หลังจากคุณชายหน้าหวานแห่งร้านน้ำชาได้เดินออกจากร้านไปได้สักครู่ จอมยุทธ์หนุ่มก็ทำการช่วยเสี่ยวอ้อเก็บสิ่งของที่ตนเป็นผู้ทำลายจนเป็นระเบียบแล้วหยิบอัฐจ่ายชดใช้ค่าเสียหายแต่ถูกปฏิเสธจากอาปั้วเจ้าของร้าน ในใจของเขากำลังคิดว่าคุณชายท่านนี้ก็เป็นคนดี ดูแลเป็นห่วงเป็นใยคุณชายพิณอย่างดีแต่ทำไมอีกฝ่ายถึงกลับมีปฏิกิริยาเช่นนั้นกับตน เหมือนพยายามจะยั่วยวนให้ตนหลงใหลคลั่งไคล้ในเสน่หาของเขา ทำให้เขาคิดได้ว่าก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกจากร้านไป คนร่างเล็กได้พูดบางอย่างกับจอมยุทธ์ต๊ะไว้ เขาจึงกล่าวอำลาเจ้าของร้านก่อนจะเดินออกไปจากร้านทันที
เมื่อเขาเดินออกจากร้านก็เดินตามเส้นทางที่คุณชายพิณบอกไว้ กระทั่งมาถึงปากซอยตามที่นัดหมายแต่เขากลับไม่พบใคร ทำให้เขาเกิดความสับสนก่อนจะยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความไม่เข้าใจ จอมยุทธ์หนุ่มลองเดินไปรอบๆ บริเวณนั้นแล้วสังเกตผู้คนที่ดูพลุกพล่าน ไม่นานสายตาเขาก็ไปสะดุดเข้ากับคุณชายพิณที่กำลังเดินเลือกซื้อของผู้หญิงอยู่ จะว่าไปคุณชายพิณเมื่อมองจากภายนอกก็มีความคล้ายคลึงสตรีเพศนางหนึ่งเลยทีเดียว ที่มีความสวยหวานและอ่อนโยนอยู่ในตัวแต่เมื่อมองที่แววตาเขากลับสัมผัสได้ถึงความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในนั้นอย่างประหลาด สวนทางกับกริยาที่เขาเพิ่งพบเมื่อสักครู่ในโรงน้ำชา คุณชายพิณคนนั้นที่มีท่าทางหัวเราะมีความสุข พูดคุยสนุกสนานกับทุกคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต่างจากที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มาก
จอมยุทธ์หนุ่มเดินเข้าไปหาคนนัดหมาย เมื่ออีกฝ่ายเหลือบเห็นเขาจึงรีบเดินหนีไปอีกทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ด้วยความสงสัยเขาเลยเดินตามคุณชายพิณไปอย่างไม่คลาดสายตา กระทั่งมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ที่อาณาบริเวณนี้รายล้อมไปด้วยต้นดอกเหมย ที่มีความสวยงามดั่งสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย่างที่จอมยุทธ์หนุ่มไม่เคยพบเห็นมาก่อน เมื่อเขามาถึงสถานที่แห่งนี้ก็ได้พบกับคุณชายพิณที่ยืนพิงต้นดอกเหมยด้วยแววตาเศร้าก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วหยุดยืนข้างกายคุณชายพิณ
"คุณชายท่านเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ข้าพอมองออกว่าท่านไม่ได้ร่าเริงอย่างที่แสดงออกมา บอกข้าได้ไหมว่าท่านเป็นอะไร?..." คุณชายพิณค่อยๆ หันหน้าหันมาทางคนด้านข้างพร้อมกับดวงตาคู่สวยเริ่มจะมีน้ำใสๆ ไหลอาบแก้มอย่างน่าเห็นใจ
"ท่านจอมยุทธ์ช่วยข้าที ข้าไม่รู้จะทำยังไงแล้วตอนนี้ข้าทุกข์ใจเหลือเกิน" จอมยุทธ์หนุ่มอดที่จะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้กับคนร่างเล็กตรงหน้าไม่ได้ เขาค่อยๆ ประคองคนตัวเล็กลงนั่งข้างกายใต้ต้นดอกเหมยอย่างอ่อนโยน
"ท่านระบายออกมาเถอะ อย่าเก็บไว้ให้เป็นทุกข์ใจอีกเลย ข้าพร้อมจะรับฟังท่านทุกเรื่องนะครับคุณชาย" ก่อนที่จอมยุทธ์หนุ่ม จะฉวยโอกาสจับมือเรียวงามของคุณชายหน้าหวานเข้ามากุมไว้บนตัก
"ก่อนอื่นข้าต้องขออภัยท่านที่ตอนอยู่ที่โรงน้ำชา ที่ข้าประพฤติตัวไม่ดีกับท่าน อย่างที่สองข้าขอเรียกท่านว่าท่านพี่จะได้ไหมครับ?" แล้วจอมยุทธ์หนุ่มจะตอบคุณชายผู้มีน้ำตาอาบแก้มอย่างไร ในเมื่อใจของเขาตอนนี้ไม่ได้คิดกับคนข้างกายแค่เพียงน้องชายเท่านั้นแต่ความรู้สึกลึกๆ เขารู้สึกผูกพันและรักคุณชายพิณเสียแล้ว
"ได้สิน้องพี่ เจ้าจะเรียกข้าว่าท่านพี่ย่อมได้เสมอ แต่เพียงสำหรับเจ้าคนเดียวนะ" จอมยุทธ์ต๊ะพยายามเอ่ยคำนั้นออกมาเพื่อให้คุณชายผู้มีน้ำตาอาบแก้มเกิดความสบายใจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ข้าขอขอบคุณท่านมาก ที่ให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่" รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานอีกครั้ง นับเป็นรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความสุขจริงๆ ไม่ใช่เพื่อการเสแสร้ง ส่งผลให้จอมยุทธ์หนุ่มอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ คุณชายพิณสวมกอดเขาจากด้านข้างโดยใบหน้าหวานซบลงที่อกกว้างอย่างจงใจและเต็มใจที่สุดแล้วค่อยๆ คลายวงแขนออกจากจอมยุทธ์หนุ่มเพื่อนั่งพิงต้นดอกเหมยใหญ่
เขานั่งมองใบหน้าหวานที่ทอดสายตามองออกไปจนสุดลูกหูลูกตาที่มีแต่ธรรมชาติที่สวยงามและภูเขาสลับซับซ้อนมากมาย ยิ่งเขาได้มองยิ่งทำให้เขาหลงรักคนด้านข้างมากขึ้นๆ จนแทบจะห้ามใจไม่ไหว ที่จะลอบหอมแก้มคนด้านข้างอย่างปรารถนาแต่ถูกดวงตาคู่สวยหันมามองเขาเสียก่อนจึงทำให้เขาหมดโอกาสที่จะได้หอมแก้มขาวนั้น
"ชีวิตของข้า หากท่านได้ฟังแล้วอาจจะคิดว่าข้าแต่งเรื่องขึ้น แต่อยากจะบอกท่านพี่ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ข้าจะเล่าให้ท่านฟังนับจากนี้เป็นความจริงทั้งหมด ขอฟ้าดินเป็นพยานหากข้าหลอกลวงท่านพี่ ขอให้ตายด้วยคมหอกคมดาบภายในสามวันเจ็ดวัน...” ขณะที่คุณชายหน้าหวานกำลังจะสาบานต่อเพื่อยืนยันว่าเรื่องราวที่ตนจะเล่าเป็นความจริงกลับถูกจอมยุทธ์ต๊ะร้องห้ามเสียก่อน
“พอเถอะอย่าสาบานอีกเลย พี่เชื่อแล้ว เชิญพิณน้องพี่เล่ามาเถอะ”
“ครับท่านพี่ ข้าพิณอู เกิดและโตในหอนางโลม ข้าเป็นลูกชายของหญิงนางโรมนางหนึ่งซึ่งข้าเกิดมาโดยไม่มีพ่อ มีเพียงแต่แม่ ข้าโตขึ้นท่ามกลางบรรดานางโรมจนอายุได้ 15 ปี แม่ของข้าก็เสียชีวิตลง ข้าเป็นเพียงพ่อบ้านในหอนางโลม คอยเก็บกวาดเช็ดถูทำความสะอาดอยู่หลายปี จนวันหนึ่งท่านพี่ผู้เป็นสามีของข้าได้มาเที่ยวในหอนางโลมแห่งนั้น เขาพยายามเลือกสตรีที่งามที่สุดในหอนางโลมแต่ก็ไม่มีนางโรมคนใดจะถูกใจท่านพี่เลย ณ ตอนนั้นข้าเพิ่งทำความสะอาดห้องพักห้องหนึ่งเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องด้วยความไม่ระวังทำให้ข้าเดินชนเข้ากับท่านพี่ ส่งผลให้ข้าวของในมือร่วงกระจายเกลื้อนพื้นแต่เขาก็ยังมีน้ำใจช่วยข้าเก็บ ของก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมามองข้าอยู่นานจนข้ารู้สึกอายกับสายตาคู่นั้น ท่านพี่เข้าไปคุยกับเจ้าของหอนางโลมอยู่พักใหญ่ เพื่อสอบถามว่าข้าเป็นใคร มาจากไหนเมื่อเขาได้คำตอบ เขาเลยขอซื้อข้าเพื่อไปเป็นภรรยาของเขาที่โรงน้ำชาในปัจจุบันนี้ ข้าอยู่กับเขามาได้ 2 ปีแล้วครับ เขาเลี้ยงดูข้าเป็นอย่างดี ปรนนิบัติข้าทุกอย่างเช่นสตรีนางหนึ่งก็ว่าได้แต่สิ่งหนึ่งที่ข้ารู้สึกเป็นทุกข์ทุกครั้งที่ต้องคอยรับใช้เขาในยามหลับนอน ข้าต้องแสร้งว่าข้ามีความสุข มีรอยยิ้มกับสิ่งที่เขามอบให้ แต่เขาหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขามอบให้ข้ามันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่สุดทุกคืน ทุกวัน ข้าไม่สามารถที่จะอดทนได้อีกแล้วกับการกระทำอันป่าเถื่อนของเขา ท่านพี่ท่านช่วยข้าได้หรือไม่ ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านทุกอย่างข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านต้องการ สิ่งเดียวที่ข้าต้องการจากท่าน...”
“เจ้าต้องการให้พี่ช่วยเรื่องใดโปรดบอกพี่มาเถิด”
“ขอให้ท่านพาข้าไปจากที่นี่ทีได้ไหม ข้าสัญญา ข้าจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ ท่านต้องการอะไรที่ข้าสามารถช่วยท่านได้ ข้ายินดีทำทุกอย่างเพียงให้ท่านพาข้าไปกับท่านด้วย ข้าเองก็พอมองออกเช่นกันว่า ท่านเองได้หลงรักข้าแล้วหรือไม่ วันใดที่ท่านเบื่อข้า ข้าก็พร้อมจะไปจากท่านทันที ขอให้ท่านพาข้าไปด้วยเถิด ข้าขอร้อง!!..." จอมยุทธ์หนุ่มตั้งใจฟังด้วยสีหน้าเห็นใจกับเรื่องราวที่เจ็บปวด
"เรื่องราวของเจ้าช่างน่าเห็นใจยิ่งนัก ข้าเองได้ฟังแล้วกลับเห็นใจและสงสารเจ้าเป็นที่สุดแต่ข้าไม่อาจจะพรากภรรยาไปจากสามีที่รักของเจ้าได้ แม้ใจจริงของข้าอยากจะพาเจ้าไปด้วยก็ตาม ข้าไม่รู้จะทำยังไงอาพิณ มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกกับเจ้าเมื่อเจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าข้ารู้สึกยังไงกับเจ้าหากเจ้ายอมรับข้าเป็นคนรักของเจ้า ข้าเองให้สัญญาว่าข้าจะรักและดูแลเจ้าเป็นอย่างดีไม่ให้แพ้กับท่านพี่ปั้วของเจ้าเลย เจ้าจะว่ายังไง?..." ทันทีที่จอมยุทธ์หนุ่มกล่าวจบ คุณชายพิณก็สวมกอดอีกฝ่ายด้วยความดีใจแล้วประทับริมฝีปากเรียวสวยบนริมฝีปากหนานุ่มอย่างดูดดื่มทันที โดยที่จอมยุทธ์หนุ่มไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดแต่กลับตอบสนองอีกฝ่ายอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน กลีบของดอกเหมยค่อยๆ ผลิจากดอกรวยโรยพัดปลิวลงสู่พื้น สายลมอ่อนๆ พัดโชยสร้างบรรยากาศให้กับคนทั้งสองร่วมรักกันภายใต้ต้นดอกเหมยใหญ่ได้ดีทีเดียว