ทางด้านแคทเธอรีนก็ก้าวฉับๆ ออกจากลิฟต์ตรงไปยังรถยนต์ที่เธอโทรบอกให้เก๋ไก๋สตาร์ทเครื่องรอแล้ว แต่ ภูดิศตามมาทันและคว้าแขนเธอเอาไว้
“เคท ฟังผมก่อนได้ไหม”
“ปล่อยค่ะ”
“เคท เรื่องผมกับญาญ่ามันคือความผิดพลาด ผมยอมรับว่าผมผิดที่ไปยุ่งกับเขา ผมขอโอกาสหน่อยได้ไหม”
“ไม่มีโอกาสอะไรทั้งนั้นค่ะ เคทขอร้องนะคะ ขอให้เราจากกันด้วยดี อย่าให้เคทต้องเกลียดคุณเลยค่ะ เคทไม่ สามารถทำใจคบกับผู้ชายที่เคยนอนกับศัตรูของตัวเองได้จริงๆ ค่ะ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะน้องเคท” เก๋ไก๋ที่มองเห็นจากกระจกมองหลังรีบลงจากรถและเดินมาหาแคทเธอรีนทันที ภูดิศเองเมื่อเห็นว่ามีบุคคลที่สามเข้ามา จึงไม่กล้าทำอะไรจำต้องปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจนัก
“ไม่มีค่ะ เคทกับคุณภูเราคุยธุระกันจบแล้วค่ะ เคทขอตัวนะคะ” แคทเธอรีนเดินไปขึ้นรถโดยไม่หันมามองคนที่มองตามตาละห้อยเลยสักนิด
“เป็นไงบ้างเคท” เก๋ไก๋เอ่ยถามทันทีเมื่อแคทเธอรีนก้าวขึ้นมานั่งบนรถ
“เขาพยายามขอโอกาสค่ะ แต่เคทไม่ให้เพราะเคททำใจไม่ได้จริงๆ ที่จะคบกับผู้ชายที่เคยไปนอนกับคู่อริของตัวเอง แถมแม่นั่นยังส่งข้อความมาเยาะเย้ยเคทอีก ให้ตายยังไงเคทก็ไม่มีทางให้อภัย”
“หวังว่าคุณภูเขาจะยอมจบไม่มาวุ่นวายกับเคทนะ” เก๋ไก๋กล่าวพลางมองกระจกมองหลังที่เห็นว่าภูดิศยังยืนมองอยู่
“เขาคงไม่เข้าใจอะไรยากหรอกมั้งคะ เรากลับกันเถอะค่ะ เคทอยากพักผ่อนแล้ว”
“งั้นเคทเอนเบาะงีบไปก่อนก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุก” แคทเธอรีนทำตามอย่างว่าง่ายและหลับตาลงเพราะเพลียจากการเดินทางอันยาวนานหลายชั่วโมงจากยุโรปมายังเมืองไทย แล้วยังเดินทางมาพบภูดิศตามนัดโดยที่ยังไม่ได้พักสักนิด
หลังจากวันนั้นภูดิศก็ไม่ได้มากวนใจอะไรเธออีก แคทเธอรีนรู้สึกเบาใจและโล่งใจที่ทุกอย่างจบลงด้วยดีจนกระทั่งวันนี้ที่มีคิวถ่ายแบบให้กับนิตยสารเล่มหนึ่ง และมันคงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าคอนเซปต์ของงานวันนี้จะไม่ใช่การรวมนางแบบชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีญารินดาอยู่ด้วย เพราะรู้นิสัยอีกฝ่ายดีเธอจึงรู้ว่าวันนี้เจ้าหล่อนจะต้องเข้ามาเยาะเย้ยเธอเรื่องภูดิศแน่ๆ
“โอเคนะเคท” เก๋ไก๋ถามอย่างรู้กันดี
“เคทไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกค่ะ แต่รำคาญแม่นั่นมากกว่า เคทกล้าฟันธงเลยว่าเจ้าหล่อนจะต้องมาพูดจาเยาะเย้ยถากถางเคทแน่นอน”
“ถือซะว่าเสียงหมาเห่าก็แล้วกันนะเคท เดี๋ยวเสร็จงานนี้แล้วก็ไม่ได้มีงานอะไรที่ต้องเจอกับเจ้าหล่อนอีกนาน เพราะหลังจากนี้เคทต้องลุยถ่ายละครยาวๆ แถมโลเคชั่นยังเป็นต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ด้วย”
“เคทก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะ เจอแม่นั่นทีไรรู้สึกอากาศเป็นพิษทุกที”
“ใกล้ได้เวลานัดแล้วเราไปกันเถอะ” เก๋ไก๋ยกมือขึ้นดูเวลาแล้วเปิดประตูรถก้าวลงมา ยังไม่ทันจะก้าวเข้าสตูดิโอก็มีนักข่าวบันเทิงวิ่งเข้ามาหาราวกับรออยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะ น้องเคท พี่รบกวนขอสัมภาษณ์หน่อยนะคะ ได้ข่าวว่าน้องเคทกับคุณภูดิศเลิกกันแล้วเหรอคะ” แคทเธอรีนสูดหายใจเรียกสติเพราะไม่คิดว่าจะโดนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อมองไปทางประตูเข้าสตูดิโอก็เห็นว่า ญารินดายืนส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้ นั่นทำให้เธอรู้ทันทีว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือเจ้าหล่อนอย่างแน่นอน
“เอ่อ ขอโทษนะคะพี่ๆ นักข่าว พอดีตอนนี้ใกล้ถึงเวลานัดแล้วน่ะค่ะ พี่คงต้องขอตัวน้องเคทก่อน เดี๋ยวเสร็จงานแล้วน้องจะให้สัมภาษณ์ทีเดียวเลยนะคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ” เก๋ไก๋รีบกันนักข่าวออกไปแล้วจูงมือแคทเธอรีนเข้าไปในสตูดิโอทันที
“พวกนักข่าวนี่หูผีจมูกมดกันจริงๆ เรื่องเพิ่งเกิดไม่กี่วันรู้กันเร็วดีจริง”
“เพราะมีพรายกระซิบต่างหากล่ะคะ”
“เอ๊ะ ใครกันคะพรายกระซิบ” เก๋ไก๋ถามอย่างสงสัย แต่เมื่อมองตามสายตาของแคทเธอรีนไปก็ถึงบางอ้อเพราะคู่กรณีส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้อย่างเปิดเผย
“แม่นี่มันร้ายจริงๆ ตัวเองฉกผู้ชายคนอื่นไปแล้วยังจะมาก่อความวุ่นวายให้เขาอีก”
“ช่างเถอะค่ะพี่เก๋ เรามาแต่งหน้ากันดีกว่า” แคทเธอรีนเลิกให้ความสนใจญารินดาและนั่งให้เก๋ไก๋แต่งหน้า หลังแต่งหน้าเสร็จสไตลิสต์ก็นำชุดที่ต้องใส่วันนี้มาให้ แคทเธอรีนรับมาแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ในขณะที่เธอกำลังเช็กความเรียบร้อยของชุดอยู่ที่หน้ากระจกนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามา
“ไงจ๊ะเคท ฉันเสียใจด้วยจริงๆ นะเรื่องคุณภู” ปากบอกว่าเสียใจแต่สีหน้าและแววตาของญารินดานั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง แคทเธอรีนบอกตัวเองให้ระงับสติอารมณ์อย่าได้เต้นไปตามเกมที่อีกฝ่ายจงใจยั่วยุ เธอจึงทำเพียงปรายตามองญารินดาด้วยหางตาแล้วหันไปมองกระจกต่อทำให้อีกฝ่ายเต้นเร่าทันที
“เธออย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ”
“อ้าว ฟอร์มหลุดแล้วเหรอ เมื่อกี้ยังพูดจาภาษาดอกทองเอ๊ยดอกไม้อยู่เลย”
“นังเคท”
“จุ๊จุ๊ ไม่เอา อย่าหลุดตัวตนที่แท้จริงออกมาสิจ๊ะ ส่วนเรื่องที่เธอมีน้ำใจอุตส่าห์จะมาแสดงความเสียใจกับฉันนั้นไม่ต้องหรอก เพราะฉันไม่ได้เสียใจอะไร ดีใจซะอีกที่ได้ให้ทานผู้ยากไร้ที่ไม่มีความสามารถในการหาผู้ชายของตัวเอง”
“มันจะมากไปแล้วนะนังเคท”
“ไม่มากหรอกจ้ะญาญ่า หรือเธอจะเถียงว่ามันไม่จริง แต่อย่าดีกว่าเสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ เดี๋ยวจะได้เวลาถ่ายแล้ว ฉันออกไปเตรียมตัวดีกว่า”
“แกอย่ามาทำปากดีไปหน่อยเลย ไอ้ที่ทำเชิ่ดๆ เริ่ดๆ เนี่ย จริงๆ ข้างในก็เสียหน้าและเสียดายคุณภูใช่ไหมล่ะ หน้าตาดีเพียบพร้อมขนาดนั้น”
“ญาญ่า ฉันจะบอกอะไรเธอให้อย่างหนึ่งนะ ผู้ชายที่ไปนอนกับผู้หญิงอีกคนพร้อมๆ กับโทรหาบอกคิดถึงผู้หญิงอีกคน มันไม่ได้มีค่าอะไรให้เสียดายเลย ลับหลังเธอเขาก็อาจจะไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นหรือบอกรักผู้หญิงคนอื่นอีกก็ได้ ผู้ชายอย่างนั้นน่ะ หลุดออกไปจากชีวิตได้ ฉันควรต้องทำบุญเจ็ดวัดเจ็ดวาด้วยซ้ำ เธออยากได้ก็เอาไปเถอะ ฉันไม่ได้เสียดายอะไรเลยสักนิด ฉันมีดีพอที่จะหาผู้ชายที่ดีกว่านั้นได้อีกเยอะ ขอตัวนะ” แคทเธอรีนทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากห้องปล่อยให้ญารินดามองตามด้วยท่าทางเคียดแค้น ที่ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายเสียใจฟูมฟายได้อย่างที่คิด และเมื่อคิดตามคำพูดของแคทเธอรีนแล้วญารินดาก็รู้สึกหวั่นใจจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาภูดิศ แต่ปรากฏว่าเขาไม่รับสาย หญิงสาวจึงเก็บโทรศัพท์ด้วยท่าทางหงุดหงิดแล้วเดินกระแทกเท้าตามแคทเธอรีนออกไป
“เป็นไงบ้างเคท” เก๋ไก๋รีบเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าญารินดาเดินตามแคทเธอรีนไปในห้องแต่งตัว
“ตามคาดนั่นแหละค่ะพี่เก๋ สเต็ปนางร้ายในละครกะจะมาพูดจาเยาะเย้ยถากถางให้เคทเจ็บ แต่เคทไม่เต้นไปตามเกมด้วยหรอก อีกอย่างผู้ชายแบบนั้นไม่มีค่าอะไรให้เคทเสียดายด้วย”
“ดีแล้วล่ะ ผีเน่ากับโลงผุก็เหมาะสมกันดี เสร็จงานคืนนี้เราไปยืดเส้นยืดสายกันไหม ฉลองที่ผู้ชายแย่ๆ หลุดพ้นไปจากชีวิต”
“เอาสิคะ ดีเหมือนกันไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตานานแล้ว”
“จัดไปค่ะ คุณน้อง”