บทที่ 4 ให้พวกเขาหมั้นกันเถอะ 2

1125 คำ
“คอยดูเถอะ… ฉันจะฟ้องตาเจษให้จัดการแก” แวววรรณที่สู้ไม่ได้ชี้หน้าด่าเด็กสาว กระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความเจ็บใจ ต้องงัดเอาไพ่ตายอ้างชื่อลูกชายขึ้นมาข่มขู่ เพราะเจษณะเป็นจุดอ่อนเดียวที่ทำให้ลัลล์นลินยอมก้มหัวให้หล่อน ยอมถูกหล่อนโขกสับรังแกเป็นประจำโดยไม่กล้าปริปาก หล่อนลำพองโดยหารู้ไม่ว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว... “อยากฟ้องก็ฟ้องไปเถอะ ฉันไม่กลัว” ลัลล์นลินกระตุกยิ้มเย็น เชิดหน้าบอกหล่อนอย่างไม่เกรงกลัว “แกกล้าย้อนฉันเหรอนังลูกกำพร้า ในเมื่อแกไม่เห็นหัวฉัน ก็อย่าหวังจะได้แต่งงานกับลูกชายฉันเลย ฉันจะยุให้ตาเจษยกเลิกงานหมั้นกับแกซะ!” “ไม่หมั้นก็ไม่หมั้น ฉันเองก็ไม่อยากแต่งงานกับลูกชายคุณเหมือนกัน เขารักอมลฉวีไม่ใช่เหรอ งั้นฉันยกงานหมั้นครั้งนี้ให้พวกเขาเลยก็แล้วกัน” ลัลล์นลินโพล่งออกมาอย่างสุดจะทน เธอเหนื่อยเหลือเกิน... เธอยอมแพ้แล้วกับความรักหลายสิบปีที่บ่มเพาะอยู่ภายในใจ เขารักคนอื่น... แคร์คนอื่น... การมีตัวตนของเธอกลายเป็นก้างขวางคอสำหรับพวกเขา เมื่อความรู้สึกที่ไร้ค่าเดินมาถึงจุดสิ้นสุด ถึงแม้จะเสียใจและเสียดายมากแค่ไหน เธอก็ทำได้แค่ปล่อยมือละทิ้งมันไป... น้ำตาที่นองหน้าทำให้สายตาของเธอพร่ามัวจนแทบมองอะไรไม่เห็น ในอกรวดร้าว เจ็บมากจนอยากจะหนี ไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้อีกสักวินาทีเดียว คิดแล้วลัลล์นลินก็พุ่งพรวดผ่านหน้าแวววรรณไป เอื้อมมือเปิดประตูเตรียมจะขังตัวเองเอาไว้ในห้อง แต่ถูกยับยั้งไว้ด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มเคร่งขรึมที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลังของเธอแข็งทื่อ เลือดในกายเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง สมองช็อตทันที “เกิดอะไรขึ้น” เสียงเอะอะโวยวายดังไปถึงห้องอาหาร ทำให้เจษณะขมวดคิ้วไม่พอใจ คิดว่าคงจะมีใครสักคนขัดใจแม่ของเขาแน่ เขาเดาได้เลยว่าถ้าไม่ใช่สาวใช้เซ่อซ่าก็คงเป็น... ความเป็นห่วงเอ่อล้นขึ้นมาในจิตใจ เขารีบลุกขึ้นเพื่อเดินมาดู แต่อมลฉวีขอตามมาด้วย เขาไม่อยากเสียเวลาจึงพยักหน้า แล้วช้อนตัวอุ้มหล่อนเดินตรงดิ่งไปตามเสียง มี ‘อเนก’ และ ‘รัมภา’ หัวหน้าพ่อบ้านและแม่ครัวประจำคฤหาสน์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ของอมลฉวีเดินตามหลังมาติดๆ คำพูดที่ได้ยินทำให้สีหน้าของเขามืดครึ้ม จ้องมองคนพูดแน่นิ่งเย็นชา ผิดกับคนที่อยู่ในอ้อมแขนเขาที่ตกใจ รีบร้องบอกลัลล์นลิน “เธอเป็นอะไรไปเหรอหลิน ฉันทำให้เธอไม่พอใจใช่ไหม เธออย่าโกรธเลยนะ ฉันกับเจษเป็นเพื่อนกันเท่านั้น พวกเราไม่มีอะไรกันจริงๆ ถ้าเธอไม่เชื่อ ทีหลังฉันไม่เจอเจษแล้วก็ได้” สีหน้าของอมลฉวีเต็มไปด้วยความเจ็บปวดยากจะทนไหว แต่หล่อนก็กล้ำกลืนด้วยความรวดร้าว ดวงตาคู่โศกมองเธออย่างรู้สึกผิด ก่อนจะหันหน้ามองเจษณะอย่างลำบากใจ พยายามส่งสายตาวิงวอนให้เขาช่วย ด้วยกลัวเธอจะโกรธเคืองขึ้นมาจริงๆ ลัลล์นลินยิ้มเยาะ หล่อนบอกเธอว่าอย่าเข้าใจผิด? เขาอุ้มหล่อนแนบอก หล่อนยกมือคล้องคอเขาแนบแน่น สองคนดูใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดนี้ เขามองตาหล่อนอย่างอ่อนโยน แสดงทีท่าปกป้องอย่างออกนอกหน้า ถ้าไม่บอก...เธอนึกว่าเจษณะกำลังอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอเสียอีก เธอเข้าใจผิดงั้นหรือ? ทีแรกลัลล์นลินเห็นเขาแล้วตกใจ เกิดตื่นเต้น ต่อมาก็กลายเป็นความรู้สึกผิด สุดท้ายภาพที่ทำร้ายหัวใจเธออย่างสาหัสก็แปรเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร? เธอทำอะไรก็ผิดไปหมด! ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน... เธอพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับเจษณะ เธอต้องกล้ำกลืนต่อความเย็นชาของเขา ยิ้มรับอย่างขมขื่นกับความลำเอียงที่เขาเอาใจอมลฉวี ขณะที่หล่อนตั้งใจแกล้งเธอสารพัด เธอยังต้องฝืนทนยอมให้แม่ของเขาโขกสับด่าทอเวลาที่ไม่พอใจอีก เขารู้... แต่เขาก็เฉย ไม่เคยแยแสเธอเลย ในสายตาเขา... เธอเป็นคน ‘ผิด’ เธอเป็นคนบาปหนาที่ต้องชดใช้กรรม! ที่ผ่านมาเธอทุ่มเทและอดทนอย่างไร้ค่า เปล่าประโยชน์... ใช่ เธอรักเขา แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรักและยังเจ็บปวดได้อย่างง่ายดายเพราะเขา เธอรักเขาจนยอมลดคุณค่าในตัวเองไม่ต่างจากเศษดิน แต่เธอจะไม่แลกศักดิ์ศรีสุดท้ายกับความรักที่ไร้ค่าในสายตาเขาเด็ดขาด เธอไม่ได้สูงส่ง แต่ไม่อาจเหยียบย่ำตัวเองแบบนั้นได้เช่นกัน ทุกอย่างมันควรจบสิ้นเสียที! ลัลล์นลินตัดความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไป ทั้งความรักและความเจ็บปวด เงยหน้าเผชิญกับเขาอีกครั้ง อาจเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ... แววตาสิ้นหวังมองเขาอย่างเด็ดเดี่ยว เธอไม่กลัวที่จะต้องสูญเสีย เพราะเธอไม่เคยได้รับอะไร แล้วจะเสียได้อย่างไรล่ะ? พอสบตาลัลล์นลิน ในอกของเจษณะก็รู้สึกโหวงๆ เหมือนถูกใครคว้านหัวใจออกมาเหยียบเล่น เจ็บแต่ไม่มีเลือด กลายเป็นหลุมลึกสุดหยั่ง มองไม่เห็นก้นบึ้ง มีแต่ความเหน็บหนาวสะท้านใจ ก่อนจะแผ่กระจายปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย เขาไม่ชอบเลยที่เธอเงียบแบบนี้ มันทำให้ใจเขากระวนกระวายแปลกๆ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังเหมือนมียมทูตถือคมเคียวมาจ่ออยู่ที่คอหอย เขารู้สึกอึดอัด หวาดกลัวจนต้องกลั้นหายใจ แม้แต่กลืนน้ำลายก็ยังยากเย็น “อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว ฉันจะได้พูดทีเดียวจบ ฉันขอยกเลิกงานหมั้นทั้งหมด ต่อไปนี้ระหว่างฉันกับคุณเจษณะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เขาอยู่ส่วนเขา ฉันอยู่ส่วนฉัน!” ลัลล์นลินประกาศกร้าว ไม่สนว่าใครจะคิดหรือมองเธออย่างไร? เธอรู้แต่ว่าตัวเองหมดแรงแล้ว… แม้แต่การหายใจก็แทบจะเค้นแรงออกมา หากมีใครเอานิ้วมาจิ้มเธอเบาๆ ตอนนี้ เธอคงล้มคะมำไปทั้งตัว เธอใช้แรงไปหมดแล้วเพื่อรักษาศักดิ์ศรีอันน้อยนิดให้คงอยู่ เธอต้องรีบเข้าห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่เธอจะจนล้มลงไปต่อหน้าต่อหน้าพวกเขา เธอไม่มีทางประจานความอ่อนแอของตัวเองให้ใครหัวเราะเยาะอีก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม