ตอนที่4 หมดอารมณ์

1444 คำ
“แล้วพี่เขาจะติดต่อกลับมาหากูไหมว่ะ หรือว่ากูควรทำเป็นติดต่อไปหาพี่เขาดี” “กูเชื่อเลย มึงมันบ้าอีเทียร์ ชอบเขาแต่ทำเป็นหยิ่งใส่เขา หยุดคีฟลุคคุณหนูสักทีเหอะ เดี๋ยวจะขึ้นคาน” “ปากเสียอีมิล คนนี้แหละที่เหมาะเป็นพ่อของลูกกู”ดวงตากลมโตเหม่อลอยขึ้นไป ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็รู้แล้วว่าเขาก็ชอบเธอ คงไม่แปลกใช่ไหมถ้าเธอจะทักไปหาเขาก่อน อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าก็ได้ “เดี๋ยวคืนนี้กูจะทักไปหาพี่เขาก่อน พวกมึงรอดูกูได้เลย”ทั้งมิลลิและปลายฝนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “นั่นพวกคาเทียร์นิ นั่งทำอะไรตรงนั้น” คาเตอร์เห็นน้องสาวตัวเองนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็หยุดยืนดูและทักขึ้นมา เขาเดินมาจากคณะกับตะวัน ซึ่งก่อนที่คาเตอร์จะทักขึ้นมานั้น ตะวันเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ตรงนั้นนานแล้ว และได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอด้วย ก่อนหน้าเขาก็เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้ง อีกทั้งผู้ชายหลายคนก็เคยพูดถึงเธอบ่อย ๆ แต่ทว่าเขากลับไม่รู้สึกอะไร ไม่เหมือนตอนนี้ที่เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เห็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขากำลังเป็นอะไร ทั้งที่ก่อนหน้าก็ไม่ได้ชอบเธอเสียด้วยซ้ำ เธอเป็นผู้หญิงที่คนละขั้วกับเขาอย่างสิ้นเชิง เรียกว่าเหมือนฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ ไม่ได้หมายถึงความจน ความรวยนะ แต่หมายถึงการใช้ชีวิตของเราต่างหากที่ต่างกันมากเกินไป “ทำไมมึงทำหน้าแบบนั้น ไอ้ตะวัน” “เปล่า กูร้อน”เขารีบเดินกลับคณะทันทีโดยไม่รอคาเตอร์ที่ยืนทำหน้างงกับการกระทำของเพื่อน ก่อนหน้านี้เราสองคนยังพูดกันดี ๆ แต่อยู่ ๆ มันก็เงียบไปทันทีตอนที่เขากำลังสนใจคาเทียร์น้องสาวของเขา หรือว่ามันจะร้อนจริง ๆ ที่เขาปล่อยให้มันยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนตะวันก็รีบเดินไปหลังอาคารเรียนทันที เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พยายามไล่ความคิดของตัวเองที่กวนใจเขาอยู่ตอนนี้ แค่เรื่องเมื่อวานทำไมเขาถึงมองคาเทียร์แปลกไปจากเดิมได้ขนาดนี้ แล้วเพิ่งเห็นว่าเธอน่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมในหัวเขาถึงได้มีแต่ภาพเธอไม่หยุด ตกตอนเย็นตะวันเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ เขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นคาเทียร์ยืนอยู่ตรงรถของเขา ผู้หญิงคนนี้มากวนใจเขาอีกแล้ว เมื่อตอนบ่ายเขาเพิ่งสลัดเรื่องของเธอออกไปจากหัวได้ ตอนนี้เธอกลับมาอยู่ในสายตาเขาอีกแล้ว “มีอะไร?” “พอดีอู่ซ่อมรถโทรมา ทำไมพี่ไม่บอกว่าเป็นรถฉันล่ะ รถซ่อมเสร็จแล้วเขาบอกให้พี่ไปเซ็นต์รับรถด้วย” ที่แท้เธอก็มาเพราะเรื่องนี้ หลงคิดไปว่าเธออยากกลับบ้านกับเขาเสียอีก“ก็ไปสิ” “พี่ไม่สะดวกอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “รีบขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเขาไม่ปกติ เธอก็กระโดดขึ้นรถของเขาทันที เพราะเธอขึ้นมันสองสามครั้งแล้ว ทำให้ท่าทางดูทะมัดทะแมงขึ้นมาก เมื่อเธอขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ตะวันก็ขับรถออกจากมหาลัยทันที เขาขับอย่างเร็วเพื่อไปให้ถึงร้านซ่อมเร็วที่สุด เมื่อมาถึงเขาก็เซ็นต์รับรถให้เธอก็เตรียมตัวจะกลับทันที แต่ทว่าคนตัวเล็กดึงแขนเขาเอาไว้ มองเขาด้วยสายตาสงสัย “พี่ต้องโทษตัวเองนะ ที่ไม่บอกที่ร้านว่าเป็นรถฉัน เลยต้องเดือดร้อนพี่มาด้วยเลย” คนตัวเล็กคิดว่าที่เขาไม่พอใจเธออยู่ตอนนี้เพราะเรื่องที่เขาต้องลำบากมาเอารถกับเธอ“เพราะงั้นจะมาทำเหมือนไม่พอใจฉันแบบนี้ไม่ได้” “ฉันบอกตอนไหนว่าไม่พอใจเธอเรื่องนี้” “ก็หน้าพี่ไงมันบอก แต่ฉันคงรบกวนพี่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ ขอบคุณแล้วก็ขอโทษนะคะที่ทำให้ลำบากไปด้วย” คาเทียร์พูดยาวเหยียดก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที นึกไม่พอใจเขาที่ทำแบบนั้นกับเธอ ไหนบอกว่าเต็มใจช่วย แล้วทำไมทำหน้าเหมือนเธอไปบังคับอะไรเขาอย่างนั้นแหละ ส่วนตะวันเมื่อเห็นคาเทียร์ขับรถออกไปด้วยท่าทางรีบร้อน ก็รู้สึกผิดขึ้นมาที่เผลอทำหน้าแบบนั้นใส่เธอ เขาควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองมากกว่าที่จะทำแบบนั้นกับเธอ เธอไม่ได้ผิดอะไรสักนิด มือหนายกขึ้นสะบัดผมตัวเองแรง ๆ หงุดหงิดที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ 21.45น. ห้าหนุ่มมาเที่ยวผับตามที่นัดกันไว้ ที่เหลือเพียงห้าหนุ่มเพราะยีนส์คืนคนที่ขอตัวเพราะติดเมีย ซึ่งเพื่อนทุกคนก็ชินแล้วที่เป็นแบบนี้ “ไอ้โซล มึงเห็นสาว ๆ กลุ่มนั้นไหมว่ะ น่าสนใจทุกคน” สกายพยักเพยิดไปยังสามสาวที่นั่งโต๊ะห่างจากกลุ่มพวกเขาไปประมาณสามโต๊ะ เพราะออร่าความสวยของกลุ่มพวกเธอ ทำให้มีหนุ่มในผับหลายคนจับจ้อง แต่ทว่าทั้งสามสาวกลับหันหน้ามาส่งยิ้มให้กลุ่มของเขา “เออ กูจองคนใส่ชุดสีขาว”มือหนาของโซลยกแก้วขึ้นดื่มด้วยท่าทางปกติ แต่ทว่าสายตาคมของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ว่า ซึ่งเธอก็กำลังจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนกัน "แล้วมึงไอ้ตะวันสนใจใคร" ตะวันเงยหน้าขึ้นมองไปยังโต๊ะที่เพื่อนว่า ปกติสาวสวยแบบนั้นเขาไม่เคยพลาดที่จะเข้าไปพูดคุยทำความรู้จัก แต่ทว่าวันนี้เขาแค่อยากมาเมาอย่างเดียวเท่านั้น เลยส่ายหัวบอกเพื่อนไป “อะไรของมึง ผู้หญิงเกาะอกสีดำนั่นสเปกมึงเลยนะ พวกกูอุตส่าห์เหลือไว้ให้”คีรินหรี่ตาจับเพื่อนสนิท เขาสังเกตุมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วว่าอาการมันแปลก ๆ ไป “ทำไมมึงทำหน้าเหมือนไม่อยากมา มีปัญหากับที่บ้านหรือเปล่า” “เปล่า แค่เบื่อ ๆ กูอยากเมาว่ะ” “งั้นถ้ามึงไม่สนใจ กูจองนะไอ้ตะวัน”สกายถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งเขาก็พยักหน้ายืนยันว่าไม่สนใจจริง ๆ ทำให้สามหนุ่ม คาเตอร์ สกายและโซล เดินไปหาผู้หญิงโต๊ะนั้นทันที ทั้งโต๊ะเลยเหลือแค่เขากับคีรินสองคน “แม่ง!!! พวกเหี้ยชวนกูมาแล้วก็ทิ้งไปอีกแล้ว มึงว่ามันกลับมาอีกไหมว่ะ” “จากนิสัยของพวกมัน กูว่าไม่กลับ ว่าแต่ทำไมมึงไม่สนใจใครบ้างว่ะ ไม่ต้องห่วงกูนะ กูอยู่คนเดียวได้” คีรินยกแก้วขึ้นดื่ม ปกติเขามาเที่ยวที่แบบนี้ ก็แค่อยากมาปลดปล่อยเท่านั้น ไม่ได้สนใจว่าต้องมาล่าเหยื่อเหมือนเพื่อนสามคนทุกครั้ง“อีกสองเดือนไปฝึกงาน รู้สึกเหงาชิบหาย” “เหงาเหี้ยไร มึงกับกูฝึกที่เดียวกันไอ้คีริน” “อ้าว...ก็ไอ้พวกสี่ตัวนี้มันฝึกที่เดียวกันนี่หว่า” “เออก็จริง ใจโหวง ๆ เหมือนกันนะ ฝึกงานเสร็จเรียนจบ กูก็ต้องกลับบ้านทันที กูต่างหากที่ควรบ่นว่าเหงา” การเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตลอดเกือบสี่ปี สำหรับตะวันแล้วเป็นความทรงจำที่ดีมาก เขาได้รู้จักกับกลุ่มเพื่อนที่ช่วยเหลือกันทุกอย่าง แม้จะปากหมาใส่กันไปบ้าง แต่เราหกคนก็สนิทกันชนิดรู้ไส้ รู้พุงกันทุกอย่าง พอต้องถึงวันจากกันจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะทำใจได้แค่ไหนที่ต้องห่างกับเพื่อน “ขับรถไม่กี่ชั่วโมงจากที่นี่ไปบ้านมึง กูจะขับไปหาให้มึงเบื่อขี้หน้ากูเลยดีไหม”แก้วเหล้าถูกยกขึ้นมายื่นมาตรงหน้าเขา “มึงสัญญาแล้วนะ”แล้วแก้วของเขาก็ถูกส่งไปชนกับแก้วเหล้าของคีริน ก่อนที่จะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม