เสียงนาฬิกาเรือนหรูในห้องแต่งตัวดังก้องเป็นจังหวะ ราวกับเตือนให้ซานรู้ตัวว่าเวลานั้นเดินไปข้างหน้าเสมอ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จทันเวลาอยู่ดี เขายืนอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมองเงาตัวเองที่สวมสูทสั่งตัดสีดำเข้ม แพรวพราวด้วยผ้าไหมมันวาวที่รับกับแสงไฟอย่างพอดิบพอดี ริ้วผ้าเรียบกริบทำให้เขามีบุคลิกที่ดูมีอำนาจอย่างไม่ต้องพยายาม แต่ภายในใจของซานกลับรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ตัวของตัวเอง “เฮ้อ! เหมือนใครก็ไม่รู้...ไม่เหมือนกูเลยสักนิด” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองในกระจกอย่างขบขัน แต่ในใจกลับขมขื่นจนแทบยิ้มไม่ออก ค่ำคืนนี้...สมาคมการค้าจัดงานเลี้ยงประจำปีขึ้น ณ โรงแรมหรูใจกลางเมือง เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของธุรกิจรุ่นใหม่ ซานในฐานะตัวแทนบริษัท ได้รับเกียรติขึ้นเวทีเพื่อรับโล่รางวัลเชิดชูศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เสียงปรบมือดังลั่นไปทั