ว”
เฟยเถาหันไปจ่ายเงินค่าของว่าง นางเดินไปหาหูเจี้ยนเพื่อช่วยเขายกของขึ้นรถม้า ยังมีอีกหลายร้านที่จ้องแวะไปเอาของ แต่ไม่คิดว่าเจียวเหอจะเดินขึ้นรถม้ามาด้วย
“เจ้าไปเอาเงินมากมายมาซื้อของพวกนี้ได้อย่างไร”
“พี่เจี้ยนซื้อให้” นางตอบแบบไม่ใส่ใจ
“เอ่อ...” หูเจี้ยนคิดจะโต้แย้งแต่ถูกสายตาของเฟยเถาห้ามเอาไว้
“อาเจี้ยนต่อไปเจ้าไม่ต้องวุ่นวายเรื่องของภรรยาข้าแล้ว”
“ห๊ะ!!!/ห๊ะ!!!” เฟยเถาและหูเจี้ยนร้องออกมาพร้อมกัน
“ท่านมันบ้าไปแล้วหรือไง” นางจำได้ว่าเขาเองที่เป็นคนรังเกียจนาง แต่กลับมาพูดต่อหน้าคนอื่นเช่นนี้เพื่ออะไร
“ข้าพูดเรื่องจริง”
“เถาเถา หมายความเช่นใด อาเหอเจ้าพูดอันใดออกมา” หูเจี้ยนใบหน้าซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด
“อย่าไปฟังเขา”
“หรือว่าเจ้าก็เป็นสามีนางอีก...” ฝ่ามือของเฟยเถาตบไปที่ใบหน้าของเจียวเหอเต็มแรง
“ท่านดูถูกข้าเกินไปแล้ว ที่ผ่านมาข้าอาจจะเป็นฝ่ายไร้ยางอายที่วิ่งตามท่านไปทั่ว แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องการแล้ว ท่านเองก็ดูจะต้องการเช่นนี้ เหตุใดยังพูดจาดูแคลนข้าออกมาอีก” ดวงตาของเฟยเถาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
“ขะ ข้า” เจียวเหอนิ่งเงียบไปทันที เขาพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นแววตาเย็นชาของนาง เฟยเถาเดินออกไปนั่งด้านหน้าคู่กับคนบังคับรถม้า หากนางนั่งอยู่ต่อคงได้ทุบตีเจียวเหอแน่
“อาเหอ ถึงแม้ข้าจะชอบเถาเถาเพียงใด แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำให้นางเสื่อมเสีย ข้ามิได้มีความรู้เช่นเจ้า แต่ข้าก็ยังรู้วาจาที่เจ้าพูดออกมาไม่เหมาะสมนัก”
“แล้วพวกเจ้าไปโรงหมอเพื่ออันใด”
“เถาเถานางไม่อยากให้ข้าพูด แต่ในเมื่อเจ้าสงสัยเรื่องนางกับข้า ข้าเองก็จะพูดเพื่อไม่ให้เจ้าเข้าใจผิด”
หูเจี้ยนบอกเรื่องที่เฟยเถานางพบเจอสมุนไพรบนเขาแล้วนำมาขาย แต่ไม่ได้บอกว่านางขายได้มากน้อยเพียงใด
“แล้วเจ้าเป็นสามีของเถาเถาจริงหรือ” หูเจี้ยนเอ่ยถามเสียงสั่น
“อืม ข้าเป็นสามีนาง”
“เมื่อไหร่กัน ได้อย่างไร เหตุใดข้าไม่รู้ หากเจ้าเป็นสามีเถาเถา เหตุใดเถาเถาถึงได้ดูเหมือนรังเกียจเจ้านักเล่า” เขาไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเจียวเหอ
“เพราะข้าไม่ดีกระมัง” แม้ยามที่รังแกนางบนเตียง เขายังด่าทอนางเสียๆ หายๆ แล้วนางจะไม่นึกรังเกียจเขาได้อย่างไร
ตลอดทางที่กลับหมู่บ้าน เจียวเหอและหูเจี้ยนไม่พูดสิ่งใดกันอีกเลย รถม้าเข้ามาในหมู่บ้านชาวบ้านย่อมแตกตื่น ยิ่งมาหยุดที่เรือนของเฟยเถายิ่งสงสัยไปกันใหญ่ว่านางมากับผู้ใด
พอเห็นว่าเป็นหูเจี้ยนและเจียวเหอที่ลงมาช่วยนางขนของเขาเรือน เสียงนินทาของชาวบ้านก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย เฟยเถานางจะสนใจเพื่ออันใด เมื่อขนของเสร็จนางก็ปิดประตูเรือน ทิ้งให้หูเจี้ยนและเจียวเหอยืนนิ่งอยู่ที่หน้าเรือนของนางทันที
หูเจี้ยนยังต้องนำทางรถม้าไปลงของที่เรือน จึงไม่ได้รั้งอยู่ต่อ มีเพียงเจียวเหอที่รอจนชาวบ้านสลายตัวไปแล้ว เขาก็เริ่มเคาะประตูเรียกเฟยเถาอีกครั้ง
“มีอันใด” นางมองเขาอย่างเย็นชา
“ข้าขอเข้าไปหน่อย”
“พูดตรงนี้เลย”
นางยืนขวางเอาไว้ไม่ให้เจียวหัวเข้าเรือน แต่ถูกเขาดึงแขนแล้วพาเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูลงเพื่อปิดบังสายตาของชาวบ้าน
“จางเจียวเหอ มันจะมากไปแล้วนะ”
“ข้าจะต้องย้ายไปเรียนที่เมืองหลวงในอีกสองเดือนข้างหน้า ก่อนหน้าที่จะไปข้าจะส่งแม่สื่อมาสู่ขอเจ้าให้เรียบร้อย”
“อะ อะไรของท่านกัน ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้อง”
“ต่อให้เรื่องคืนนั้น เป็นแผนการที่เจ้าวางไว้ อย่างไรข้าก็ต้องรับผิดชอบ”
“ข้าพูดกับท่านจากใจจริงของข้าเลยนะ ข้าไม่ต้องการให้ท่านรับผิดชอบ ไม่ว่าตอนนี้หรือภายหน้า ต่อให้ท่านได้เป็นขุนนางตำแหน่งใหญ่โต ก็ไม่ต้องห่วงว่าข้าจะไปเรียกร้องสิ่งใด หากท่านพึงใจในตัวคุณหนูถัง ท่านแต่งกับนางได้อย่างสบายใจ ข้าไม่ขัดขวางแน่นอน”
“ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าพึงใจในตัวคุณหนูถัง” เขาขมวดคิ้วอย่างมึนงง
“เอ่อ...ก็เจ้าออกหน้าปกป้องนาง” เฟยเถาคิดแก้ตัวได้เพียงแค่เรื่องในวันนี้
“ข้าไม่ได้ปกป้องนาง ที่ผ่านมาสตรีทุกคนที่เจ้าใกล้ก็ล้วนแต่เป็นเจ้าที่เป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายพวกนางก่อน ครั้งนี้ข้ายอมรับว่าตัดสินเจ้าโดยไม่เอ่ยถามความก่อน เป็นข้าที่ผิดเอง และข้าก็บอกนางแล้วว่าเจ้าคือภรรยาของข้า”
“ห๊ะ!!! เจ้าไม่กลัวนางเสียใจหรือไง เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ” นั่นนางเอกเลยนะ
“อันใดของเจ้า ก็ข้าบอกแล้วไงว่าข้ากับคุณหนูถังมิได้เป็นอันใดกัน”
“จางเจียวเหอ การตัดสินใจของท่านในวันนี้จะทำให้ท่านนึกเสียใจในภายหลัง เอาเช่นนี้...ท่านเดินทางไปเมืองหลวงเสียก่อน เมื่อท่านได้ตำแหน่งขุนนางอย่างที่หวัง วันนั้นท่านยังนึกถึงข้าอยู่ค่อยหารือกันอีกครั้ง”
ตามเนื้อเรื่องในนิยาย ฟางเฟยเถาถูกทิ้งไว้อยู่ที่หมู่บ้าน หลังจากเจียวเหอได้เป็นขุนนางสมใจ เขาแต่งจินเซียนเป็นภรรยาเอก และส่งคนมารับเฟยเถาไปเป็นอนุ หากจะไม่รับนางไปเป็นอนุก็ไม่ได้ ด้วยเฟยเถาโวยวายให้เจียวเหอเขียนหนังสือสัญญาทิ้งไว้ให้นางก่อนจะเดินทางไปเมืองหลวง
“ไม่ต้อง เจ้าแต่งให้ข้าเลย แล้วย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงกับข้า”
“ใจเย็นๆ ท่านต้องค่อยๆ ไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดีๆ ในเมืองหลวงมีสาวงามล่มเมืองไม่น้อย ท่านอาจจะต้องตาสักคน ถึงวันนั้นท่านจะจัดการข้าเช่นใด สังหารข้าทิ้งให้พ้นทาง หรือโยนให้ข้าไปเป็นอนุ” ทั้งหมดคือสิ่งที่เจียวเหอทำกับฟางเฟยเถาในนิยาย
“เจ้าคิดว่าข้าลุ่มหลงสาวงามเช่นนั้นหรือ”
“ข้าพูดเผื่อเอาไว้ มันเป็นเรื่องดีสำหรับท่านด้วยเห็นหรือไม่ คิดตามข้า...หากมีวันนั้นที่ท่านพบเจอคนที่ท่านชอบจากใจจริง ข้าจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด ท่านเองก็จะได้ไม่มีเชือกมารั้งคอเอาไว้” นางพยายามยกเหตุใดที่ฟังขึ้นมาเอ่ยอ้างกับเขา
แต่เสียงร้องเรียกโวยวายอยู่หน้าเรือน ทำให้การเจรจาของทั้งสองหยุดลงเสียก่อน
“ท่านแอบให้ดีเล่า อย่าได้โผล่ออกมา” นางไม่อยากให้ผู้ใดมาเห็นว่านางอยู่กับเจียวเหอตามลำพังในเรือนของนาง
“อืม” เขาพอจะเข้าใจเรื่องชื่อเสียงของสตรี แต่เฟยเถานางไม่มีชื่อเสียงดีๆ ให้เสียอีกแล้ว
เฟยเถาไปเปิดประตูเรือน ก็เห็นคนตระกูลหูพากันมาที่เรือนของนางกันหมด แม้แต่ผู้นำหมู่บ้านลุงหู บิดาของหูเจี้ยนก็มาด้วยเช่นกัน
“เอ่อ...มากันทำไมเจ้าคะ” นางหันไปมองหูเจี้ยนเพื่อขอคำตอบ
“เข้าไปคุยด้านในก่อนเถิด”
ป้าหูคล่องแขนเฟยเถาอย่างสนิทสนม จนนางเองก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ยอมพาคนทั้งหมดเข้ามาในเรือน
“อาเจี้ยนบอกเรื่องเงินกับข้าแล้ว เหตุใดเจ้าถึงต้องมอบเงินให้เขามากเพียงนี้” ลุงหูเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย