คาเทียร์สะบัดหน้าใส่ผู้ชายตรงหน้า เธอรู้หรอกว่าเขาแกล้งถามออกมาให้เธออายเล่น ๆ ที่ถูกเพื่อนทิ้งแบบนี้ แต่เขาคงลืมไปว่าตัวเองก็ไม่มีแฟนเหมือนกับเธอ
“รอให้พี่หาแฟนได้ก่อนนะ ฉันถึงจะมีแฟน”
“แล้วผู้ชายที่ต่อแถวรอถึงหน้ามหาลัย เธอเอาไปไว้ที่ไหน”
ตะวันเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่าง ทำให้คาเทียร์หมั่นไส้เขาอย่างหนัก“แล้วพี่เกี่ยวอะไรด้วย”
“แล้วถ้าฉันไปต่อแถวล่ะ ถึงคิวฉันเธอจะสนใจฉันหรือเปล่า”
“สองครั้งแล้วนะ”
“สองครั้งอะไร?”
“พี่พูดแบบนี้กับฉันสองครั้งแล้วนะ ตอนแรกก็คิดว่าพี่พูดเล่น แต่ตอนนี้ฉันเริ่มเชื่อจริงแล้วนะ”
เมื่อวานเขาก็พูดทำนองนี้กับเธอ แต่พอเธอถามเขาก็บอกว่าเธอหลงตัวเอง แล้ววันนี้เขาก็พูดแบบนี้อีก จะไม่ให้เธอคิดได้ยังไงว่าเขาหลงเสน่ห์เธอจริง ๆ
“ตอบคำถามฉันมาก่อน”
“พี่ก็รู้ว่าพี่ไม่ใช่ผู้ชายในสเปกฉัน อีกอย่างเราสองคนไม่เหมาะสมกันหรอก ตัวเองยังเคยบอกว่าฉันเป็นคุณหนูเท้าเหยียบไม่ถึงพื้น มาวันนี้พูดแบบนี้ คิดว่าจะหลอกฉันได้หรือไง”
“ฮ่า! ฮ่า!”ตะวันขำท่าทางของเธอ ที่ทำปากขมุบขมิบด่าเขา อันที่จริงเขาเริ่มสังเกตุมานานแล้วว่าเธอไม่ได้เหมือนภาพลักษณ์ที่ทุกคนบอก ที่เขาได้ยินผู้ชายส่วนใหญ่พูดกันคือเธอเป็นผู้หญิงที่เข้าถึงยาก ถ้าไม่หล่อไม่รวยจริง ๆ เธอจะไม่พูดด้วย
“พี่ขำอะไร หรือฉันพูดตรงใจพี่ใช่ไหมล่ะ”
“เธอเป็นคนแปลก ๆ ดีนะ เอาล่ะขึ้นรถมาได้แล้ว มัวแต่พูดจนจะสายอยู่แล้วนะ”
คาเทียร์มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วทำตาเหลือกลนลาน เธออุตส่าห์เผื่อเวลาเข้าเรียนแล้วแท้ ๆ แต่กลับมาสายเพราะต้องมายืนพูดกับผู้ชายคนนี้
ตะวันบิดรถอย่างเร็วเพื่อให้เธอทันเวลาเข้าเรียน ทำเอาคาเทียร์ต้องกอดเอวเขาแน่นเหมือนเมื่อวานอีกครั้ง
ตะวันจอดรถตรงหน้าคณะบริหาร เขาขัดขืนคำสั่งของเธอที่บอกให้เขาจอดที่ลานจอดรถของคณะวิศวะ เธอคงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาเป็นคนมาส่ง แต่ทว่าเขาแค่อยากแกล้งให้เธอหัวร้อนเล่น ๆ เพราะเวลาเธอโมโหไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขามองว่าเธอน่ารัก
“ฉันบอกให้พี่ส่งฉันที่ลานจอดรถคณะพี่ ทำไมไม่ทำ”
เสียงหวานแหวออกมาทันทีที่ถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้เขา แววตาเธอล่อกแล่กเหมือนกลัวใครเห็น เขายิ่งสนุกที่เธอมีอาการแบบนั้น
“แฟนก็ไม่มี เธอกลัวใครเห็น หรือว่ากลัวเรตติ้งจะตก”
คาเทียร์สะบัดหน้าหนีเขา เธอไม่ตอบแต่รีบเดินหนีเขาทันที ผู้ชายอะไรกวนประสาทเป็นบ้า ถ้าไม่ติดว่าอยู่ตรงหน้าคณะของเธอ จะด่าให้เจ็บเลย
“มึงอารมณ์ดีอะไรว่ะ ไอ้ตะวัน”
สกายตะโกนถามเพื่อนสนิท ที่เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้ามา นิ้วเรียวหมุนควงกุญแจในมือ เดินไปนั่งตรงที่โต๊ะประจำของกลุ่มที่มีเพื่อนนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
“สงสัยพ่อมันยกมรดกที่ดินพันกว่าไร่ให้แล้ว ฮ่า! ฮ่า!”
เพื่อนทุกคนรู้ว่าที่บ้านของตะวันที่ต่างจังหวัด เป็นอาณาจักรไร่องุ่นพันกว่าไร่ เรียนจบไปก็ต้องกลับไปเป็นชาวไร่ที่นู่น แต่ที่เลือกมาเรียนวิศวะเพราะความชอบส่วนตัวล้วน ๆ ถึงรู้ว่าจบไปคงจะไม่ได้ทำงานด้านนี้ก็เถอะ
“กูเจอเรื่องสนุก ๆ”
“เรื่องสนุกอะไรของมึงว่ะ บอกกูบ้างดิ กูอยากสนุกบ้าง“คีรินเดินเข้ากอดคอเพื่อนรักของเขา ในบรรดาเพื่อนทุกคนเขาจะสนิทกับตะวันที่สุด อีกทั้งตอนนี้ยีนส์เพื่อนสนิทอีกคนก็ติดเมียอย่างหนัก ไม่ค่อยมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเท่าไหร่ จะเจอแค่ตอนมาเรียนเท่านั้น เวลาอื่นคือยกให้เมียหมด
“คืนนี้ออกไหมว่ะ ไม่ได้ออกนานแล้วนะ กูเสี้ยน”โซลเอ่ยออกมา ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมา แล้วเดินออกไปสูบตรงหลังตึกทันที โดยเพื่อนคนอื่นก็เดินตามไปเหมือนกัน
“ระวังเอดส์บ้างก็ดี เสี้ยนบ่อย ๆ”
“สัดยีนส์!!! พอมีเมียแล้วปากมากว่ะ เดี๋ยวกูฟ้องมิลลิว่ามึงปากหมาใส่พี่ชายเขา”สกายพูดออกมาเสียงดัง ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาใส่หน้าตะวันที่ยืนอมยิ้มอยู่
“กูว่ามึงแปลก ๆ นะ เรื่องสนุกที่ว่าคือเรื่องอะไร”คาเตอร์หรี่ตาจับผิดตะวันที่ยังคงเอาแต่ยืนอมยิ้มอยู่แบบนั้น จนคีรินยกมือขึ้นตบหัวเพื่อเรียกสติ
“มึงเป็นอะไร? ทำตัวเหม่อลอยเหมือนคนมีความรัก”
“ความรักอะไรของพวกมึง กูแค่ยิ้มที่ได้อยู่กับพวกมึงไงว่ะ”ตะวันรีบตอบออกไปทันทีเมื่อคาเตอร์ถาม เรื่องที่เขากำลังยิ้มเมื่อกี้เขาอาจโกหก แต่เรื่องที่เขาดีใจที่ได้อยู่กับเพื่อนนั่นคือเรื่องจริง เขาเป็นคนหนึ่งที่รักเพื่อนมาก ตอนนี้มีเวลาอยู่กับเพื่อนอีกไม่ถึงปี เขาก็ต้องกลับต่างจังหวัดไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“งั้นคืนนี้ต้องออกแล้วไหมว่ะ”
12.30น.
คาเทียร์กับเพื่อนสองคนเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนตรงหน้าคณะ วันนี้อากาศร้อนมาก พัดลมขนาดพกพาที่เธอใช้เป็นประจำก็เอาไม่อยู่
“ร้อนจะตายอยู่แล้ว เหงื่อกูไหลจนเครื่องสำอางเยิ้มหมดแล้ว”เป็นเรื่องปกติของเธอที่จะบ่นแบบนี้ เธอเป็นคนที่ต้องทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลา
“น้องชื่อคาเทียร์หรือเปล่าครับ”
ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เดินอาด ๆ เข้ามาหาเธอที่นั่งอยู่ แต่คาเทียร์ไม่ได้ตกใจ เธอชินเสียแล้วที่จะมีผู้ชายเข้ามาทำความรู้จักแบบนี้
“ใช่ค่ะ พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่อยากทำความรู้จักกับเราได้หรือเปล่า พี่ชื่อวิคเตอร์ เรียนอยู่ปีสี่คณะนิเทศศาสตร์ครับ”
คาเทียร์จำได้ว่าเคยเห็นพี่คนนี้บนโปสเตอร์ละครเวทีของคณะนิเทศฯ ตอนนั้นก็ยังพูดกับเพื่อนสองคนว่าหน้าตาดีมาก ไม่คิดว่าเขาจะอยากมาทำความรู้จักเธอ
“ค่ะ…พี่ก็รู้จักเทียร์แล้วนี่คะ”
“แต่พี่อยากรู้จักมากกว่านี้ได้หรือเปล่าครับ”
หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้น ไม่เข้าใจที่เขาบอก ก็ในเมื่อเขาอยากรู้จักเธอ เขาก็รู้ชื่อเธอแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจ
“หมายถึงขอคอนเทคติดต่อกันนะครับ”
“ไอจี เฟสบุ๊คของเทียร์เป็นสาธารณะค่ะ ถ้าพี่อยากได้ก็ติดต่อมาทางนั้นแล้วกันนะคะ”
วิคเตอร์เดินคอตกกลับไป เรื่องที่เขาได้ยินมาว่าเธอหยิ่งคงจะเป็นเรื่องจริง ทั้งที่เพื่อนของเขาก็เตือนแล้วว่าอย่าหน้าด้านเข้ามาหาเธอเลย แต่เขาก็ไม่ฟัง
แต่สิ่งที่วิคเตอร์คิดนั้นตรงข้ามกับคาเทียร์โดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อวิคเตอร์เดินออกไป คาเทียร์ก็ฟุบหน้าลงส่งเสียงกรี๊ดออกมาทันที เธอดีใจที่เขาสนใจเธอ นับว่าเป็นผู้ชายคนแรกเลยก็ว่าได้ที่เธออยากทำความรู้จักมาตั้งนานแล้ว
ทั้งมิลลิและปลายฝนมองการกระทำของเพื่อนอย่างขำ ๆ ทั้งสองคนรู้ว่าคาเทียร์ปลื้มรุ่นพี่คนนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่ชวนพวกเธอสองคนไปดูละครเวทีของคณะนิเทศฯ เป็นเพื่อน ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะชอบเพื่อนเธอด้วย
“มึงชอบพี่เขาแล้วมึงไปนิ่งใส่ทำไมว่ะ”
“ก็กูตื่นเต้น มึงดูมือกูสิ”
ยกมือเล็กอันสั่นเทาขึ้นให้เพื่อนดู ภายในใจเธอเต้นระรัว ที่แท้เธอก็รอผู้ชายคนนี้อยู่นี่เอง ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มออกมา นับว่าเป็นการรอที่รู้สึกว่าคุ้มค่ามากที่สุด