“เจนิสเต้นเป็นไงบ้างคะพี่พอร์ช สวยไหม”
เมื่อนั่งอยู่ในรถเงียบ ๆ มานานจนรู้สึกอึดอัด เจณิสตาจึงชวนเขาคุย
“เธอก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วนะ มาถามพี่อีกทำไม”
“แหม ก็อยากรู้นี่คะ ว่าในสายตาพี่พอร์ชมองว่าเจนิสสวยหรือเปล่า”
คนตัวโตชะงัก เหลือบมองคนตัวบางที่เอียงหน้ามองเขาอย่างน่ารักก็ต้องกัดกรามกรอด อยากจับเธอกระแทกแรง ๆ ให้รู้สำนึก ว่าการอ่อยเขามันจะทำให้เธอเจอกับอะไร
แต่ก็ไม่อาจทำแบบนั้นได้ ทั้งยังรู้สึกหงุดหงิดเด็กช่างยั่วอีกเป็นเท่าตัวเมื่อคิดว่าเธอไปทำแบบนี้กับใครมาแล้วบ้าง ถึงได้ดูไม่เคอะเขินสักนิดเวลาอ่อยผู้ชาย
“สำคัญด้วยเหรอ เธอเองคงชินแล้วที่มีผู้ชายมาหยอด”
“สำคัญสิคะ กับผู้ชายคนอื่น เจนิสได้รับคำชมมาจนเอียนแล้วค่ะ อยากฟังจากปากพี่พอร์ชบ้าง”
“พี่ก็เป็นผู้ชาย”
“ทราบค่ะ ตอบหน่อยนะคะ มันสำคัญกับเจนิสมาก”
ดวงตากลมโตแวววาวคู่นั้นทำเขาใจเต้นแต่ต้องเก็บอาการ
“อืม สวย”
“แค่นี้เหรอคะ”
“แล้วจะให้พี่พูดอะไร ก็เธอถามว่าสวยไหม พี่ก็ตอบไปตามที่คิดว่าเธอสวย”
“แล้วชอบไหมคะ”
พิพัฒน์ชะงักไปไม่เป็น สองหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหน้าแอบอมยิ้มเมื่อนักร้องสาวทำให้เจ้านายเขาแทบเก็บอาการไม่อยู่
“ชอบอะไร”
“ก็...ชอบเจนิสไงคะ”
“เหอะ อ่อยพี่อยู่เหรอ”
“รู้แล้วยังจะถามอีกเหรอคะ”
“ก็เหมือนที่เธอรู้ไงว่าพี่ชอบเธอหรือเปล่า ยังจะต้องถามอีกเหรอ”
“ยอกย้อนนะคะ ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ เจนิสมีเวลาอ่อยพี่อีกนาน”
พูดจบก็ทิ้งแผ่นหลังพิงเบาะแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาท่องโลกโซเชียลเพื่อเช็กข่าว ก่อนชะงักเมื่อมีข่าวซุบซิบของเขากับเซลิน่าจากเหตุการณ์ที่ดาราสาวไปหาเขาถึงออฟฟิศเมื่อเช้านี้
“พี่พอร์ชคบกับพี่เซน่าจริง ๆ เหรอคะ”
“ไม่ได้คบ บอกแล้วไงว่าพี่ไม่คบใคร”
“แต่พี่เซน่าไปหาพี่พอร์ชที่ออฟฟิศเมื่อเช้านี้ มีคนเขียนข่าวซุบซิบด้วยว่าพี่เซน่าไปส่งส่วยให้พี่ก่อนไปอเมริกา”
“เหอะ รู้ดีจริง ทำอย่างกับอยู่ใต้โซฟา”
คำพูดของเขาทำเจณิสตาอ้าปากค้าง แปลว่าเซลิน่ามาส่งส่วยเขาถึงที่จริง ๆ แถมยังทำกันบนโซฟาในห้องทำงานอีกต่างหาก นี่เธอคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะที่เลือกเขา
“ชอบแบบพี่เซน่าเหรอคะ”
คนหล่อเลิกคิ้วแทนคำถาม มองสบดวงตากลมโตวาววับที่ดูเหมือนจะไม่พอใจคู่นั้นแล้วนึกขำ
“ถ้าชอบพี่จริงต้องรู้สิว่าผู้หญิงที่พี่เคยควงเป็นแบบไหน ที่แน่ ๆ ไม่มีใครเป็นเด็กแบบเธอก็แล้วกัน”
“เจนิสไม่ใช่เด็กแล้วไงคะ ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง บรรลุนิติภาวะมาสองปีแล้ว เรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วย”
พูดจบก็ขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักแล้วโอบแขนรอบลำคอแกร่งหน้าตาเฉย ทำคนตัวโตตกใจรั้งเอวบางเอาไว้ไม่ให้เธอเข้าใกล้มากกว่านี้
“เจนิส...ทำอะไร”
“ก็ขึ้นมานั่งให้พี่พอร์ชดูให้ชัด ๆ ไงคะ ว่าเจนิสไม่ใช่เด็กแล้ว”
“ลงไป เจนิส”
“ไม่ค่ะ ดูหรือยังคะ”
คนตัวบางแต่อวบอิ่มไปด้วยวัยสาวถอดเสื้อคลุมแบรนด์เนมทิ้ง ขยับหน้าอกที่เบียดกันจนชิดภายใต้เสื้อสายเดี่ยวเอวลอยเข้าหาเขา หนุ่มหล่อเอนหลังหนี ก่อนจะต้องกัดกรามแน่นเมื่อความสวยงามตรงหน้าทำหัวใจของเต้นกระหน่ำ อยากรู้เหลือเกินว่าภายใต้เสื้อผ้านั้น เรือนร่างของเธอจะเป็นแบบไหน
“เห็นแล้ว”
“แบบเจนิสพอได้ไหมคะ”
มือเล็กบังคับมือใหญ่ให้มาลูบไล้หน้าท้องแบนราบ ผิวพรรณขาวสว่างสะท้อนแสงของเธอนุ่มเนียนลื่นมือจนเขาแทบสติแตก
“จะเอาให้ได้ใช่ไหม”
“ค่ะ ถ้าเจนิสจะเอาให้ได้ พี่จะยอมไหมคะ คืนนี้เลยก็ได้ เจนิสพร้อม”
เธอมองสบตาเขาอย่างยั่วยวน นิ้วเล็กกรีดไล้แนวสันกรามที่มีตอหนวดเคราให้ความรู้สึกจั๊กจี้ ก่อนดันคางเหลี่ยมขึ้นแล้วโน้มหน้าลงไปหา
อีกเพียงนิดที่ริมฝีปากสีชมพูดสดจะสัมผัสลงไป เขากลับเบี่ยงหน้าหนีเสียอย่างนั้นทำเธอพลาดเป้า จึงจูบแก้มสากแรง ๆ แก้เก้อ
“เล่นตัวจังเลยนะคะ คิดว่าเจนิสอยากได้พี่มากเหรอ ถึงทำแบบนี้”
“ก็อยากได้ไม่ใช่หรือไง”
“ค่ะ อยากได้ แล้วจะต้องเอาให้ได้ด้วยสิ ทำยังไงดีคะ พี่พอร์ชทำเจนิสว้าวุ่นไปหมดแล้ว”
คนหล่อยิ้มมุมปากยั่ว ดวงตาคมกริบมีเสน่ห์ที่แปลความหมายไม่ออกคู่นั้นจ้องตาเธอเนิ่นนานทำสาวน้อยสั่นไปทั้งตัวด้วยความประหม่า แต่ก็ยังต้องทำใจดีสู้เสือด้วยการจ้องเขากลับไปไม่มีเลี่ยงหลบ
พิพัฒน์แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองลงมาทั้งแถบ จับมือเล็กมาลูบคลำซิกซ์แพ็ก แม้จะตกใจจนมือไม้สั่น แต่ก็เป็นการสั่นสู้ เมื่อเธอก้มมองลอนกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยของเขาแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ในขณะที่มือลูบคลำตามที่เขาชักนำไม่หยุด
เขาโน้มลำคอเธอลงมาหาช้า ๆ ในขณะที่ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกัน เขาก็เบี่ยงหน้าเข้าหาใบหูแทนแล้วกระซิบเสียงพร่า
“พอไหม เอาไว้จินตนาการตอนช่วยตัวเองคืนนี้”
“พี่พอร์ช...”
เจณิสตาอ้าปากค้าง เบิกตากว้าง ไม่คิดว่าเขาจะกล้าถีบคนอย่างเธอตกสวรรค์ทั้งที่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเธอมาก่อน
และที่ช็อกอีกรอบคือเขาจับเธอลงมานั่งข้างกัน ก่อนจะสวมเสื้อคลุมให้พร้อมรูดซิปจนถึงลำคอ ไม่วายกระซิบเบา ๆ ข้างใบหูด้วยถ้อยคำไม่น่าฟัง
“นมเล็กแค่นี้ เอาความมั่นใจที่ไหนมาอ่อยพี่กันนะ...เจนิส”
เธออับอายและหงุดหงิดจนไม่ยอมลงมาร่วมโต๊ะมื้อค่ำ อ้างกับแม่บ้านว่าต้องลดหุ่นเพราะกำลังจะถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงใหม่
จิตใจนักร้องสาวที่กำลังนอนแช่น้ำอุ่นว้าวุ่นจนไม่มีสมาธิฟังเพลง จึงกดปิดแล้ววางโทรศัพท์ลงอย่างกระแทกกระทั้น เหลือบมองดูนาฬิกาก็เห็นว่าดึกมากแล้ว แต่ท้องเจ้ากรรมดันร้องประท้วงเพราะเธอแทบไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน
“บ้าจริง หิวตอนนี้จะกินอะไรได้ล่ะ”
ร่างงามลุกจากอ่างแล้วเช็ดตัวอย่างกระฟัดกระเฟียด เหลือบตาค้อนขวับหวังส่งไปให้ถึงชายหนุ่มที่ทำเธอเจ็บแสบที่สุดอย่างพิพัฒน์
ความมั่นใจในตัวเองหดหายลงไปจนติดลบ นี่เธอไม่สวย ไม่เซ็กซี่ และหน้าอกเล็กตามที่เขาปรามาสจริง ๆ เหรอ ทั้งที่แน่ใจมาตลอดชีวิตว่าตัวเองสวย น่ารักและเย้ายวนเพียงใด หรือมันเป็นเพียงแค่การหลงตัวเองกันนะ
“หึ นมเล็กใช่ไหม ต้องใหญ่ขนาดไหนกันนะถึงจะสะใจ ถ้าไม่มีงานเยอะขนาดนี้จะจองคิวทำนมเลย มาว่ากันแบบนี้ได้ยังไง ผู้ชายปากมอม”
บ่นไปพร้อมกับใส่ชุดนอนกระโปรงแบบเสื้อเชิ้ตแขนยาวคลุมสะโพกอย่างกระแทกกระทั้น ทาครีมบำรุงผิวและโลชันกลิ่นดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็เดินลงไปข้างล่าง จุดหมายคือห้องครัวที่ตอนนี้ไม่น่าจะมีอะไรหลงเหลือให้เธอกินแล้ว
พิพัฒน์ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มเลิกคิ้วมองสาวสวยในชุดนอนสีขาวที่เดินเลี้ยวเข้าไปในห้องครัวอย่างแปลกใจ ก่อนกระตุกยิ้มมุมปาก ยกเครื่องดื่มดีกรีแรงกระดกจนหมดแก้วแล้วเดินตามเธอเข้าไปทันที
นักร้องสาวเปิดตู้เย็นแบบบานพับสองประตู ค้นหาของที่เธอจะกินได้ประทังความหิว แต่กลับไม่มีอะไรเลยที่พอจะกินได้โดยไม่อ้วน จึงหยิบนมติดมือมาขวดหนึ่ง
เมื่อปิดตู้เย็นแล้วหมุนตัวกลับก็ต้องตกใจจนสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ ๆ ก็เห็นชายหนุ่มที่เธอก่นด่าเขาในใจมาหลายชั่วโมงยืนกอดอกพิงกรอบประตูด้วยท่วงท่าสุดเท่
“ไง หิวเหรอ”
“ค่ะ”
“เมื่อเย็นสะเทือนใจหรือไงถึงไม่ยอมลงมากินข้าว”
“สะเทือนใจเรื่องอะไรคะ”
เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี จะให้ยอมรับก็กลัวเสียหน้า
“ก็เรื่องที่พี่ปฏิเสธเธอไง แล้วก็เรื่องที่พี่ว่าเธอนมเล็กด้วย”
“เรื่องแค่นั้นเอง เจนิสไม่สนใจหรอกค่ะ ไม่ได้เก็บมาเป็นอารมณ์สักนิด เพราะเจนิสมั่นใจว่าตัวเองมีดีพอ ไม่งั้นผู้ชายไม่เข้ามารุมจีบเจนิสจนแทบจะเหยียบกันตายหรอกค่ะ อ้อ อีกอย่างผลโหวตที่ผู้ชายทั่วโลกอยากเป็นแฟนกับเจนิสที่สุดก็ไม่ได้มามั่ว ๆ นะคะ”
คำพูดของเธอทำเขากัดกรามแน่น ดวงตาวาบขึ้นในความมืด
“มีผู้ชายมารุมจีบจนแทบจะเหยียบกันตายแล้วมาวุ่นวายกับพี่ทำไม ทำไมไม่เป็นแฟนกับคนพวกนั้นไปซะ หรือลองลากขึ้นเตียงแล้วมันไม่สะใจเธอ”
“ก็...ประมาณนั้นค่ะ เจนิสมีสิทธิ์เลือก ก็ขอเลือกหน่อยสิคะ ถ้าไม่เด็ดจริงจะคบด้วยทำไม”
พิพัฒน์แค่นหัวเราะหยัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะร้ายกาจเพียงนี้ ถึงว่ากล้าที่จะอ่อยเขาจนสุดตัว แถมยังใจกล้าหน้าด้านชวนเขาขึ้นเตียงอีกต่างหาก
ถ้าเธอไม่ใช่เด็กในความดูแลของแม่ เขาจะไม่ลังเลเลย จะลากเธอขึ้นไปจัดบนเตียงให้จุก เอาให้สาแก่ใจจนไม่กล้ามาร้องขอให้น่ารำคาญแบบนี้อีก
“เสียใจด้วยนะที่เธอต้องผิดหวัง”
“เรื่องพี่เหรอคะ เจนิสไม่ได้ถอดใจสักนิดค่ะ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก นี่มันแค่เริ่มต้น พี่พอร์ชเตรียมตัวเตรียมใจพบกับเจนิสเวอร์ชันใหม่ได้เลยค่ะ ขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ ง่วงแล้ว”
พูดจบก็เดินเฉียดแขนเขาผ่านไป กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากโลชันกลิ่นดอกไม้ทำพิพัฒน์แอบสูดลมหายใจลึก มือใหญ่คว้าหมับที่แขนเล็กข้างที่ถือขวดนมอยู่แล้วกระชากเธอกลับมาทำคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจกรีดร้องลั่น
“ว้าย”
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู แต่พี่บอกไว้ก่อนว่าเธอจะเสียเวลาเปล่า พี่ไม่ชอบเธอ ออกจะรำคาญด้วย”
“เดี๋ยวพี่ก็ชอบเจนิสค่ะ อ้อ คืนนี้เจนิสเหนื่อยเกินไป ยังไม่ทันได้เอาซิกซ์แพ็กของพี่ไปจินตนาการช่วยตัวเองนะคะ พรุ่งนี้ขอจับอีกรอบแล้วกัน ถ้าลงต่ำกว่านั้นจะดีมาก ฝันดีนะคะพี่พอร์ช”