ผมจะทำลายคนที่คุณรัก (1)

1542 คำ
                “นานแค่ไหนแล้ว”                “ครับ?”                “นานแค่ไหนแล้ววีร์ที่เขาสองคนแทงข้างหลังแม่” ประโยคคำถามเคล้าเสียงสะอื้น ปรวีร์ยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยรับรู้ความเจ็บปวดทั้งมวลของมารดาราวกับใช้หัวใจดวงเดียวกัน มือหนาบีบมือเหี่ยวย่นที่สั่นระริก มืออีกข้างลูบแผ่นหลังให้คลายแรงสะอื้น                “ผมผิดเองที่ไม่เคยบอกแม่ ผิดที่คิดว่าพวกเขาจะสนใจคำขอของผม ผมรู้ว่าพวกเขามีสัมพันธ์ลับๆ กันตอนก่อนผมไปเรียนที่อเมริกาครับ”                ความชอกช้ำ ร้าวราน และแตกสลายระคนกันอยู่ในดวงตาของจารีย์ สตรีวัยห้าสิบเอ็ดปีที่ล้มป่วยเฉียบพลันจากอุบัติเหตุในบ้านประกอบรวมกับโรคหัวใจที่เป็นมาก่อนหน้านี้ จารีย์ประคองร่างกายอย่างแข็งแรงตลอดมา น้อยครั้งนักจะเจ็บป่วยจนต้องแอดมิดเหมือนตอนนี้ สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเพื่อนสนิทและสามีตัวร้ายที่สวมเขาให้เธออย่างเลือดเย็น                 “สิบปี! สิบปีเลยเหรอที่แม่เป็นคนโง่”                ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าสามีจะมีสักกี่เมียน้อย เธอก็ไม่เคยว่าเพราะเจ็บจนด้านชาและปลงตกไปนานแล้ว แต่วันนี้มันเกินจะรับไหว เกินแรงกำลังทำใจกับการแทงข้างหลังอย่างเหี้ยมโหด จารีย์เคยเสียน้ำตาไม่รู้กี่ลิตรต่อกี่ลิตรกับความมักมากของปพนผู้เป็นสามี เคยขอหย่าจากกันแต่เขาก็ไม่ยอม เลยจมปลักดักดานพร้อมความรักที่เริ่มหมดไป นานวันเข้าก็ด้านชาจนไม่สนใจว่าเขาจะมีเมียอีกกี่คน                แต่ในบรรดาผู้หญิงที่เต็มใจนอนแบให้เอาทำไมเขาต้องเลือกรสริน!                “ผมขอโทษ ผมคิดว่าพวกเขาจะหยุด” ปรวีร์ไม่น่าหลงเชื่อคำลวงของผู้ใหญ่ตัณหากลับทั้งสองนั้นเลย                ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน เหลือเพียงอีกสองวันปรวีร์ในวัยสิบแปดปีก็จะบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ในระหว่างกำลังจะไปปาร์ตี้เลี้ยงส่งปรวีร์บังเอิญได้ข้อมูลจากเพื่อนว่าบิดาของตนพาผู้หญิงเข้าโรงแรม พร้อมแนบภาพถ่ายคมชัด                ปรวีร์รับรู้ปัญหาครอบครัวเสมอมา รู้มาตั้งแต่จำความได้ว่าบิดาไม่เคยจัดการความมักมากของตัวเองได้และเขาเกลียดนิสัยนั้น ปรวีร์ไม่เคยใส่ใจปัญหาเมียน้อยเพราะแม่ก็ด้านชาต่อปัญหานี้ไปแล้ว ทว่าภาพถ่ายใบนั้นไม่อาจทำเมินได้ สตรีที่บิดาโอบกอดขณะพาเข้าห้องพักของโรงแรมไม่ใช่หญิงวัยสาวสะพรั่งจัดจ้าน แต่เป็นรสรินเพื่อนสนิทของจารีย์                ปรวีร์ทนอยู่เฉยไม่ได้ เขาตามไปถล่มถึงห้องพลอดรัก ด่าทอเดือดพล่านถึงการกระทำต่ำช้า ดีแค่ไหนแล้วที่ปรวีร์ไม่พาจารีย์มาด้วย แต่ข่มขู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกฝนแก้วลูกสาวของรสริน ป่าวประกาศความระยำให้ลูกสาวตัวน้อยได้ภาคภูมิใจ รสรินในวันนั้นร้องไห้ขอโทษจนแทบก้มกราบปรวีร์ พร้อมสบถสาบานว่าจะยุติเรือบาปและขอร้องไม่ให้ปรวีร์บอกฝนแก้ว ในขณะที่ปพนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าระหว่างเขากับรสรินจบสิ้นสัมพันธ์กันตั้งแต่วันนั้น สัญญาหนักแน่นว่าจะเลิกติดต่ออย่างเด็ดขาด                ปรวีร์ชะล่าใจ หรือไม่ก็ทำเป็นไม่สนใจเรื่องเหล่านั้นอีก ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งพ่อและยัยป้าทรยศคงนัดพลอดรักกันทุกครั้งที่มีโอกาส แม่ของเขาด้านชาไม่สนใจความมักมากของผู้เป็นสามีมานานแล้วก็จริง แต่ใครเลยจะไม่ใจสลายหากชู้คนนั้นคือคนที่ให้สถานะเพื่อนรัก และสัมพันธ์ลับก็อาจเป็นความลับชั่วนิจนิรันดร์หากทั้งสองระวังตัวไม่ปล่อยผีกามในกายออกมาพล่านยามอยู่ที่บ้านของจารีย์                เย็นวานวันเกิดเหตุ รสรินมาที่บ้านของจารีย์ซึ่งนัดหมายไว้ก่อนแล้วว่าจะมาดูเครื่องเพชรที่หมายยืมใส่ไปงานการกุศล รสรินมาถึงก่อนเวลานัดในขณะที่จารีย์ยังไม่กลับจากทำธุระ ประจวบเหมาะเจาะกับที่ปพนอยู่บ้านพอดี ปรวีร์คาดว่าทั้งคู่คงคันหนักจนต้องเกาตอนนั้นให้เสร็จๆ ไป                และการกลับบ้านของจารีย์คงเงียบดั่งลอยลงจากฟ้าพวกคนบ้ากามเลยไม่รับรู้ จารีย์ทราบจากแม่บ้านว่ารสรินมาถึงแล้วแต่ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน จารีย์คิดว่าเพื่อนคงอยู่ในสวนเพราะบริเวณนั้นเป็นมุมโปรดของรสรินยามมาบ้านหลังนี้ จารีย์จึงมุ่งไปที่ห้องนอนของตนเพื่อหยิบเครื่องเพชรจากตู้เซฟ มือที่สัมผัสลูกบิดชะงักค้างเมื่อได้สดับเสียงสวาทหฤหรรษ์ เสียงนั้นไม่ดังมากแต่หากจ่อหูแนบประตูก็ได้ยินถนัดชัดเจน                ความรู้สึกของจารีย์เลยคำว่าหึงหวงหรือเจ็บปวดมานานแล้ว ปพนทำให้เธอกลายเป็นคนด้านชาจนเกือบไร้หัวใจ ณ ขณะนี้มีแต่ความเคืองโกรธที่เขากล้าพาเมียน้อยมาพลอดรักถึงในบ้าน แถมยังบังอาจทำเลวทรามที่ห้องนอนเธอแทนที่จะไปที่ห้องนอนของปพนเพราะเขากับเธอแยกกันนอนนานแล้ว                จารีย์ยืนกอดอกอยู่ตรงนั้น ไม่ขัดจังหวะเสพสม อดทนรอเพื่อจะเฉ่งสามีต่อหน้าเมียน้อย จารีย์อดทนได้อย่างเป็นเลิศยืนขาแข็งอยู่ตรงนั้นนับสิบนาทีกระทั่งประตูเปิดออกมา                ทว่าความถมึงทึงตั้งท่าด่ากราด กลายเป็นช็อกแตกสลายจนใบ้เบื้อเหมือนลิ้นโดนกระชากหาย ผู้หญิงที่จัดแต่งทรงผมพร้อมเดินนำสามีของเธอออกมาคือเพื่อนรักที่คบหากันอย่างยาวนาน จารีย์หายใจติดขัด ก้าวซวนเซถอยหลังด้วยความช็อก รู้สึกแน่นหน้าอก ปวดที่หัวใจ ทุกความเจ็บช้ำระคนกันหลากหลายจนลืมว่าเบื้องหลังนั้นคือบันได ครั้นสามีจะคว้าตัวไว้ก็ไม่ทัน                จารีย์พลาดตกบันไดและหมดสติถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผลการสแกนตรวจทั้งร่างกายตลอดจนสมองไม่เป็นที่น่ากังวล ซึ่งนับว่าแรงกระแทกยังปราณี แต่หัวใจยังอ่อนแอทั้งเชิงกายภาพและความรู้สึก                 ก๊อกๆ                เสียงให้สัญญาณภายนอกห้องพักผู้ป่วยดังขึ้น จารีย์ปาดน้ำตาลวกๆ ด้วยเกรงจะเป็นญาติพี่น้องที่มาเยี่ยม นาทีนี้ยังไม่มีแก่ใจสาธยายเรื่องดราม่าคาวโลกีย์ให้ใครฟัง ทว่าร่างที่เยื้องออกมาหลังบานประตูกลับไม่ใช่คนในบรรดาเครือญาติ                 “รีย์ ฉัน...”                “ยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ ออกไป!” บุตรชายผู้ป่วยตะเพิดไล่เยี่ยงหมูหมา จารีย์เบือนหน้าพรืดไปอีกทาง แม้แต่หน้าก็ไม่อยากมอง รสรินทำทีก้าวเข้ามาแต่ปรวีร์กระชากแขนลากออกไปนอกห้อง และพาเข้ามาตรงบันไดหนีไฟ                “วีร์ป้าขอโทษ”                “เก็บคำนี้ไว้ลงนรกเถอะครับ” ต่อให้ปั้นหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาก็ไม่ก่อเกิดความสงสารในใจปรวีร์แม้แต่น้อย หากเธอไม่ใช่เพศแม่เขาคงไม่กัดฟันบีบมืออยู่อย่างนี้ ไม่กี่นาทีก่อนหน้าปรวีร์ก็เพิ่งไล่บิดาบังเกิดเกล้าไป แต่รายนั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จนเกิดมีปากเสียงกัน และเป็นเหตุให้จารีย์รู้ว่าปรวีร์ทราบสัมพันธ์ฉาวของรสรินอยู่ก่อนแล้ว                “ให้ป้าคุยกับแม่เราหน่อยได้ไหม”                “ไม่ใช่ตอนนี้ และไม่ใช่ชาตินี้ ทำไมครับมันคันมาก มันคุมอารมณ์ไม่อยู่เลยเหรอถึงได้เอากันในบ้านของแม่ผมน่ะ คุณเคยหวังดีกับแม่ผมจริงๆ ไหม หรือที่ทุกวันนี้ยังไปมาหาสู่กันก็เพราะอยากใกล้ชิดกับชู้”                “ความรักมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน วีร์ไม่เคยรักใคร วีร์ไม่เข้าใจหรอก”                “ครับ ผมไม่เข้าใจความรัก แต่อย่างน้อยก็เข้าใจว่าความซื่อสัตย์มันเป็นยังไง ฝนแก้วคงภูมิใจนะที่มีแม่ทำตัวแบบนี้”                จากเสียงห้วนกระชากพลันเข้าสู่ความเรียบเย็นเรียกสายตาของหญิงตรงหน้าให้มองสบอย่างหาความ ใบหน้าหล่อเข้มซ่อนความนัยบางอย่างที่กระตุกหัวใจรสรินจนรู้สึกไม่ดี                  “ฝนแก้วไม่รู้เรื่องนี้ ไม่สมควรรู้”                “ทำไมจะไม่สมควรรู้ล่ะครับ น้องก็ยี่สิบแล้วไม่ใช่เหรอ ควรได้ภาคภูมิใจกับสิ่งที่แม่เขาทำมาตลอดสิบปี ลูกผัวก็มีอยู่แล้วแต่ยังเอากับผัวชาวบ้าน แถมยังเป็นผัวของเพื่อนสนิท คุณกับแม่ผมคบหากันมาครึ่งชีวิต แต่ยังหยิบมีดมาแทงเขาได้ ผมเคยให้โอกาสคุณแล้วนะแต่คุณก็ไม่รับไว้ แถมตอนนี้ยังทำให้แม่ผมเข้าโรงพยาบาล ถ้าผมยังอยู่เฉยๆ อีกก็คงด้านชาเกินไปแล้ว”                “วีร์จะทำอะไร”                “ผมจะทำลายคนที่คุณรัก ไม่ใช่พ่อผมหรอกนะ แต่เป็นลูกสาวคุณต่างหาก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม