หลังอาการไม่สบายเริ่มทุเลาลง ไม่ปวดเนื้อปวดตัวและศีรษะอีกต่อไป อิงจันทร์ก็ผงกหัวขึ้นกวาดสายตาไปรอบห้อง ก่อนจะไปสะดุดถ้วยใส่น้ำกับผ้าชุบน้ำวางข้างกันที่หัวเตียง เธอพยายามส่ายสายตามองหาเจ้าของห้อง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ฉับพลันน้ำตาก็เอ่อรื้นคลอเบ้ากับความทรงจำที่วันนี้ไม่มีแม่แล้ว “จนกว่าเธอจะตื่น.. ฉันจะอยู่ตรงนี้เอง” เขาโกหกสินะ น้ำตาที่ตั้งท่าจะรื้นคลอเบ้าเลือนหายไปในฉับพลัน เมื่อใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดใส่อาหารที่มีกลิ่นหอมลอยแตะปลายจมูกมาแต่ไกล “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทักทายจากเอกชยินทร์ที่เปิดประตูเข้ามาเอ่ยถาม “ตื่นแล้วค่ะ” อิงจันทร์หลบตาเขา เพราะจำได้ว่าก่อนภาพจะตัดไปเธอกอดเขากลมเลยทีเดียว “ถ้าตื่นก็มากินข้าว จะได้ทานยา” “เดี๋ยวฉันทำเองค่ะ” “ทำไมเห็นหน้าฉันแล้วข้าวจะกลืนไม่ลงคอเหรอ” คนที่ปากคอเลาะร้ายเอ่ยเหน็บแนม เพราะเห็นท่าทีของอิงจันทร์ที่ดูจะไม่อยาก