บทที่ 7 ขอบคุณนะ คุณนายน้อยของฉัน

1749 คำ
บทที่ 7 ขอบคุณนะ คุณนายน้อยของฉัน คิมหันต์หัวเราะกับการกระทำที่แปลกประหลาดนี้แต่ฉัตรเทพกลับเล่นกับซองอั่งเปาเปล่าในมือ มองกรกันธ์อย่างตรงไปตรงมาแล้วถามว่า "ได้กับหลานสะใภ้แล้ว?" ทั้งสองคนนี้โตมากับกรกันธ์ ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น และรู้ดีว่าเขามีคนอยู่ในใจ แต่คนนี้โชคร้ายที่เป็นคู่หมั้นของหลานชายของเขาเอง ปกติเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กรกันธ์จะหน้าบึ้งตึง แต่วันนี้เขาอารมณ์ดี เลยแก้ต่างว่า "แต่ตอนนี้เป็นภรรยาของฉันแล้ว" “ตกลงกันแล้วเหรอ?” ฉัตรเทพมองดูกรกันธ์ที่กำลังอวดดี “อืม” กรกันธ์ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน คิมหันต์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ฉัตรเทพหรี่ตามองอีกครั้ง“จดทะเบียนสมรสแล้วเหรอ?” “จดแล้ว” พูดจบกรกันธ์ก็หยิบทะเบียนสมรสสองเล่มออกจากกระเป๋าเสื้อสูทอย่างระมัดระวัง แล้ววางลงบนโต๊ะ คิมหันต์รู้สึกไม่อยากเชื่อ ยื่นมือไปหยิบดู แต่ยังไม่ทันแตะก็ถูกกรกันธ์ปัดมือออก “ล้างมือหรือยัง? อย่าเอามือสกปรกมาจับทะเบียนสมรสของฉัน” กรกันธ์เตือนพร้อบส่งสายตาเย็นชา จากนั้นก็หยิบทะเบียนสมรสสองเล่มขึ้นมาอย่างทะนุถนอม เปิดให้ทั้งสองคนดู เพียงครู่เดียวก็เก็บกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทอย่างระมัดระวัง “ต้องทะนุถนอมขนาดนี้เลยเหรอ?” ระหว่างที่บ่น คิมหันต์ก็ยังใช้ข้อศอกกระทุ้งฉัตรเทพ “เฮ้ ฉัตรเทพ นายไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ?” ฉัตรเทพพ่นควันบุหรี่อย่างใจเย็น “มีอะไรแปลก? ผู้หญิงคนนั้นไม่เข้าตาเมทินีตั้งแต่แรกแล้วนี่ พี่สะใภ้สองของกรกันธ์นี่ อยู่บ้านก็ไม่เป็นที่รัก ไม่ใช่ครอบครัวที่มีหน้ามีตา เรื่องนี้อาจจะเป็นเมทินีพี่สะใภ้สองของกรกันธ์เองที่เป็นคนจัดการก็ได้” “ถูกต้อง” กรกันธ์เลิกคิ้ พร้อมเล่าเรื่องราวคร่าวๆ คิมหันต์ตาโตทันที “นายหมายความว่าพี่สะใภ้สองของนายจ้างคู่แข่งนายให้วางยาเหรอ?” กรกันธ์พยักหน้าเบาๆ “แต่นายไม่ใช่คนที่ต้านยาได้ดีหรอกเหรอ? ก่อนหน้านี้แช่น้ำแข็ง ปล่อยเลือด นายไม่เคยไม่ผ่านไปได้เลยสักครั้ง แล้วครั้งนี้นายกลับไปนอนกับคนอื่น?” น้ำเสียงของคิมหันต์สูงขึ้นเล็กน้อย กรกันธ์ยิ้มอย่างขมขื่น “เจอเธอแล้วก็ไม่มีทางรักษาได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้…” ก่อนหน้านี้เจอผู้หญิงที่ตัวเองไม่ชอบ ก็รู้สึกขยะแขยง แน่นอนว่าสามารถทนได้ แต่ความสามารถในการควบคุมตัวเองที่เขาภูมิใจนักหนา พอเจอเธอเพียงชั่วพริบตาเดียวก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี คิมหันต์ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักเลยไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ก็ยังรู้สึกยินดีเลยตบไหล่เขา ยกแก้วในมือขึ้นดื่มอวยพร “พี่ชาย ยินดีด้วยจริงๆ ฉันนึกว่านายจะต้องโสดไปตลอดชีวิตซะอีก! ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนแรกในกลุ่มพวกเราสามคนที่แต่งงาน! มา พี่ชาย ฉันขออวยพรให้นายมีความสุขในชีวิตแต่งงาน!” ฉัตรเทพก็ยกแก้วขึ้น “ยินดีด้วยที่สมหวัง” “ขอบใจ” กรกันธ์ยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมพูดอย่างจริงจัง “แต่ซองแดงต้องไม่ขาดนะ วันนี้ซองแดงสำหรับจดทะเบียนสมรส ต่อไปจัดงานแต่ง พวกนายต้องให้ซองใหญ่” “นายไม่ได้ขาดเงินนี่นา! ถึงกับต้องคิดถึงซองเงินของพวกเราขนาดนี้?” คิมหันต์เป็นคนที่รักเงิน พอคิดว่าต้องให้ซองสองครั้งก็รู้สึกเสียดาย “ก็ใช่ไม่ได้ขาดเงิน แต่พอได้รับซองจากพวกนายแล้วฉันมีความสุข” กรกันธ์ถอดแว่นออก เผยให้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิท เขาไม่คิดจะเสแสร้ง “แล้วต้องใส่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะ?” คิมหันต์ถามอย่างระมัดระวัง เพราะไม่สามารถมากเกินไปหรือน้อยเกินไปได้ ใครจะรู้มาตรฐานของเขา “แปดพันแปดหรือเก้าพันแปด” เมื่อคิดถึงสีหน้าของฮันนี่ที่ได้รับซองแดง กรกันธ์ก็ยิ้มอย่างพอใจ “งั้นก็ได้ ฉันจะใส่แปดพันแปด ส่วนฉัตรเทพ นายใส่เก้าพันแปด” คิมหันต์รีบให้ผู้ช่วยนำเงินสดมา ฉัตรเทพก็ไม่พูดอะไร ให้ผู้ช่วยเตรียมเงินสดใส่ซอง คิมหันต์ยื่นซองเงินที่จัดเรียงเรียบร้อยให้แล้วถามว่า “เอ่อ...พี่สะใภ้รู้เรื่องขาของนายหรือเปล่า?” “ลองเดาดูสิ?”กรกันธ์รับซองไปด้วยท่าทางยิ้มๆ เครย์ลี่พูดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมว่า “คุณนายยังไม่รู้ค่ะ ไม่เพียงเท่านั้น คุณชายสามยังทำตัวอ่อนแอป่วยบ่อยๆ ไออยู่เรื่อยๆ เสียอำนาจและไม่มีเงินในสายตาของคุณนาย ถ้าพวกคุณเจอเธอข้างนอกก็ต้องช่วยกันหน่อยนะคะ” คิมหันต์เบิกตากว้างอีกครั้ง เสียงก็สูงขึ้นตาม “พี่ชาย นายกำลังเล่นกับไฟจริงๆ ระวังจะโดนไฟลวกนะ! นายไม่กลัวหรือว่าพี่สะใภ้จะรู้แล้วโกรธจนอยากหย่ากับนาย?” พูดจบ คิมหันต์ก็รู้ว่าตัวเองพูดไม่คิด รีบทำท่าถุยถุยถุยสามครั้งพร้อมตบปากตัวเองเบาๆ เมื่อได้ยินคำว่าหย่า กรกันธ์ก็หน้าตึง เสียงก็เย็นลงตาม “จะไม่มีวันนั้น!” ฉัตรเทพเป็นคนที่คล้ายกับกรกันธ์ สิ่งที่ต้องการก็ต้องได้มา เขายิ้มเย็นๆ “เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่กรกันธ์ต้องการ ไม่มีทางหลุดมือไปได้หรอก” กรกันธ์ได้ยินเช่นนั้น หน้าตาก็ผ่อนคลายลง ยกแก้วไวน์ขึ้น “นายเข้าใจฉัน” เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ฮันนี่ออกจากชีวิตของเขา! ------- อีกด้านหนึ่ง ฮันนี่มาถึงบ้านโครงการเมอร์ริแอร์ เธอพบว่าสิ่งอำนวยความสะดวกและการจัดสวนในโครงการทำได้ดีมาก สถานที่แห่งนี้จึงสภาพแวดล้อมสวยงาม และยังมีทางลาดสำหรับคนพิการที่ชั้นของตัวอาคารกลาง บริการครบครัน กรกันธ์คงเลือกที่นี่เพราะเหตุผลนี้ เมื่อถึงชั้นยี่สิบเอ็ด ฮันนี่พบว่ากรกันธ์ซื้อห้องใหญ่ที่มีประตูทางเข้าออกส่วนตัว ไม่มีเพื่อนบ้านเลยมีความเป็นส่วนตัวดีมาก เมื่อเปิดประตูรหัสผ่านก็จะเห็นหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นแม่น้ำกว้าง ห้องมีพื้นที่สองร้อยยี่สิบตารางเมตร มีความรู้สึกกว้างขวาง แต่การออกแบบค่อนข้างอึมครึม ในช่วงบ่าย ฮันนี่ซื้อดอกไม้สดและพืชอวบน้ำมาตกแต่ง และยังทำซุปไว้รอให้กรกันธ์กลับมา เธอไม่รู้ว่ากรกันธ์จะกลับมาหรือไม่ ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานเลยยังไม่มีโอกาสสื่อสารกันและไม่มีข้อมูลติดต่อของเขา นั่งอยู่บนโซฟาคนเดียวด้วยความกังวล โชคดีที่ไม่นานนักเครย์ลี่ก็พากรกันธ์กลับมา ทันทีที่เข้ามากรกันธ์ก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ การออกแบบที่มีสีเทาเป็นหลัก แต่พอมีผู้หญิงที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น โต๊ะที่มีดอกกุหลาบสีชมพู พืชอวบน้ำสีเขียวอ่อนและผ้าปูโต๊ะสีสดใส ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที ฮันนี่เห็นสายตาที่ประหลาดใจของกรกันธ์ ก็รีบอธิบายอย่างระมัดระวัง “ฉันเห็นว่าบ้านดูเงียบเหงาเลยซื้อของมาตกแต่งนิดหน่อยค่ะ ยังไม่ได้บอกคุณก่อน ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า?” กรกันธ์สังเกตเห็นอาการเล็กน้อยของฮันนี่ เขารู้สึกสงสารและเข็นรถเข็นเข้าไปหาเธอ จับมือเธออย่างอ่อนโยน "คุณนายน้อยของฉัน ฉันชอบมาก ขอบคุณครับ" ฮันนี่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าคุณนายน้อยของฉันเสียงต่ำๆ ของกรกันธ์ดังขึ้นข้างหูเธออีกครั้ง "ฮันนี่ บ้านหลังนี้เป็นของเธอ เธอคือเจ้าของบ้านหลังนี้ ต่อไปอยากทำอะไรก็ทำได้เลย ไม่ต้องถามความเห็นจากฉัน เธอตัดสินใจเองได้" ฮันนี่รู้สึกสะดุดใจ "เจ้าของบ้าน?" "ใช่ เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ถ้าเธอไม่ใช่เจ้าของบ้านแล้วจะเป็นอะไรล่ะ?" กรกันธ์พูดแบบครึ่งจริงครึ่งเล่น "นี่ถูกแล้ว เธอเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้" ฮันนี่รู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นไหลผ่านหัวใจ เธอยิ้มออกมาและพูดว่า "ขอบคุณค่ะ" ขอบคุณที่เขาให้บ้านกับเธอ ขอบคุณที่เขาให้เกียรติที่เธอควรได้รับซึ่งสิ่งเหล่านี้ เธอไม่เคยได้รับจากครอบครัวของเธอมาก่อน กรกันธ์ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น "ควรจะเป็นฉันที่ต้องขอบคุณ ขอบคุณคุณนายน้อยของฉันที่ให้บ้านกับฉัน" ฮันนี่รู้สึกเขินอายอีกครั้งเมื่อได้ยินคำว่าคุณนายน้อยของฉัน ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ เมื่อเห็นเครย์ลี่ที่ยังอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอก็ยิ่งแดงขึ้นไปอีก "ผู้ช่วย...เครย์ลี่ คุณทานข้าวหรือยัง? หรือว่า..." "ทานแล้วครับ! ฉันทานเอกสารแล้วจะไปแล้ว! ไม่ใช่สิ...ฉันเอาเอกสารแล้วก็จะไปครับ" เครย์ลี่ที่ถูกป้อนอาหารสุนัขอย่างเงียบๆ ตลอดเวลา รีบตอบอย่างรวดเร็วเกือบกัดลิ้นตัวเอง เมื่อได้รับอนุญาตจากกรกันธ์ เขาก็รีบไปที่ห้องทำงานเพื่อเอาเอกสาร เมื่อได้เอกสารแล้วก็รีบวิ่งออกไป ล้อเล่นหรือไง จะให้อยู่เป็นหลอดไฟกินข้าวด้วยเหรอ ชีวิตมีไม่กี่ชีวิตกัน? ฮันนี่รู้สึกว่าเครย์ลี่ดูรีบร้อนไปหน่อยเหมือนมีคนตามล่าอยู่อย่างนั้น เมื่อมองไปที่อาหารบนโต๊ะ เธอก็หันไปถามกรกันธ์ว่า "แล้วคุณทานหรือยังคะ?" "ยังเลย" "งั้นฉันจะตักข้าวให้คุณ" "ดีครับ" ฮันนี่หันกลับไปที่ครัว ยกจานปลานึ่งออกมา มองไปที่กรกันธ์ "คุณชายสาม...เอ่อ...คุณกรกันธ์ เราเพิ่มเพื่อนในไลน์กันเถอะค่ะ จะได้ติดต่อกันสะดวก" เสียงเอ่ยเพิ่งจะจบ โทรศัพท์ของฮันนี่ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังติ๊ง หน้าจอสว่างขึ้น ทั้งสองมองไปโดยไม่ตั้งใจก็เห็นข้อความแจ้งเตือนจากมาร์ติน มือที่ถือจานปลาของฮันนี่สั่นสะท้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม