ตอนที่ 1 นกฟีนิกซ์เยว่จั๋ว
“เมิ่งเฟย แกดูตัวแกเองสิ เอ้อระเหยลอยชาย เป็นพ่อพวงมาลัยทั้งวี่ทั้งวัน ฉันจะบอกแกให้นะ วันนี้เป็นวันนับถอยหลังสามวันสุดท้ายในสัญญาสามปี ถ้าแกยังมีคุณธรรมอยู่ ก็รีบอย่ากับลูกสาวของฉันซะ อย่ามาเสียเวลาลูกฉัน เข้าใจไหม ? ”
“หึ โคลนก็คือโคลน ไร้ความสามารถ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ อย่างแกมันก็คงเป็นได้แค่เด็กส่งของตลอดชีวิตนั่นแหละ ทั้งชีวิตจะเก็บเงินได้สักกี่พันหยวนกัน!”
หลิวเยี่ยนฮว๋าผู้เป็นแม่ยาย หลังจากได้ทิ้งคำพูดจาร้าย ๆ เหล้านี้ไว้ ได้ปิดกระแทกประตูแล้วเดินออกไป ปล่อยให้เมิ่งเฟยยืนอยู่ในห้องรับแขกเพียงลำพัง ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้อธิบายเลยสักนิด
แต่ก็นะ จะอธิบายหรือไม่อธิบายก็คงไม่สำคัญอยู่ดี
สามปีแล้ว เมิ่งเฟยอยู่บ้านหลังนี้มาสามปีแล้ว อีกสามวันก็จะครบกำหนดสัญญาสามปี หากเขายังไม่คิดจะทำอะไรจริงจัง มัวแต่เอ้อระเหยอยู่แบบนี้ ก็คงต้องอย่ากับหลีเสี่ยวหลินผู้เป็นภรรยาที่งดงามราวกับหยกมาลีเป็นแน่
เมิ่งเฟยไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่เขาพูดไปก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี!
ในเวลานี้ เมิ่งเฟยยังคงมึนงงสับสน ประตูห้องนอนถูกเปิดออก หลี่เจี้ยนจวินผู้เป็นพ่อตาเดินเข้ามาหาเมิ่งเฟยจากด้านใน
หลี่เจี้ยนจวินเดินมายังด้านหน้าของเมิ่งเฟย ตบบ่าของเขาเบา ๆ แล้วพูดจาผิดจากที่เขาคิดเอาไว้ “เอาล่ะ สามปีมานี้ ก็ยอมให้แกมามากแล้ว ควรพอได้แล้ว”
“เมิ่งเฟยอ่า พวกเราน่ะมันคนละชั้นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะปีนั้นแกช่วยลูกสาวฉันไว้ พวกเราจะรับปากยกลูกสาวให้แกได้ยังไง? แกเคยพูดเองหนิ ว่าลูกสาวฉันอยู่ระดับไหน แกน่ะอยู่ระดับไหน อ่า เอาล่ะ เตรียมตัวซะ อีกไม่กี่วันก็จัดการให้เรียบร้อย แบบนี้มันดีกับทุกฝ่าย!”
ใช่แล้ว หลีเสี่ยวหลินไม่เพียงแต่จะรูปร่างดี เติบโตมาอย่างสละสลวย แถมยังเรียนจบจากต่างประเทศอีก คนตามจีบเธอเยอะมาก แต่เมิ่งเฟยเป็นเพียงแค่คนส่งของ หากใช้คำพูดของหลิวเยี่ยนฮว๋ามาพูด ก็เป็นเพียง “หมารับใช้”
เมิ่งเฟยไม่ชอบคำเรียกนี้เลยสักนิด หาเงินด้วยการใช้แรงกำลัง มีอะไรน่าอาย?
ทว่า ในสายตาฝั่งญาติของพ่อตาแม่ยาย เมิ่งเฟยก็เป็นเพียงคนตลกในสายตาพวกเขา!
เมิ่งเฟยสีหน้าอ่อนลง มองไปยังพ่อตา เงยหน้ามาแล้วพูดขึ้น “ป๊า…”
พึ่งเอ่ยได้เพียงคำเดียว ก็ถูกหลี่เจี้ยนจวินขัดจังหวะ ยื่นมือทำท่าทางพร้อมเอ่ยว่า “หยุด
อย่าเรียกฉันว่าป๊า ฉันรับไม่ได้ แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่ต้องอธิบาย เอาแบบนี้แหละ อย่ากันแล้วมันจะดีกับทุกฝ่าย”
เมิ่งเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ก็เห็นหลี่เจี้ยนจวินเดินออกไปแล้ว เวลานี้ เหลือเขาเพียงคนเดียวในบ้าน หลีเสี่ยวหลินไปทำงานยังไม่กลับมา ส่วนน้องสาวภรรยาก็ออกไปเที่ยว
ปัง!
ประตูถูกปิดอย่างแรงโดยฝีมือผู้เป็นพ่อตา สร้างความตกใจให้กับเมิ่งเฟยจนยืนตัวแข็งทื่อ
เวลานี้ จิตใจของเมิ่งเฟยกำลังยุ่งเหยิง เขาเดินคอตกไปยังห้องน้ำ เมื่อครู่แบกข้าวสารมาสองกระสอบ ทั้งตัวมีแต่ฝุ่น อาบน้ำก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครพอดี
เมิ่งเฟยรู้สึกลำบากใจมาก เขาถอดเสื้อผ้าพร้อมกับเปิดฝักบัวอาบน้ำ แต่เขาเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เอง จะโทษใครไม่ได้ ตอนนั้นพ่อและแม่ต่างไม่เห็นด้วย กลัวว่าเขาจะไม่เป็นที่รักใคร่ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เป็นดั่งคำที่ว่าไว้จริง ๆ
เมิ่งเฟยหลับตายืนใต้ฝักบัวอาบน้ำ เงยศีรษะ ใช้น้ำอุ่นชำระร่างกายที่แข็งแรงกำยำ เพียงแต่เจ็บขาเล็กน้อย นั่นเเพราะการช่วยหลีเสี่ยวหลินในปีนั้น ไปโรงพยาบาลใหญ่ ๆ มาหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ถึงขนาดเจ็บทุกครั้งยามเมฆฝนครึ้ม และหลังทำงานเสร็จ แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยมันออกมา เพียงทนเก็บไว้คนเดียวเงียบ ๆ
สิบนาทีต่อมา หลังเมิ่งเฟยอาบน้ำเสร็จ เขาหันไปหยิบผ้าเช็ดตัว พร้อมเช็ดตัวไปพลางมองตนเองในกระจก และจี้หยกของบรรพบุรุษที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก นี่เป็นของล้ำค่าของเขา แม้ไม่ได้มีราคาสูง แต่กลับใส่ติดตัวไว้ตลอด
เมิ่งเฟยมองดูตนเอง เขาหัวเราะอย่างขืน ๆ แล้วนำผ้าเช็ดตัวกลับไปวางไว้ที่เดิม จากนั้นก็เตรียมทำความสะอาด นี่เป็นกิจวัตรของเขาหลังอาบน้ำเสร็จทุกครั้ง ไม่อย่างงั้นหากคนอื่นเห็น ก็จะถูกด่าว่าอีกตามเคย
ทว่า ในขณะที่เขากำลังหมุนตัว เท้าเจ้ากรรมดันลื่นจนทำให้เขาล้มลง และได้รับบาดเจ็บ เขาทำหน้าตาเหยเกฉับพลัน ดูแล้ววันนี้คงจะเป็นวันที่โชคร้ายจริง ๆ ถูกด่าไม่พอ ตนเองยังลื่นล้มอีก แถมยังเป็นท่าหกคะเมนศีรษะทิ่มพื้น ช่างแย่จริง ๆ
“เห้อ ฉันคงดวงไม่สมพงศ์กับบ้านหลังนี้ หรือบางทีการออกไปจากที่นี่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด?”
เมิ่งเฟยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เขานวดคลึงลำตัวเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน เขาไม่ค่อยเจ็บตัวเท่าไร ขาก็ไม่เจ็บ แต่หน้าอกดันเจ็บขึ้นมา หรือปอดจะฉีกกันนะ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร
ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนถูกแท่งร้อนนาบมาที่ผิว นั่นทำให้เขาไม่อาจทนได้ แต่ตรงนี้ก็ไม่ได้มีท่อนเหล็กอะไรนี่นา?
ตรงหน้าอกมีเพียงจี้หยกของบรรพบุรุษ หรือว่าจี้หยกจะแตกหักแล้วมาขูดผิว?
ไม่ใช่ แม้ว่าจี้หยกจะแตกหักจนทิ่มผิวหนัง ก็ไม่น่าจะเป็นความรู้สึกแบบนี้นะ?
เมิ่งเฟยอดทนต่อความเจ็บปวด เขายืนอยู่ด้านหน้ากระจก อยากจะเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อได้เห็น ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจอย่างหนัก!
เพียงเห็นว่า แผ่นจี้หยกนั้นไม่เพียงแต่จะไม่แตกหัก แถมยังไม่บุบสลายอีกด้วย แต่ตอนนี้กลับติดหนึบอยู่ที่หน้าอกเขาอย่างแนบแน่น เมิ่งเฟยลองที่จะหยิบมันออกมา แต่มันก็เหมือนจะติดแน่นอยู่อย่างนั้น จะหักออกยังไงก็ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ แผ่นจี้หยกนั้นดูเหมือนจะขยายตัวบนพื้นผิวหนังของเขา แต่มันกลับค่อย ๆ ทะลุเข้าไปในชั้นผิว ใช่แล้ว มันกำลังจะทะลุเข้าไป
เมิ่งเฟยเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น แผ่นจี้หยกนั้นดูแล้วเหมือนมันจะค่อย ๆ จมลงในน้ำ แต่นี่มันเป็นผิวหน้าอกของเขาชัด ๆ มันเข้าไปได้ยังไง?
เมิ่งเฟยในเวลานี้ ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเป็นความฝัน ทำไมถึงได้แฟนตาซีขนาดนี้?
เนื่องจากมันเจ็บเกินไป ฉะนั้นเมิ่งเฟยจึงไม่ได้มีเวลาคิดอะไรมาก หลังจากเห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ถึงกับตกตะลึง ยื่นมือทั้งสองข้างออกแรงเต็มที่เพื่อจะดึงมันออก แต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิดเดียว เขาทำได้เพียงมองมันหายไปโดยสมบูรณ์อย่างงง ๆ
ท้ายที่สุด แผ่นจี้หยกก็หายไปโดยสมบูรณ์ ทิ้งไว้เพียงรอยตำหนิสีดำบนเนินหน้าอกของเขา ช่างดูราวกับรอยสัก เสมือนจริงมาก
นั่นคือนกฟีนิกซ์เยว่จั๋ว หนึ่งในห้าฟีนิกซ์ในตำนาน กายสีดำขลับ เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์จงรักภักดี และไม่ยอมก้มหัวให้กับศัตรู
แต่…นี่มันมีความเกี่ยวข้องกับเมิ่งเฟยยังไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? คงไม่ใช่โดน
คำสาปอะไรหรอกใช่ไหม?
ในขณะที่เมิ่งเฟยกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดนี้ได้ เขาไออกมาเล็กน้อย ดวงตาค่อย ๆ มืดลง จนเป็นลมหมดสติไป
ทว่า เมิ่งเฟยที่หมดสติไป กลับ “ฟื้น” ขึ้นมา เขาพบว่าตนเองกำลังอยู่ในห้องที่มืดสนิท เขามองไม่เห็นอะไรเลย รู้สึกเหมือนตกอยู่ในหลุมดำก็ไม่ปาน สร้างความหวาดกลัวให้เขาอย่างไร้สาเหตุ
ทันใดนั้น เกิดการปรากฏตัวของนกตัวใหญ่ ดูแล้วคล้ายกับนกฟีนิกซ์ เมิ่งเฟยก็ยังไม่เข้าใจ ว่าจะมีใครเคยเห็นสิ่งนี้ นั่นล้วนแล้วแต่อยู่ในเททพนิยาย ที่จริงแล้วนี่คือนกฟีนิกซ์เยว่จั๋ว ที่มีชายชราหนวดเคราสีขาวยืนอยู่ด้านบน ดุจดั่งเทพเซียน ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและอ่อนโยน
เวลานี้ เมิ่งเฟยกำลังตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเราตายแล้วเหรอ?
ที่นี่คือนรกเหรอ?หรือชายชราหนวดเคราสีขาวท่านนี้จะมารับวิญญาณของตนงั้นเหรอ?