พูดได้ไง

1501 คำ
เรื่องประหลาดที่สุด ที่ทำให้เจียวเหอเริ่มสงสัยในตัวเฟยเถาก็คงเป็นเรื่องที่นางไม่รู้จักทะเบียนรับรองตัวตนและเทียบชะตา หากเป็นเฟยเถาเมื่อก่อนนางจะต้องยินดีเป็นแน่ที่เขายื่นเทียบชะตาของตนให้นางเก็บรักษาเอาไว้ มันเท่ากับเป็นการยืนยันแล้วว่า เขาจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาอย่างแน่นอน ต่อให้บอกว่าไม่รู้หนังสือ ทุกคนในแคว้นต้าฉีย่อมต้องรู้จักของสองสิ่งตั้งแต่เกิด แต่นางไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด เจียวเหอจึงได้โกหกเรื่องที่นางเคยขอให้เขาช่วยจัดการทะเบียนยืนยันตัวตนใบใหม่ขึ้นมา เฟยเถาเองก็ดูเหมือนจะจำไม่ได้ว่านางเคยพูดเอาไว้หรือไม่ แต่ก็ยังไปหามาให้อย่างว่าง่าย นับว่าแปลกเกินไปสำหรับเจียวเหอ พอเจียวเหอกลับมาถึงเรือนของเฟยเถา เขาก็เริ่มฝนหมึกทันที เฟยเถาเขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆ อย่างสนใจ ชีวิตก่อนของนางไม่เคยเขียนพู่กันมาก่อน “วนไปทางเดียวกัน หากน้ำหมึกข้นเกินไป เจ้าเติมน้ำเพิ่มได้ ลองดู” เจียวเหอเองก็สอนอย่างใจเย็น เฟยเถารับมาอย่างยินดี นางค่อยๆ เลียนแบบเจียวเหอช้าๆ แต่มันไม่ง่ายเช่นที่คิด แท่งหมึกในมือของนางไม่ไหลลื่นเช่นที่เจียวเหอทำ “ลงน้ำหนักมือเสียหน่อย” เขาจับมือนางเอาไว้ ก่อนจะฝนหมึก “อืม...มันดูง่ายกว่าที่ข้าทำเสียอีก” สายตาของเฟยเถาจดจ่ออยู่ที่แท่นหมึก ดูว่าน้ำหมึกใช้ได้แล้วหรือยัง “เท่านี้ใช้ได้แล้ว” เจียวเหอหยิบพู่กันส่งให้เฟยเถาถือเอาไว้ เขากางกระดาษออกแล้วใช้ท่อนไม้เล็กๆ ทับเอาไว้ให้เรียบ “ใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลางจับพู่กัน สามนิ้วนี้เป็นนิ้วหลักเวลาเขียน นิ้วนางกับนิ้วก้อยอยู่ด้านล่าง คอยประคองพู่กัน จับพู่กันช่วงกลางด้าม ให้ตัวพู่กันตั้งตรงเป็นเส้นฉากกับโต๊ะเสมอเวลาเขียน เวลาเขียนใช้มืออีกข้างช่วยรองรับ หรือจะยกข้อมือขึ้นสูงก็ได้” เจียวเหอจับมือเฟยเถาสอนวิธีจับพู่กัน เจียวเหอสอนอ่านตัวอักษรในตำรา และสอนเขียนอย่างใจเย็น เฟยเถานางก็ตั้งใจเต็มที่ ในตอนแรกเขาก็ยังประคองมือของนางให้จับพู่กันให้ถูกวิธีให้ได้ก่อน พอเห็นนางเริ่มจะทำได้ก็ปล่อยให้นางได้เขียนเอง “น่าเกลียดนัก” เฟยเถาเขียนจนเกือบจะเต็มแผ่นกระดาษ เจียวเหอก็บอกให้นางหยุดพักเสียก่อน “ครั้งแรกเท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว” เขาอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เฟยเถานางเรียนรู้ตัวอักษรได้เร็วยิ่งนัก ทั้งยังเริ่มอ่านตามได้หนึ่งรอบ โดยที่ไม่ผิดแม้แต่ตัวเดียว “อืม...ท่านหิวแล้วหรือยัง” “หิวแล้ว” เจียวเหอพยักหน้ารับ หากนางไม่ถามเขาก็คงลืมไปเลยว่าถึงมื้อกลางวันแล้ว “รอข้าประเดี๋ยว ข้าจะไปทำอาหารอร่อยมาให้ท่านอาจารย์กิน” เฟยเถายิ้มจนตาหยี ลักยิ้มสองข้างของนางปรากฏออกมาให้เห็น “อืม” เจียวเหอจ้องมองจนพยักหน้ารับอย่างไม่รู้ตัว เมื่อก่อนเขาไม่เคยสังเกตเลยว่านางมีรอยยิ้มที่น่ามองเช่นนี้ เฟยเถานางหุงข้าวสวย แล้วทำอาหารมาขึ้นโต๊ะสองสามอย่าง นางไม่ลืมที่จะเตรียมผักสดมาให้ไป๋ไป๋ด้วย “เอ๊ะ” ตอนที่เฟยเถากำลังจะยกอาหารออกมา สายตาของนางเหลือบไปเห็นแท่งถ่านที่มอดแล้วในเตาไฟ “ใช้แทนดินสอได้ ข้าลืมไปได้อย่างไร” นางตบหน้าผากตนเองเสียงดัง เจียวเหอที่ตามมาดูนางที่ห้องครัว เผื่อว่ามีสิ่งใดที่เขาพอจะช่วยได้ จึงได้เห็นคำพูดประหลาดและท่าทางของนางพอดี แต่มิได้เข้าไปขัด ได้แต่มองนางอยู่ด้านนอกเงียบๆ “ท่านมาพอดี ยกอาหารออกไปได้หรือไม่ ข้าจะไปจัดการอันใดเสียหน่อย” “ไปเถิด” เจียวเหอก้าวเข้ามาในครัวยกอาหารออกไปที่ห้องโถง เฟยเถานางกลับเข้ามาในห้องของนาง นางจำได้ว่าเก็บเศษผ้าที่เหลือจากทำชุดชั้นในเอาไว้ เมื่อหาเศษผ้าที่ยาวพอดีได้แล้ว นางก็นำมาพันแท่งถ่านเอาไว้ ยามเขียนจะได้ไม่เลอะมือ “อันใดของเจ้ากัน” เจียวเหอตกตะลึงไม่น้อย ที่เห็นนางนำเศษผ้าไหมราคาหลายสิบตำลึงทองมาพันแท่งถ่านเอาไว้ “กินข้าวเสร็จข้าจะลองใช้ให้ท่านดู กินเร็ว” นางส่งตะเกียบให้เขา ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นแล้วเริ่มกิน “ชาเข็มเงินจุนซาน (มีต้นกำเนิดในหูหนาน ให้น้ำชาสีเหลือง ตัวชามีกลิ่นหอมของดอกไม้ และผลไม้ พร้อมกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนๆ) เจ้าซื้อมาจากร้านใด เหตุใดรสชาติดีถึงเพียงนี้” เจียวเหอไม่แปลกใจหากในเรือนของเฟยเถาจะมีชาเข็มเงินจุนซาน ในหูหนานบ้านใดก็มีชาชนิดนี้อยู่ เพียงแต่รสชาติชาที่เฟยเถาชง แตกต่างจากโรงน้ำชาหรือที่อื่นมากเกินไป “ก็ร้านชาในเมือง อืม...อร่อยจริงด้วย” เฟยเถาเผลอเลียริมฝีปาก รสชาติชาดูจะหวานกว่าเดิมเสียอีก หรือว่าเป็นเพราะนางนำชาออกมาจากมิติถึงได้มีรสชาติดีเช่นนี้ แต่จะเป็นไปได้หรือ ชาที่นางซื้อมามีหลายกล่อง นางเพิ่งจะเปิดกล่องใหม่วันนี้ จึงเอาที่เก็บไว้ในมิติออกมา เจียวเหอเห็นลิ้นน้อยๆ ของเฟยเถาที่ยื่นออกมาเลียริมฝีปาก เขาก็เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว พอได้สติเขารีบยกชาขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว “หากท่านชอบ ข้าจะยกให้ท่านกล่องหนึ่งก็แล้วกัน” นางมีหลายกล่อง พรุ่งนี้จะเข้าเมืองไว้ซื้อมาเพิ่มก็ได้ “อืม...ขอบใจเจ้ามาก” ทั้งสองนั่งดื่มชาเงียบๆ อยู่ครู่ เฟยเถานางลุกขึ้นเก็บถ้วยชามไปล้าง ก่อนจะเดินกลับมาหัดคัดตัวอักษรต่อ “นะ นี่” มิใช่ว่าเจียวหัวจะไม่เคยเห็นคนใช้แท่งถ่านเขียนตัวอักษร แต่ท่าทางการเขียนอย่างคล่องแคล่วของเฟยเถาทำให้เขาควบคุมความตกใจเอาไว้ไม่อยู่ “ข้าใช้พู่กันไม่ถนัด ใช้แท่งถ่านแทนก็แล้วกัน” ดูเหมือนว่าเฟยเถาไม่ได้สนใจเจียวเหอที่มองนางด้วยสายตาค้นหา การเขียนของเฟยเถาไหลลื่น ตัวอักษรที่ออกมาก็งดงามราวกับว่ามิใช่ครั้งแรกของนางที่เขียน เจียวเหอได้แต่มอง แต่ไม่ได้เอ่ยถามออกมา “หากเจ้าชอบใช้แท่งถ่าน ต่อไปก็ทำให้มันน่ามองกว่านี้เสียหน่อย” “ข้าก็คิดเช่นท่าน เอาไว้ข้าค่อยหาหนทางก็แล้วกัน ท่านจะกลับเลยหรือไม่” เฟยเถามัวแต่คัดอักษรจนลืมเวลาไปเลย เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้าด้านนอกก็เริ่มจะมืดแล้ว “ยัง กินมื้อเย็นกับเจ้าก่อน” “ได้ เช่นนั้นข้าไปเตรียมก่อน” เจียวเหอช่วยเก็บของบนโต๊ะให้นาง เขาลองใช้แท่งถ่านเขียนเช่นที่เฟยเถาทำ ก็ดูเหมือนว่าจะเขียนได้ไม่ดีเท่ากับนาง ดูเหมือนอะไรๆ ที่เกี่ยวกับตัวนางก็ล้วนจะแปลกประหลาดไปเสียหมด ราวกับว่า...ไม่ใช่ฟางเฟยเถาคนเดิม แววตาของเจียวเหอวูบไหวอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะกลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม หลังจากกินมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว เจียวเหอก็กลับไปพร้อมชาเข็มเงินจุนซานหนึ่งกล่อง ชาที่เขาต้มรสชาติไปต่างจากที่เรือนของเฟยเถาเลยสักนิด เพียงหนึ่งก้านธูปเจียวหัวก็ดื่มชาจนหมดกาโดยที่ไม่รู้ตัว เฟยเถาที่อาบน้ำเตรียมจะเข้านอน ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเจ้าไป๋ไป๋ มันกระโดดมาจ้องมองหน้านางอย่างจริงจัง “อันใด คืนนี้จะนอนบนเตียงกับข้าหรือ” นางทำที่นอนเอาไว้ให้ไป๋ไป๋อยู่ด้านล่างเตียง เตียงของนางไม่ได้ใหญ่นัก กลัวว่าจะเผลอนอนดิ้นไปทับมันเข้า “นายหญิง” ไป๋ไป๋เรียกเฟยเถาออกมา “กรี๊ดดดด” นางกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปอยู่ที่มุมห้องอย่างหวาดกลัว “พูดได้ พูดได้ไง” นางชี้นิ้วไปที่ไป๋ไป๋ “เป็นเพราะผักที่นายหญิงให้ข้ากินทุกวันอย่างไรเล่า ผักเหล่านั้นมันได้รับไอพลังปราณจากมิติของท่าน ตัวข้าจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง” มันก้มหัวลงต่ำเพื่อขอบคุณเฟยเถา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม