ข้ามีสุรามาเสนอขาย

1538 คำ
“พลังปราณหรือ แล้วข้ามีมิติด้วยหรือไม่ มิติที่เข้าไปได้ ไม่ใช่ว่าเอาไว้แต่เก็บของ” นางเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ ไป๋ไป๋อย่างรวดเร็ว “ถ้าเป็นเพียงมิติเก็บของ จะมีพลังปราณแฝงได้อย่างไร” “แล้วเจ้ารู้วิธีเข้าหรือไม่ เหมือนในนิยายที่ข้าเคยอ่าน...ต้องทำอย่างไรนะ เอ่อ...เพ่งจิต ใช่แล้ว เพ่งจิต” เฟยเถาไม่รอให้ไป๋ไป๋เอ่ยตอบคำถามนาง นางรีบทำตามวิธีในนิยายทันที ไป๋ไป๋รีบใช้อุ้งเท้าหน้าของมันแตะไปที่ตัวของเฟยเถา ก่อนที่นางจะหายเข้าไปในมิติได้ทัน “สวรรค์!!! ข้ามีมิติ กรี๊ดดดดดดด” นางกระโดดไปรอบๆ อย่างยินดี มิติตรงหน้าของเฟยเถา มีเรือนพักขนาดไม่ใหญ่นักอยู่หลังหนึ่ง ด้านข้างยังมีแปลงโสมขนาดใหญ่ ที่กำลังเติบโต มองด้วยสายตาของนาง ยังมองออกว่ามันค่อยๆ ผลิใบใหม่ช้าๆ แทบจะเรียกได้ว่ามันโตเร็วเกินไปแล้ว ด้านหลังแปลงโสมยังมีลำธารหนึ่งสาย ด้านหลังเรือนพักมีโกดังขนาดใหญ่อยู่ด้วยอีกหนึ่งหลัง เฟยเถารีบเดินเข้าไปสำรวจอย่างรวดเร็ว ก็พบว่าเป็นโรงงานหมักสุราของนางเอง สุราที่ผลิตเอาไว้แล้วอยู่ในไหของยุคโบราณ ไหนจะมีวัตถุดิบที่รอให้นางหมักสุราอยู่อีกมากมาย “โอ้...สวรรค์ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ที่เคยต่อว่าท่านว่าใจดำ” นางคุกเข่าลงคำนับขออภัยฟ้าดินที่ก่อนหน้าเคยต่อว่าที่ส่งนางมาโดยไม่ให้ของดีอยู่หลายประโยค “นายหญิง ท่านแต่งตั้งข้าเป็นผู้ดูแลมิติได้หรือไม่ขอรับ” ในมิติยังมีสัตว์อยู่อีกไม่น้อย ไป๋ไป๋มันต้องการเป็นผู้ช่วยให้นายหญิงของมัน “ได้อยู่แล้ว ตัวนำโชคของข้า” นางอุ้มไป๋ไป๋มากอดรัดเอาไว้แน่น “ปล่อยข้าเลย สามีท่านเพิ่งจะขู่ข้า ว่าห้ามนอนบนเตียงกับท่าน” “ห๊ะ!!! เจ้าบ้านั่นพูดกับเจ้าจริงหรือ” “จริง ตอนที่เขาซ่อนตัวอยู่ในห้องของท่าน ข้ากำลังนอนสบายอยู่บนเตียง เขาก็อุ้มข้าเอาไว้ ยังขู่ข้าอีกหลายคำ” พอเจียวเหอรู้ว่าไป๋ไป๋เป็นตัวผู้ เขาก็ข่มขู่มันทันที “ท่าจะประสาท เจ้าอย่าได้สนใจ สามีอะไรกัน หลับนอนเพียงครั้งเดียวไม่นับ” “ไม่นับได้อย่างไร” ไป๋ไป๋เหมือนอยากจะพูดบางสิ่ง แต่มันก็หุบปากลง “ช่างเถิด ไม่นับตอนนี้ ต่อไปก็ต้องนับ” “ประเดี๋ยวอาเหอก็เดินทางไปเมืองหลวงแล้ว ต่อไปเขากับข้าก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก เจ้าอย่าได้พูดเช่นนี้ออกมาอีกเล่า ตอนนี้ข้ากำลังอารมณ์ดี ไปดูในเรือนดีกว่า เผื่อจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้า” เฟยเถาเดินไปที่เรือนพักอย่างอารมณ์ดี เมื่อเข้าไปด้านใน นางเห็นสิ่งของที่เหมือนกับที่บ้านในเมืองปักกิ่งของนาง เฟยเถาก็วิ่งไปกอดเครื่องใช้ไฟฟ้า โซฟา เตียงนอนอย่างสุขใจ “ฮืออออ ในที่สุดชีวิตของข้าก็พบเรื่องดีแล้ว” นางล้มตัวนอนบนเตียง “นายหญิง ท่านนอนเลยไม่ต้องรอข้า ข้าจะเข้าไปจัดการบรรดาสัตว์ป่าเสียก่อน” “อืม ไปเถอะ ระวังตัวด้วยเล่า” “ตอนนี้ข้ามิใช่กระต่ายน้อยแสนน่ารักของท่านอีกแล้ว ข้าเป็นสัตว์เทพขอรับ ข้าปกป้องท่านได้แล้ว” มันยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ “ดีๆ เจ้าเก่งมากไป๋ไป๋” เฟยเถานางจะเข้านอนได้อย่างไร นางมีความสุขจนมันล้นทะลักออกมา นางสำรวจเรือนพักอยู่อีกเกือบหนึ่งชั่วยาม จึงได้ยอมเข้านอนเสียที พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางเข้าเมืองพร้อมเจียวเหออีก นางตื่นขึ้นอีกครั้ง ฟ้าด้านนอกก็ยังไม่สว่าง เฟยเถาจึงได้รู้ว่าเวลาด้านในมิติเดินเร็วกว่าด้านนอกมากนัก นางจึงกลับเข้าไปในมิติอีกครั้ง หลังจากที่กินอาหารเช้าเรียบร้อย เฟยเถาคำนวณเวลาจนแน่ใจว่าด้านนอกสว่างแล้ว นางจึงออกมา เฟยเถาสะพายตะกร้าที่ไม่มีอะไรเลยขึ้นหลัง แล้วออกไปรอเจียวเหอที่เรือนของเขา “ข้ารอท่านนานแล้ว กว่าจะออกมาได้ เร็วเข้าประเดี๋ยวจะไม่ทันเกวียนวัว” เจียวเหอเปิดประตูเรือนออกมาก็ถูกเฟยเถาลากไปขึ้นเกวียนวัวแล้ว ยังดีที่วันนี้นางไม่ต้องเจอป้าเถียน ไม่เช่นนั้นนางคงต้องออกไปนั่งด้านนอกกับลุงไห่อีก แต่สายตาของชาวบ้านที่มองมาทางทั้งสองคนก็ทำให้เฟยเถาอึดอัดไม่น้อย เจียวเหอก็เหมือนจะรู้ว่านางอึดอัด เขาจึงเบี่ยงตัวอย่างแนบเนียนมาบังเฟยเถาเอาไว้ให้พ้นสายตาของชาวบ้านในเกวียน “พวกเจ้ามาด้วยกันได้อย่างไร” ในที่สุดก็มีคนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ “นางเป็นคู่หมั้นของข้า ข้าจะพานางไปซื้อของ” เฟยเถาเงยหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่เจียวเหอ เขาจะพูดเช่นนี้เพื่ออันใด “เอ่อ...ข้ายินดีกับเจ้าด้วยอาเถา ในที่สุดเจ้าก็จับอาเหอไว้ได้แล้ว” “...” เฟยเถาหลับตาลงพิงเกวียนอย่างเบื่อหน่าย หากนางต่อปากต่อคำก็คงไม่จบสิ้น สู้เงียบไปเลยเสียดีกว่า “ดู...นางทำ เหอะ ข้าไม่น่ายินดีกับนางเลย” “ป้ากวน ท่านจะไปยินดีกับนางเพื่ออันใด นางคงใช้แผนการร้าย ทำให้พี่เหอต้องยอมรับผิดชอบนางแน่” “แม่นางเหว่ย เจ้ายังมิได้ออกเรือน จะตำหนิผู้อื่นเช่นนี้มีแต่จะเกิดผลเสีย หากผู้ใดรู้เข้า ว่าเป็นสตรีปากยื่นปากยาว...จะกล้าแต่งเจ้าเข้าเรือนหรือ” “...” คนในเกวียนตกตะลึงไม่น้อย ที่เจียวเหอออกหน้าแทนเฟยเถา เสียงหัวเราะเบาๆ ของเฟยเถาดังอยู่ข้างตัวของเจียวเหอ นางสะกิดให้เขาหันไปมอง ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือให้เขา เจียวเหอไม่เข้าใจว่านางต้องการจะสื่ออะไร แต่พอจะรู้ว่านางพอใจกับการที่เขาออกหน้าปกป้องนางไม่น้อย แววตาของนางจึงมองเขาอย่างชื่นชมเช่นนี้ เจียวเหอเองก็มีรอยยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ โดยที่เฟยเถานางไม่ได้สังเกตเห็น ภายในเกวียนวัว ไม่มีผู้ใดเอ่ยถากถางเฟยเถาอีกเลยจนเกวียนมาหยุดที่หน้าประตูเมือง “อาเหอ ท่านพอจะรู้หรือไม่ว่าสุราชั้นดีมีราคาเท่าใด” “เจ้าอยากซื้อสุราหรือ” “ไม่ๆ ข้าเพียงแค่อยากรู้เท่านั้น” เขาขมวดคิ้วมองนางเล็กน้อย “สุรานารีแดงชั้นดี หนึ่งไหเล็ก สิบตำลึงทอง” “หื้อออ แพงเหมือนกัน” “เจ้าไม่รู้จริงหรือ” เขามองนางอย่างแปลกใจ “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ข้าอยู่แต่ในหมู่บ้าน” นางตอบโดยไม่ทันคิด “...” เจียวเหอจะเชื่อนางได้อย่างไร ราคาสุราแดง ที่เขาบอกนาง ก็เป็นตัวนางที่เมื่อก่อนนำมาโอ้อวดให้เขาฟัง เรื่องที่มีบุตรชายคหบดีต้องการนางไปเป็นอนุ อยากจะพานางไปเที่ยวที่เหลาสุราโดยยกเอาสุราแดงที่มีราคาแพง มายั่วยวนให้นางยอมตามเขาไป แต่เฟยเถาปักใจรักเพียงเจียวเหอ นางจึงไม่หลงกลง่ายๆ แล้วมาตอนนี้นางบอกว่านางไม่รู้ราคา ผู้ใดจะเชื่อนางกัน “แล้วท่านจะไปที่ว่าการเลยหรือไม่” “อืม แล้วเจ้าเล่าจะไปกับข้าหรือไม่” “ไม่ ข้าจะไปเดินเล่น หากข้าเดินเล่นเสร็จก่อนจะมารอท่านที่หน้าที่ว่าการ หากท่านไม่เห็นข้า ไปหาข้าที่หน้าร้านขายเครื่องเคลือบก็แล้วกัน” “ได้” เขาโล่งอกที่นางไม่คิดจะตามเขาไปที่ว่าการด้วย ทั้งสองเมื่อเข้ามาในเมืองต่างก็แยกย้ายกันทันที เฟยเถานางไปที่ร้านเครื่องเคลือบอย่างที่ว่าจริง แต่เมื่อนางได้ของที่ต้องการแล้ว นางก็หาตรอกซอยเงียบๆ ไร้ผู้คน นำสุราในมิติออกมาเทใส่ไหเครื่องเคลือบใบใหม่แทน เฟยเถาเดินไปถามหาเหลาสุราที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหูหนาน “พี่ชาย ข้ามีสุรามาเสนอขาย ท่านพอจะบอกได้หรือไม่ว่าข้าต้องไปพบผู้ใด” “ที่เหลาสุรา ไม่รับสุราจากที่อื่น เจ้าไปเสียเถิด หากเข้าไปก็รังแต่เสียเวลา ลองไปดูร้านอื่นก่อนดีหรือไม่” เสี่ยวเอ้อเห็นว่านางเป็นสตรีใบหน้างดงาม จึงไม่ได้เอ่ยไล่นางรุนแรง “แต่สุราข้าดีมากเลยนะ หากท่านได้ลองก่อน...” “ไม่รับ จะดีเพียงใดก็คงไม่สู้สุราหอมรัญจวนในเหลาสุราของข้าได้ ไปเสียเถิด หากให้หลงจู๊มาไล่ เจ้าจะอับอายกว่าที่ข้าไล่มากนัก” “เจ้าค่ะ” เฟยเถาเดินจากไปอย่างเศร้าใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม