“ปล่อยสมองให้ว่าง ปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่ต้องคิดอะไรเลย...กลัวพี่ไหม”
“ก็นิดนึงค่ะ”
ปรวีร์จัดท่าทางใหม่ อุ้มร่างเล็กนั่งบนตัก ปัดกลุ่มผมทัดหลังหูกระชับกอดแน่นกว่าเดิม การกระทำลักษณะนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นจนใจฝนแก้วหวั่นไหวเหมือนนั่งใกล้กองเพลิงในคืนหนาวเหน็บ
“จูบพี่หน่อย จูบแบบเต็มใจ”
ฝ่ามือชื้นเหงื่อท่ามกลางไอแอร์เย็นฉ่ำเลื้อยวางบริเวณท้ายทอย อีกมือประคองปลายคางที่สากด้วยตอเครา ก่อนยื่นเรียวปากประกบกัน ฝนแก้วยินดีรับบทนักเรียนอย่างว่านอนสอนง่าย คิดอยากปัดความผิดให้เหล้าโทษฐานทำเธอใจง่าย แต่ก็อ้างได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก เรียวปากนุ่มระอุไอร้อนบดเบียดในระดับที่แรงกว่าน้ำหนักขนนกเพียงเล็กน้อย
จูบนี้ดึงปรวีร์หวนคืนสู่วันวาน ความทรงจำสีจางที่เขาไม่เคยลืม เด็กหญิงฝนแก้วในวัยเจ็ดขวบกำลังระบายสีอย่างเพลิดเพลินในขณะที่ปรวีร์ย่องเงียบมาด้านหลัง พลางชะเง้อใบหน้าผ่านไหล่เล็ก คนเป็นพี่ตั้งใจจะแกล้งด้วยการฉกสิ่งที่เธอกำลังทำไปจากมือ แต่ด้วยความที่เข้าไปชิดจนอีกฝ่ายเอะใจและเหลียวกลับไปมอง จังหวะนั้นจึงทำให้ริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกัน แต่แค่แผ่วเบาและยาวนานเพียงชั่ววินาที เด็กหญิงเป็นฝ่ายผละหนีตีหน้ามุ่ยเพราะรู้ว่าเขาตั้งใจมาแกล้ง ไม่ได้ติดใจอะไรกับปากที่สัมผัสกัน
เจ็ดขวบนั้นยังเด็กก็จริง แต่ไม่ใช่วัยที่จำอะไรไม่ได้เลย การที่ฝนแก้วยกให้กันต์ดนัยเป็นจูบแรกแปลว่าจุมพิตแผ่วเบามีอยู่จริงแค่ในความทรงจำของปรวีร์ ไม่ได้ติดอยู่ในใจฝนแก้วเลย
ปรวีร์ละเลียดเรียวปากอิ่มอย่างใจเย็น คิดรอดูเชิงว่าจะปล่อยหมัดเด็ดออกมาหรือเปล่า แต่จนแล้วจนรอดก็เพียงแค่จูบเหมือนเด็กประถมไม่ยอมให้ลิ้นได้เล่นลึกซึ้ง
ธาตุในกายปรวีร์อยู่ในเกณฑ์ใกล้แตกเต็มที ทนไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายสอดลิ้นรัดรึงไล่ต้อน กวาดชิมความหวานที่กำลังเปลี่ยนระดับเป็นเสียวกระสัน รับรู้ได้ถึงฝ่ามือเล็กตรงท้ายทอยที่เพิ่มแรงกดพร้อมมืออีกข้างที่เปลี่ยนเป็นโอบรัด เช่นเดียวกับเขาที่กระชับกอดเธอแน่น เสียงครางอือในลำคอของต่างฝ่ายต่างประสานกันรัญจวน เรียวลิ้นพันดูดดื่มจนอารมณ์หื่นพุ่งทะยาน มือหนาปลดตะขอเกาะอกที่คลุมไว้เพียงครึ่งเต้า เคล้นคลึงนุ่มนวลแต่แรงพอให้เธอผวาเฮือก หน้าอกกลมกลึงยังเต่งตึงดั่งไม่เคยถูกเคล้น ปรวีร์ตระหนักในความจริงข้อนี้จึงพร่ำสั่งใจว่าให้นุ่มนวลกับเธอ
“พี่วีร์”
“หืม?”
“แค่เรียกเฉยๆ” ก็มันรู้สึกแปลกๆ วูบๆ วาบๆ จนกลั้นเสียงไม่ไหว
“เดี๋ยวได้เรียกทั้งคืนแน่ เสียวจนอยากครางชื่อพี่เหรอ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย”
ตอนนี้ไม่เพียงแค่ใบหน้าที่แดงเรื่อ ทั้งเนื้อทั้งตัวก็เห่อร้อนไปทุกซอก ฝนแก้วกระดากเขินแต่ยังอยากมองหน้าปรวีร์ในตอนนี้ เขาดูกระหาย เต็มไปความด้วยความต้องการในแววตา ความปรารถนารุนแรงต่อเรือนร่างเธอทำให้ฝนแก้วรู้สึกเป็นคนสำคัญ แม้รู้ดีว่าเขาต้องการเพียงร่างกาย แต่อย่างน้อยก็เป็นชั่วขณะหนึ่งที่เธอรู้สึกเหมือนถูกรักตอบ
“มองขนาดนี้กินพี่เลยไหมหืม?”
เขามีประสบการณ์บนเตียงมามาก นับว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เจนศึกรัก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกแปลกใหม่เพราะดวงตาสาวน้อยที่เอาแต่จดจ้อง มันสร้างความปั่นป่วนในอกอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งนับเป็นความรู้สึกดี แต่ส่วนหนึ่งกำลังต่อต้านผลักไส
“ฝนให้พี่กินก่อน”
“ดูพูดเข้า แล้วอย่ามาร้องขอความเห็นใจล่ะ พี่กินจุนะบอกก่อน”
ปรวีร์เอนร่างแน่งน้อยบนเตียงหนานุ่ม ยึดครองตำแหน่งด้านบนแล้วก้มครอบงับยอดดอกบัวสีเนื้อ ลิ้นชื้นตวัดเลียปนดูดกลืนจนฝนแก้วเผลอร้องครางและรีบงับปากตัวเอง ปลายเล็บจิกไหล่หนาเมื่ออารมณ์เสียวไต่ต่อไปในระดับที่สูงขึ้น ปรวีร์พรมน้ำให้ดอกไม้ตูมสองเต้าเสียจนชุ่ม แล้วจึงลากลิ้นลงต่ำผ่านหน้าท้องแบนราบที่เผยอตัวยกสูงตามแรงกระตุ้น สองมือจับขอบแพนตี้สีดำแล้วรูดปราการด่านสุดท้ายออก ฝนแก้วขยับขาชิดจะยกมือมาปิดแต่โดนปัดออก
เรียวปากหยักวางทาบบนเนินกายสาวอย่างแผ่วเบาทว่าร้อนเร่า ยิ่งช้อนมองร่างเล็กที่บิดเขินและดวงตาที่หลับปี๋ยิ่งเร่งเครื่องชายหนุ่มให้ร้อนขึ้น สองแขนแข็งแรงตวัดแยกเรียวขาเล็กให้ได้องศาพอมุดหน้าเข้าไป แล้วตามด้วยการแทรกลิ้นหยอกเย้า
“อื้ออ...พะ พี่วีร์ ไม่เอา ไม่เอาแล้ว มันน่าเกลียด เอาออกไป”
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุให้ทำ คราวนี้จากเพียงจูบหยอกเย้าเปลี่ยนเป็นลิ้นที่แทรกสอดเข้าไป ความฉ่ำมีเพิ่มมากขึ้นจากที่ถูกเล้าโลมก่อนหน้านี้ ปรวีร์ปล่อยมือจากขาเรียวทั้งสองแต่ไม่ได้หมายความว่าจะวางมือ เขาเพียงเปลี่ยนจากลิ้นเป็นนิ้ว ขอขุดร่องให้ธารน้ำไหลผ่านกว่านี้อีกสักหน่อย เป็นการกรุยทางให้ชัวร์ว่าทั้งเขาและเธอจะไม่เจ็บมาก
ดัชนีรูดผ่านกลางร่องบดบี้เม็ดสวาทจนหญิงสาวบิดเร่า ส่งเสียงกระสันในแบบที่ฝนแก้วไม่คิดว่าตัวเองจะร้องออกมาแบบนั้น ส่วนปรวีร์ยิ่งฟังยิ่งเห็นความเสียวกระสันของเธอ ก็ยิ่งปวดหนึบกลางกายจนแทบทนไม่ไหว กระนั้นก็กัดฟันข่มยอมให้เธอได้สุขสมสักหนึ่งรอบแล้วเดี๋ยวค่อยส่งของจริงตามไป
กระทั่งกายสาวผวาเฮือก กระตุกสั่นผสานไปพร้อมเสียงกรี๊ดลั่นและปลายเล็บที่ทั้งจิกทั้งข่วนบนตัวเขา จบคืนนี้ไปผิวขาวไร้ที่ติของปรวีร์คงเต็มไปด้วยรอยแมวน้อยข่วน ปรวีร์ก้มเลียน้ำรักที่ฉ่ำชุ่มออกมาพร้อมถอดชั้นในสุดท้ายของตัวเองออก ฝ่ามือชื้นเหงื่อกลับไปลูบเรือนผมหญิงสาวพร้อมจูบซับหน้าผากอย่างละมุน
“พี่ขอนะ เป็นของพี่นะคนดี”
ก็เป็นตั้งนานแล้ว ไม่ว่าความสัมพันธ์ในคืนนี้เริ่มมาจากอะไรก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ในความรู้สึกของฝนแก้วไม่นึกเสียดายหรือเสียใจที่ยกครั้งแรกให้ปรวีร์ แม้ว่าเขามีจุดประสงค์ที่โหดร้ายก็ตาม ...เธอเต็มใจ เต็มใจเป็นของเขา
อวัยวะแข็งลักษณะเป็นแท่งตรงกำลังรูดแหย่อยู่หน้าประตู ฝนแก้วชะโงกมองด้วยใจที่เต้นหวามไหวลงจังหวะไม่ถูก ในนาทีที่กำลังจะใส่เข้าไปเธอดันแผ่นอกไว้ด้วยเสียงละล่ำละลัก
“ป้องกันไหมคะ”
“จำเป็นด้วยเหรอ รับประกันว่าพี่ปลอดภัยไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอนกับใครก็ป้องกันตลอดไม่เคยใส่สดเลย”
“แล้วกับฝนล่ะ ทำไมไม่คิดป้องกัน อย่างน้อยก็ชัวร์ว่าจะไม่ท้อง”
“ไม่ท้องหรอกน่า เอาออกทัน”
คำพูดอย่างประมาท เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวจบลงพร้อมแท่งอุ่นที่แทงเข้าไปอย่างช้าๆ ความคับแน่นบีบให้เจ็บทั้งสองฝ่าย ฝนแก้วกรีดร้องลั่น และกัดบ่าเขาระงับความเจ็บ ปรวีร์จึงป้อนจูบร้อนเข้าไปแทน หวังดึงจุดโฟกัสให้ห่างจากสัมผัสกลางกาย ลิ้นร้อนผสานกันพร้อมอาวุธร้ายที่เลื่อนผ่านกลีบผกาอย่างยากลำบาก ทว่าสุดท้ายก็ผสานกันสนิทจนมิด ปรวีร์ยังไม่ถอนจูบในขณะที่เริ่มขยับโยก จังหวะเคลื่อนไหวไม่รุนแรงพยายามอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด
“หายเจ็บบ้างหรือยัง”
“ไม่เชิงค่ะ แต่ก็ดีขึ้น” คนรับบทนักเรียนมือใหม่ครางเสียงหลงก่อนตอบอย่างซื่อตรง พลางเสหลบความร้อนแรงในแววตาคมกล้า ทั้งที่ใจอยากตักตวงความคลั่งไคล้ของเขาไว้แต่ไม่อาจต้านทานความเขินของตัวเอง
“อย่างที่พี่บอกว่าปล่อยไปตามอารมณ์ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ถึงเจ็บแต่มันจะเป็นความเจ็บที่ฟินที่สุด”
“ฝนเชื่อพี่วีร์”
“ดีมากเด็กดี” เสียงกระเส่าครางรับอย่างพอใจ ขยับจังหวะให้เร็วขึ้นค่อยๆ ไต่ระดับความรุนแรงทีละนิดแม้สวนทางกับความร้อนเร่าจนธาตุแทบสลาย ปรวีร์ยอมขัดใจตัวเองเพื่อปรนเปรอสาวน้อยให้อิ่มเอม ครั้งแรกของเธอควรจะดีที่สุด
คนตัวโตเร่งเครื่องจนความเจ็บแรกรักเริ่มเลือนหาย ก่อนเปลี่ยนท่าทางใหม่รั้งแผ่นหลังบางให้นั่งทับหน้าขาของเขาที่อยู่ในลักษณะเหยียดตรง พร้อมกระซิบสอนให้เป็นฝ่ายลองขยับบ้าง นักเรียนของครูปรวีร์น่ารัก พยักรับหงึกหงักและเริ่มทำตาม เรียวปากเล็กเม้มแน่นกลั้นเสียงคราง นัยน์ตาปรือแสนเย้ายวน ส่วนประกอบบนใบหน้าหล่อนเซ็กซี่เสียจนปรวีร์ต้องคว้ามาบดจูบให้หนำใจ
ปรวีร์ยกคืนนี้ให้เธอเรียนรู้และตักตวงความสุขอย่างเต็มที่ เขาจะกัดฟันยอมไม่กระแทกกระทั้นดั่งใจนึกเพราะสงสารมือใหม่หัดขับ แต่เจ็ดวันนับจากนี้ไปขอเปลี่ยนเป็นฝ่ายตักตวงบ้าง ไม่ได้หมายความว่าอยากทำซาดิสม์เพียงแค่อยากลงแรงให้ถึงใจมากกว่านี้ ซึ่งดูท่าว่าฝนแก้วคงต้องเตรียมรับมือศึกหนัก เขากำลังติดใจความหอมหวาน หลงใหลในเสียงครวญคราง ชอบใบหน้าเขินแสนเซ็กซี่
ที่สำคัญปรวีร์ชอบรสจูบจากฝนแก้ว มันให้ความรู้สึกที่ไม่เชิงว่าแปลกใหม่ เพียงแค่อยากจูบเรื่อยๆ จูบแล้วจูบอีกให้ปากเปื่อยกันไปข้างหนึ่ง เจ็ดวันต่อจากนี้เขาจะใช้มันให้คุ้มเลย